ตัวละคร ของ วากาบอนด์

มิยาโมโตะ มุซาชิ

ตัวเอกของเรื่อง เดิมชื่อ ชินเม็ง เทเคโซ เป็นบุตรชายของ ชินเม็ง มุนิไซ ยอดนักดาบมีชื่อ เกิดที่เมืองมิยาโมโตะในแคว้นซาคุ ต้องการจะเป็นนักดาบอันดับ 1 ในปฐพี จึงออกเดินทางฝึกวิชาด้วยการท้าประลองกับยอดฝีมือทั่วแผ่นดินเพื่อเอาชนะไปทีละคนๆ หากไม่มีใครที่สามารถเอาชนะตนได้ก็แสดงว่าเป็น หนึ่งในปฐพี แล้ว แต่ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ เรียนรู้ความหมายของคำว่า หนึ่งในปฐพี ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร รวมถึงได้ฝึกฝนด้านจิตใจไปด้วยจนเรียนรู้ปรัชญาของชีวิตจนเป็นเลิศควบคู่ไปกับเพลงดาบด้วย

ซาซากิ โคจิโร

ตัวเอกอีกคนหนึ่งของเรื่องหูหนวกแต่กำเนิดแต่สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ผ่านการอ่านหนังสือ 'กำพร้าตั้งแต่ยังเล็กเพราะครอบครัวถูกสังหารหมด รอดชีวิตเพราะบิดาส่งตัวมาให้กับ คาเนมากิ จิไซ ผู้เป็นครูดาบช่วยเลี้ยงดูโดยมีเพียงดาบเล่มยาวซึ่งถือเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวติดตัวมาด้วย ภายหลังได้ อิโต้ อิตโตไซ นักดาบชื่อดังที่เคยเป็นศิษย์ของ คาเนมากิ จิไซ ช่วยฝึกฝนให้ด้วยวิธีการปล่อยให้ต่อสู้เอาชีวิตรอดจากการต่อสู้จริงด้วยตัวเอง ก่อนที่จะเดินทางฝึกฝีมือเพียงลำพัง

ฮอนอิเด็ง มาตาฮาชิ

เกิดที่เมืองมิยาโมโตะ เป็นเพื่อนกับ มุซาชิ และ โอซึอุมา ตั้งแต่เด็ก เป็นคนไม่เอาไหนซึ่งถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ลึกๆ แล้วมีความอิจฉามุซาชิอยู่ เพราะเป็นคนเก่ง แข็งแรง ทำอะไรด้วยความมั่นใจ จึงพยายามจะเอาอย่างและเอาชนะให้ได้ จริงๆ แล้วเป็นคนดีแต่ก็มักจะแพ้ใจตัวเองเสียทุกที เคยอ้างชื่อของ ซาซากิ โคจิโร่ ไปใช้หากินในสถานการณ์ที่คล้ายกับ ตกบันไดพลอยโจน ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ ซึ่งก็เป็นเพราะไอ้ความแพ้ใจตัวเองนี้ที่ทำให้ตามมุซาชิไม่ทันเสียที

โอซึอุ

เป็นเด็กกำพร้าที่บ้าน ฮอนอิเด็ง เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กโดยที่มีเพียงขลุ่ยเลาเดียวติดตัวมา เป็นเพื่อนกับ มุซาชิ และ มาตาฮาชิ มาตั้งแต่เด็ก รวมถึงเป็นคู่หมั่นของมาตาฮาชิที่ผู้ใหญ่หมั่นหมายให้ตั้งแต่เล็ก เคยคิดว่าตนเองชอบมาตาฮาชิ แต่ต่อมารู้ตัวว่าแท้จริงแล้วชอบมุซาชิอยู่โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน (สาเหตุที่คิดว่าชอบมาตาฮาชินั้นก็เพราะมาตาฮาชิยอมเป็นเพื่อนกับมุซาชิ ทั้งที่ไม่มีใครยอมคบกับมุซาชิในวัยเด็กเลย)

