การถ่ายทำ

มีการออกกองรองเพื่อถ่ายทำตั้งแต่ช่วงการเตรียมการถ่ายทำ เพื่อไปถ่ายทำฉากที่ต้องถ่ายบนเกาะสเกลลิกไมเคิล ประเทศไอร์แลนด์ ตั้งแต่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 เนื่องจากหากพ้นช่วงเวลาดังกล่าวการถ่ายทำบนเกาะจะยากลำบาก การถ่ายทำในช่วงนี้มีกำหนดถ่าย 4 วัน[21][22][23] แต่ถ่ายได้เพียง 1 วัน ก็ต้องยุติการถ่ายทำ เนื่องจากสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมไม่อำนวย[24] พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ไอวาน ดันลีวีย์ ประธานบริหารของไพน์วู้ดสตูดิโอให้ข่าวยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถ่ายทำที่สตูดิโอดังกล่าว[25] และมีการถ่ายทำบางส่วนที่เม็กซิโก[26] กันยายน พ.ศ. 2558 เดลโทโรเปิดเผยว่าการถ่ายทำหลักจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559[27] แต่เคนเนดีให้ข่าวว่าการถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2559[28] ทีมงานเริ่มเตรียมการสร้างที่เวที 007 ในไพน์วู้ดสตูดิโอตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558[29] โดยมีริค ไฮน์ริค เป็นผู้ออกแบบงานสร้าง

มกราคม พ.ศ. 2559 มีการเขียนบทภาพยนตร์ใหม่ จึงต้องเลื่อนกำหนดการถ่ายทำออกไปเป็นกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559[30] นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกเลื่อนออกไปอีกจากการประท้วงระหว่าง สหพันธ์ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ (PACT) กับสหภาพแรงงานการกระจายเสียง การบันเทิง การภาพยนตร์ และการละคร (BECTU)[31] 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ซีอีโอของดิสนีย์ บ็อบ ไอเกอร์ ออกข่าวยืนยันว่าการถ่ายทำได้เริ่มขึ้นแล้ว[32]ภายใต้ชื่อรหัสการถ่ายทำ หมีอวกาศ (Space Bear)[33] การถ่ายทำเพิ่มเติมมีขึ้นที่เมืองดูบรอฟนิกในช่วงวันที่ 9-16 มีนาคม พ.ศ. 2559[34][35] และที่ประเทศไอร์แลนด์ในเดือนพฤษภาคม[36] สถานที่ถ่ายทำเพิ่มเติมได้แก่แหลมมาลินในเทศมณฑลโดเนกัล และเนินเขาบนแหลมอีกแห่งหนึ่งใน Ceann Sibeal เทศมณฑลเคอร์รี่[37] ฉากรบบนดาวเคราะห์เครตถ่ายทำที่ทะเลเกลือซาลาร์ เดอ อูยูนี ประเทศโบลิเวีย[38]

การถ่ายทำหลักเสร็จสิ้นลงเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559[39] แม้ญองอจะยังไม่ได้ถ่ายทำฉากของเธอเลยจนถึงกันยายน พ.ศ. 2559 ก็ตาม[40] กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 มีการประกาศว่าบางฉากในเรื่องได้รับการถ่ายทำด้วยกล้องไอแม็กซ์[41] ผู้ออกแบบงานสร้างริค ไฮน์ริคให้สัมภาษณ์ว่าบทดั้งเดิมจำเป็นจะต้องใช้ฉากในการถ่ายทำถึง 160 ฉาก ซึ่งมากกว่าที่เขาคาดไว้ถึงสองเท่า แต่ผู้กำกับจอห์นสันได้ตัดเล็มลงจนเหลือ 125 ฉาก ซึ่งใช้เวทีฉากจำนวน 14 เวทีที่ไพน์วู้ดสตูดิโอในการสร้าง[42]

นีล สแกนแลน รับหน้าที่ผู้ออกแบบสัตว์ประหลาดในเรื่อง ให้สัมภาษณ์ว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการใช้เทคนิคพิเศษที่ทำจากวัสดุจริง มากกว่าภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ทุก ๆ ภาคที่ผ่านมา" โดยมีการสร้างสัตว์ประหลาดจากเทคนิคพิเศษวัสดุจริงรวมแล้ว 180-200 ตัว ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในฉากที่ถูกตัดออก[43] ฉากการปรากฏตัวของโยดาในรูปของวิญญาณพลังถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคการเชิดหุ่น ซึ่งเป็นเทคนิคเดียวกับที่เคยใช้สร้างตัวละครนี้ใน จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ และ การกลับมาของเจได[44] โดยมีแฟรงค์ ออซซึ่งเคยเชิดหุ่นโยดาในภาคก่อน กลับมาทำหน้าที่นี้อีกครั้ง[20]