สมัยช่วงเวลาแรกสุดจนถึงสมัยช่วงระหว่างกลางที่หนึ่ง ของ วิหารแห่งซาเทต

วิหารแห่งซาเทตที่เก่าแก่ที่สุดถูกสร้างขึ้นราว 3200 ปีก่อนคริสตกาล[1] และเป็นเพียงโพรงเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างหินแกรนิตธรรมชาติขนาดใหญ่สามก้อน[2] วิหารแห่งแรกสุดนี้มีขนาดเล็กมาก โดยส่วนของพื้นที่สักการะบูชาขนาดประมาณ 2 ม. × 2 ม. (6.6 ฟุต × 6.6 ฟุต) ที่สร้างจากอิฐโคลน ด้านหน้าของตัววิหารทางตะวันออก มีอาคารที่สร้างอิฐโคลนอยู่บ้าง วิหารแห่งนี้ได้รับการขยายเพิ่มเติมขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ที่หนึ่งและสอง[3] และได้สร้างขึ้นใหม่ในช่วงราชวงศ์ที่สามแห่งอียิปต์ แต่ยังคงรูปแบบวิหารเดิมไว้ ทางด้านทิศใต้ด้านนอกช่องระหว่างก้อนหิน ห้องเก็บอาหารบางแห่งถูกเพิ่มเข้ามา วิหารแห่งนี้ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในสมัยราชวงศ์ที่ห้าแห่งอียิปต์ อาจจะอยู่ในช่วงรัชสมัยของฟาโรห์นูเซอร์เร ไอนิ ซึ่งเป็นจุดที่วิหารที่ตั้งอยู่ตรงกลางของโพรงหินได้ขยายให้ใหญ่ขึ้น ด้านหน้าของวิหารเป็นลานหน้าขนาดประมาณ 5 ม. × 5 ม. (16 ฟุต x 16 ฟุต) ซึ่งล้อมรอบด้วยทางเดินเปิด พบเครื่องเซ่นไหว้บูชาใต้พื้นวิหาร สิ่งของเหล่านี้อุทิศให้กับเทพีในช่วงสองสามร้อยปีในช่วงสมัยราชอาณาจักรเก่า โดยมีผู้ที่เข้ามาสักการะทั้งเชื้อพระวงศ์และสามัญชนทั่วไปและส่วนใหญ่ประกอบด้วยรูปปั้นดินเผารูปมนุษย์และสัตว์ นอกจากนั้น ทางด้านทิศใต้เป็นที่ตั้งของห้องเก็บอาหารและอาคารจากอิฐโคลน

ฟาโรห์เปปิที่ 1 ซึ่งเป็นฟาโรห์พระองค์ที่สองจากราชวงศ์ที่หกสั่งให้สร้างวิหารขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยยังคงรักษารูปแบบวิหารเดิมเอาไว้ แต่ได้ขยายกำแพงอิฐออกไป[4] และขยายขนาดของพื้นที่สักการะบูชาเพื่อเพิ่มรูปสลักของเทพีซาเทตเข้าไป[5] และในครั้งนี้ยังได้มีบูชาเทพคนุมในวิหารแห่งนี้ด้วย ในปีที่ 5 แห่งรัชสมัยฟาโรห์เมอร์เอนเร เนมติเอมซาฟที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ต่อจากฟาโรห์เปปิได้เสด็จมายังเกาะแอลเลเฟนไทน์ เพื่อทรงรับการเข้าเฝ้าของหัวหน้าเผ่าแห่งนิวเบีย ในครั้งนั้นพระองค์อาจจะเสด็จไปยังวิหารเพื่อต่อเติมศาลเทพเจ้าที่พระราชบิดาของพระองค์ทรงโปรดให้สร้างขึ้น[6]