ทาคุอัน

พระแห่งวัดชิปโปที่ไม่เหมือนกับนักบวชทั่วไป ทั้งด้านการดำเนินชีวิตและวิธีการสอนสั่ง ชอบออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ เป็นคนแรกที่เริ่มชี้ทางสว่างให้กับมุซาชิ จนเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการเปลี่ยนชื่อจาก ชินเม็ง ทาเคโซ เป็น มิยาโมโตะ มุซาชิ เพื่อไม่ให้ลืมตัวตนที่แท้จริงซึ่งมาจาก หมู่บ้านมิยาโมโตะ แล้วออกเดินทางเพื่อฝึกฝนตัวเองเพื่อเป็นหนึ่งในปฐพี

ซึจิคาเสะ โคเฮ

หนึ่งใน กลุ่มโจรซึจิคาเสะ ผู้เป็นน้องชายของ ซึจิคาเสะ เท็นมะ หัวหน้ากลุ่มโจร จนถูกขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งความตาย" เป็นผู้มีความเคลื่อนไหวคล่องแคล่วคล้ายกับพวกนินจา เคยต่อสู้กับมุซาชิเพราะโกรธแค้นที่สังหารพี่ชายตน แต่กลับโกรธแค้นเพราะพี่ชายถูกมุซาชิตัดหน้าสังหารเสียก่อน เนื่องจากต้องการที่จะเป็นคนสังหารพี่ชายด้วยมือตัวเองเพราะความแค้นส่วนตัวในอดีต ที่ได้บีบกล่องดวงใจ ทำให้ไม่สามารถมีอะไรกับผู้หญิงได้

ซึจิคาเสะ เท็นมะ

ซึจิคาเสะผู้พี่ผู้เป็นหัวหน้า กลุ่มโจรซึจิคาเสะ พา ซึจิคาเสะ โคเฮ น้องชายและลูกสมุนออกปล้นสะดมจนเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน เป็นคนฆ่าแม่แท้ๆ ของตนเองตาย และยังมีความหลังครั้งอดีต และเป็นความลับระหว่างตนกับโคเฮผู้เป็นน้องชายแท้ๆ บางอย่างอยู่ จนทำให้โคเฮโกรธแค้นและเกลียดชังเท็นมะแบบฝังใจ ขนาดที่ตั้งใจว่าเป็นคนฆ่าพี่ชายด้วยมือตัวเอง ต่อมาพบกับมุซาชิและมาตาฮาชิจนต่อสู้กัน สุดท้ายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และถูกมุซาชิซึ่งเด็กว่าหลายปีฆ่าตาย

โยชิโอกะ เซจูโร่

โยชิโอกะผู้พี่ผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักโยชิโอกะ สำนักดาบชื่อก้องแห่งเกียวโต ด้วยรูปร่างหน้าตาที่บอบบางคล้ายผู้หญิง ประกอบกับนิสัยที่เป็นคนเจ้าสำราญ เอาแต่ดื่มสุราเคล้านารีไปวันๆ ทำให้ดูเหมือนคนไม่เอาไหน ไม่เหมาะสมจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก แต่แท้จริงแล้วเป็นมีผู้มีฝีมือดาบสูงส่งขนาดที่ว่ากันว่าถือเป็นอันดับ 1 ของเกียวโตเลยทีเดียว และมักจะคอยแอบช่วยเหลือ เด็นชิจิโร่ ผู้เป็นน้องชายอย่างลับๆ อยู่เสมอ เคยสอนเชิงมุซาชิจนฝากรอยแผลเป็นไว้กลางหน้าผากของมุซาชิ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในฝีมือดาบของทั้งคู่ในช่วงแรก และในช่วงสุดท้ายของชีวิตภายในค่ำคืนของวันขึ้นปีใหม่ เซจูโร่ได้พยายามลอบสังหารมุซาชิ เพื่อปกป้องเด็นชิจิโร่จากการประลองของทั้งสองที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้และถูกมุซาชิสังหารในที่สุด

โยชิโอกะ เด็นชิจิโร่

โยชิโอกะผู้น้อง มีรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขาม เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ไม่พอใจ เซจูโร่ พี่ชายที่มักจะทำตัวไม่สมกับเป็นเจ้าสำนัก และมักแสดงออกเหมือนตนมีฝีมือไม่ด้อยกว่าพี่ชายเสมอ ทั้งที่ลึกๆ แล้วยอมรับในฝีมือและความอัจฉริยะของพี่ชายอยู่ก็ตาม ยามปกติจะทำตัวเหมือนเป็นเจ้าสำนักคอยปกครองสำนักด้วยตนเองอยู่เสมอ ต่อมาภายหลังได้ประลองกับ มิยาโมโตะ มุซาชิ และได้พ่ายแพ้ไปในที่สุด

กิอน โทจิ

คนสนิทและเป็นผู้ติดตาม โยชิโอกะ เซจูโร่ ไปทุกๆ แห่ง เป็นเสมือนแกะดำของสำนักโยชิโอกะที่เชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง และไม่ให้ความยอมรับนับถือใครในสำนักเลยแม้แต่ โยชิโอกะ เด็นชิจิโร่ ที่เป็นผู้สืบทอดลำดับที่ 2 และเป็นเสมือนหนึ่งเจ้าสำนักด้วย จะมีก็เพียงแต่เซจูโร่ผู้เป็นนายเพียงคนเดียวที่ยอมรับว่าเหนือกว่า ทำให้แม้แต่ศิษย์ร่วมสำนักไม่ค่อยชอบเท่าใดนัก และภายหลังจากที่ 'มิยาโมโตะ มุซาชิ' ได้เข้าบุกรุกสำนักโยชิโอกะ ก็ได้ติดตามไล่ล่า 'มิยาโมโตะ มุซาชิ' แต่ด้วยสุราและขาดการฝึกซ้อมฝีมือดาบ ทำให้ฝีมือถดถอยลงไปมาก ต่อมาเมื่อเจอ 'มิยาโมโตะ มุซาชิ' อีกครั้ง ก็ได้เข้าไปมุ่งทำร้าย และถูกสังหารในที่สุด

อุเอดะ เรียวเฮ

ศิษย์เอกแห่งสำนักโยชิโอกะ เสมือนเป็นพ่อบ้านของบ้านโยชิโอกะที่คอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ภายในสำนัก และยังเป็นผู้ที่คอยติดตามเด็นชิจิโร่อยู่เสมอ เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อสำนักและว่ากันว่าเป็นผู้มีฝีมือสูงที่สุดในบรรดาศิษย์สำนักโยชิโอกะ ภายหลังจากพี่น้องโยชิโอกะ ได้ถูก 'มิยาโมโตะ มุซาชิ' สังหารก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าสำนัก และรวบรวมศิษย์ร่วมสำนักโยชิโอกะกว่า 70 ชีวิตเข้าสังหารมุซาชิ แต่ก็ถูกมุซาชิสังหารเกือบทั้งหมด และตัวเองก็พ่ายแพ้ในการต่อสู้ในครั้งนั้นด้วย

โจทาโร่

เด็กที่ชื่นชมในตัวมุซาชิ และคอยติดตามมุซาชิในฐานะศิษย์โดยหวังว่าจะพัฒนาให้เป็นคนเก่งและแข็งแกร่งขึ้นไปด้วยกัน นอกจากนี้โจทาโร่ยังมีลักษณะคล้ายกับมุซาชิในวัยเด็กอีกด้วย และเป็นผู้ใช้แสตนด์(นั่นมัน คูโจ โจทาโร่)

โฮโซอิน อินเอย์

โฮโซอินรุ่นแรกที่รู้จักกันในนาม หอกแห่งโฮโซอิน พระผู้บรรลุในวิชาหอกและการฝึกฝนจิตใจ ปัจจุบันออกจากวงการแล้ว วันๆ เอาแต่ปลูกผักและปฏิบัติธรรม แต่เดิมมุซาชิตั้งใจจะไปหาเพื่อประลองด้วยหมายจะพิชิตอินเอย์ให้ได้ แต่เมื่อพบกับพลังจิตที่แผ่ออกมาถึงกับทำให้มุซาชิก้าวขาไม่ออก และกลายมาเป็นอาจารย์ สอนวิชาให้กับมุซาชิด้วยหวังว่าจะช่วยสอนให้ อินชุน ศิษฐ์เอกผู้สืบทอดวิชาให้รู้จักกับ "ความกลัว" ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่อินชุนยังขาดอยู่ โดยกล่าวกับมุซาชิว่า "สำหรับผู้ที่แข่งแกร่งทุกคน ในการต่อสู้ทุกครั้งย่อมต้องมีความกลัว แต่ต่างกันที่คนๆ นั้นจะสามารถต่อสู้กับ "ความกลัว" นั้น โดยไม่สนใจมันได้หรือไม่"

โฮโซอิน อินชุน

โฮโซอินรุ่นที่ 2 ผู้ที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดโฮโซอินต่อจาก อินเอย์ เป็นผู้มีความเป็นเลิศด้านการต่อสู้โดยเฉพาะ"หอก" แต่ก็ยังไม่สามารถสมบูรณ์ได้เนื่องจากยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังขาดไป นั่นคือ "ความกลัว" ทำให้อินเอย์ผู้เป็นอาจารย์เกรงว่าวันใดที่ต้องพบกับ "ความกลัว" อินชุนจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ อินชุนเคยปะทะกับมุซาชิถึง 2 ครั้ง และเป็นผู้หยิบยื่นความพ่ายแพ้ให้กับมุซาชิเป็นครั้งแรก ซึ่งในครั้งนั้นทำให้มุซาชิบาดเจ็บอาการสาหัสทั้งทางกายและจิตใจ เพราะนอกจากเป็นครั้งแรกที่แพ้แล้ว ยังทำให้มุซาชิรู้จักคำว่า "กลัว" อย่างลึกซึ้งขนาดทำให้มุซาชิต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่จะมาพ่ายให้กับมุซาชิในการประลองครั้งที่ 2

ยางิว เซคิชูไซ

ผู้มีความล้ำลึกในด้านเพลงดาบ จนถูกขนานนามว่าเป็น เจ้าแห่งดาบ จนว่ากันว่าเป็น หนึ่งในปฐพี และยังมีจิตใจที่ลึกล้ำแผ่พลังออกมา จนทำให้คู่ต่อสู้พ่ายแพ้ไปด้วยตัวเองทั้งที่ยังไม่ได้สู้กัน ครั้งที่มุซาชิลอบเข้าไปในบ้านยางิวหมายจะสังหารเพื่อได้ชื่อเป็นหนึ่งในปฐพีแทน แต่กลับต้องแพ้ทั้งที่เป็นเพียงแค่คนแก่ซึ่งกำลังหลับอยู่ เพราะพลังจิตที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรงจนมุซาชิไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้มุซาชิกลับมาทบทวนความหมายของคำว่า หนึ่งในปฐพี อีกครั้งว่าคืออะไรกันแน่ และพูดคุยกับมุซาชิด้วยจิตว่า "ถ้ายังมัวว่ายอยู่ในทะเล ก็จะไม่รู้ว่าทะเลกว้างแค่ไหน" ซึ่งหมายถึงว่าหากยังหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเกินไป ก็จะไม่เห็นสิ่งอื่นที่จะทำให้เรา สามารถเข้าใจความหมายของสิ่งที่เรากำลังค้นหาได้อย่างแท้จริง เพราะแท้จริงแล้ว หนึ่งในปฐพี ก็เป็นเพียงแค่ คำๆ หนึ่ง เท่านั้น

เฮียวโกะโนะสึเกะ

หลานชายหัวแก้วหัวแหวนของ ยางิว เซคิชูไซ ผู้มีความละม้ายคล้ายกับมุซาชิในด้านสัญชาตญาณการต่อสู้ และมีฝีไม้ลายมือด้านเชิงดาบไม่น้อยหน้าผู้เป็นปู่ เป็นคนมีความสุขุมลุ่มลึก เคยพบกับมุซาชิระหว่างเดินทาง 2 ครั้ง ในช่วงที่มุซาชิเดินทางไปท้าประลองกับ "ยางิยู เซคิชูไซ" โดยที่ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

ชิชิโดะ ไบเค็ง

ผู้ใช้ "เคียวโซ่" จนเป็นที่ล่ำลือกันในหมู่ผู้ฝึกวิชา หรือพยายามจะสร้างชื่อในวงการซามูไร แต่เดิมเป็นเพียงอันธพาลและโจรกระจอกที่คอยลักขโมย ปล้น ฆ่า และ รีดไถ ภายหลังถูก ซึจิคาเสะ โคเฮ สังหารพร้อมกับลูกน้อง แล้วใช้ชื่อของ "ชิชิโดะ ไบเค็ง" นับแต่นั้นมา มีเพียงชาวบ้านในพื้นที่ไม่กี่คนที่รู้ว่าไบเค็ง(ตัวจริง)ตายไปแล้ว ซึ่งก็สังเกตเห็นว่านับตั้งแต่ที่ชิชิโดะ ไบเค็ง(ตัวจริง)ตายไป กลับมีบรรดาผู้มีฝีมือเดินทางมาเพื่อประลองหรือขอดูวิชา "เคียวโซ่" กันเป็นจำนวนมาก ผิดกับตอนที่ชิชิโดะ ไบเค็ง(ตัวจริง)ยังมีชีวิตอยู่ ที่มีแต่พวกซามูไรร่อนเร่ หรืออันธพาลทั่วไปเดินทางมาหา จึงคิดว่านักดาบมีฝีมือเหล่านี้(ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมุซาชิด้วย)คงจะเดินทางมาต่อสู้กับ "วิญญาณของชิชิโดะ ไบเค็ง" เป็นแน่

คาเนมากิ จิไซ

อดีตครูดาบที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง แต่นับจากที่พ่ายแพ้ให้กับ อิโต้ อิตโตไซ ศิษย์ที่ตนสอนมากับมือ ชีวิตก็เริ่มตกต่ำลงจนหลีกหนีจากวงการกลายมาเป็นเพียงแค่ตาแก่คนหนึ่งที่มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบทริมทะเล แถมยังถูกชาวบ้านและเด็กๆ มองว่าเป็นคนบ้า ก่อนที่จะเก็บโคจิโร่มาเลี้ยง หลังจากที่ซาซากิผู้พ่อซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตศิษย์ของตนถูกสังหารและครอบครัวต้องล่มสลาย

อิโต้ อิตโตไซ

นักดาบมีชื่อผู้เคยเป็นศิษย์ของ คาเนมากิ จิไซ แต่ด้วยนิสัยที่มีความมั่นใจในฝีมือและคิดว่าเรียนรู้มาจากอาจารย์หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว จึงพิสูจน์ด้วยการท้าประลองกับผู้เป็นครูก่อนจะเอาชนะมาได้อย่างไม่ยาก ภายหลังเดินทางฝึกฝนวิชาไปเรื่อย ระหว่างทางก็จะมีผู้คนไม่น้อยที่มาฝากขอตัวเป็นศิษย์หรือขอประลองขอคำชี้แนะเสมอ ต่อมาได้รับโคจิโร่เป็นศิษย์แต่สอนด้วยวิธีของตนซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ตนเองใช้ฝึกมาตลอด ก็คือให้ต่อสู้จริงโดยเอาชีวิตเข้าแลกที่หากรอดชีวิตมาได้ครั้งหนึ่งเท่ากับได้เรียนรู้มากกว่าการฝึกฝนทั่วไปหลายสิบปี