ละครโทรทัศน์ ของ สตาร์_เทรค

ละครโทรทัศน์มีทั้งหมด 8 ชุดและละครโทรทัศน์สั้นอีก 1 ชุด โดยแบ่งเป็น ดิออริจินอลซีรีส์, ดิแอะนิเมเต็ดซีรีส์, เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน, ดีพสเปซไนน์, วอยเอเจอร์, เอนเทอร์ไพรซ์, ดิสคัฟเวอรี, ชอร์ตเทรคส์ และ พิคาร์ด รวมทั้งหมด 778 ตอน ตลอด 35 ปีของละครโทรทัศน์[lower-alpha 6]

ดิออริจินอลซีรีส์ (1966–1969)

โลโก้ ดิออริจินอลซีรีส์

สตาร์ เทรค: ดิออริจินอลซีรีส์, หรือมักจะย่อว่า TOS,[lower-alpha 7] ได้ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง เอ็นบีซี เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1966[53] โดยรายการเล่าถึงลูกเรือของยานอวกาศ ยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ กับภารกิจห้าปี "เพื่อก้าวไปอย่างกล้าหาญ ณ ที่ซึ่งไม่เคยมีมนุษย์คนใดเคยไปมาก่อน!" ระหว่างที่ออกอากาศครั้งแรกนั้น รายการได้เข้าชิงรางวัลอูโกสำหรับการนำเสนอละครยอดเยี่ยมอยู่หลายครั้งและชนะ 2 ครั้ง[25]:231 นักแสดงประกอบด้วย:

หลังจากออกอากาศได้ 3 ปี ช่องเอ็นบีซีก็ได้ยกเลิกรายการ โดยตอนสุดท้ายออกอากาศเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1969[54] มีการเขียนคำร้องช่วงใกล้จะสิ้นสุดปีที่สองเพื่อที่จะรักษารายการไว้ มีนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียลงนามเป็นจำนวนมากและการที่ได้เข้าชิงรางวัลอูโกหลายครั้งอาจจะช่วยได้ อย่างไรก็ตาม รายการเป็นที่นิยมอย่างมากกับแฟน ๆ นิยายวิทยาศาสตร์และนักศึกษาวิศวกรรม แม้เนลสันเรตติงจะระบุไว้ว่ามีเรตติงต่ำ[55] ต่อมารายการมีความนิยมเพิ่มขึ้นจากการออกอากาศซ้ำและเกิดการก่อตั้งลักธิตามมา[53]

ดิแอะนิเมเต็ดซีรีส์ (1973–1974)

โลโก้ "ดิแอะนิเมเต็ดซีรีส์"

สตาร์ เทรค: ดิแอะนิเมเต็ดซีรีส์ (Star Trek: The Animated Series) หรือในชื่อย่อ "TAS" ผลิตโดย ฟิลเมชัน ออกอากาศ 2 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1973 ถึง ค.ศ. 1974 โดยนักแสดงหลักจาก ดิออริจินอลซีรีส์ ยังคงมาให้เสียงตัวละครเดิม และยังมีนักเขียนบทจาก ดิออริจินอลซีรีส์ มาเขียนบทให้ ดิแอะนิเมเต็ดซีรีส์ ด้วย เนื่องจากเป็นรูปแบบแอนิเมชัน ทำให้สามารถสร้างพื้นที่ต่างดาวและสิ่งมีชีวิต ได้แปลกใหม่มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากใช้ฉากเก่ามากเกินไปและยังมีข้อผิดพลาดในการเคลื่อนไหวของแอนิเมชันและคิวดนตรี ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของซีรีส์มัวหมอง[56] ยีน ร็อดเดนเบอร์รี มักพูดอยู่เสมอว่าแอนิเมชันนี้ไม่จัดเป็นเส้นเรื่องหลัก[57]:232 นักแสดงประกอบด้วย:

ดิแอะนิเมเต็ดซีรีส์ เป็นซีรีส์ สตาร์ เทรค แรกที่ชนะรางวัล เอมมี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1975[58] ซีรีส์ได้นำกลับมาออกอากาศใหม่เป็นเวลาสั้น ๆ ทางช่อง นิคคาโลเดียน ช่วงกลางทศวรรษ 1980 และ ช่องไซ-ไฟ ช่วงกลางทศวรรษ 1990 มีการวางจำหน่ายซีรีส์นี้ในรูปแบบ เลเซอร์ดิส เมื่อช่วงกลางทศวรรษ 1980[59] รูปแบบวิดีโอเทป 11 ชุด เมื่อปี ค.ศ. 1989, รูปแบบดีวีดี เมื่อปี ค.ศ. 2006 และรูปแบบบลู-เรย์ เมื่อปี ค.ศ. 2016

เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน (1987–1994)

โลโก้ เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน

สตาร์ เทรค: เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน (Star Trek: The Next Generation), หรือมักใช้อักษรย่อว่า TNG, ดำเนินเรื่องหลัง ดิออริจินอลซีรีส์ ประมาณหนึ่งศตวรรษ (2364–2370) โดยมียานอวกาศ เอนเทอร์ไพรซ์ ลำใหม่ (NCC-1701-D) และลูกเรือใหม่

ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1987 และออกอากาศทั้งหมดเจ็ดปี เป็นละครโทรทัศน์ สตาร์ เทรค ที่มีเรตติงสูงที่สุดและกลายเป็นรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศหลายช่องแล้วมีเรตติงสูงที่สุดในช่วงปีท้าย ๆ ของการออกอากาศ เป็นตัวผลักดันให้กับละครโทรทัศน์อื่น มีความสัมพันธ์และเชื้อชาติใหม่ ๆ เกิดขึ้นใน เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน กลายเป็นพื้นฐานให้กับตอนใน ดีพสเปซไนน์ และ วอยเอเจอร์[27] เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน เข้าชิงและได้รับรางวัลเอมีหลายครั้ง—เช่น ละครโทรทัศน์ยอดเยี่ยมในปีสุดท้าย—รางวัลอูโกสองรางวัล, และรางวัลพีบอดีสำหรับรายการโทรทัศน์ยอดเยี่ยมหนึ่งตอน[60]

ดีพสเปซไนน์ (1993–1999)

โลโก้ ดีพสเปซไนน์
ดูบทความหลักที่: สตาร์ เทรค: ดีพสเปซไนน์

สตาร์ เทรค: ดีพสเปซไนน์ (Star Trek: Deep Space Nine), หรือมักใช้อักษรย่อว่า DS9, ดำเนินเรื่องช่วงปีสุดท้ายและทันทีหลัง เน็กซ์เจเนอเรชัน (2369–2375) ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1993 และออกอากาศทั้งหมดเจ็ดปี สิ่งที่แตกต่างจากละครโทรทัศน์ สตาร์ เทรค อื่นคือ ดีพสเปซไนน์ ดำเนินเรื่องในสถานีอวกาศในชื่อเดียวกันมากกว่าบนยานอวกาศ นักแสดงประกอบด้วย:

รายการเริ่มต้นหลังชาวคาร์แดสเซียยึดดาวเบจอร์ กลุ่มปลดปล่อยชาวเบจอร์ขอร้องให้สหพันธ์แห่งดวงดาวช่วยมาบริหารสถานีอวกาศใกล้กับเบจอร์หลังสหพันธ์ควบคุมสถานีได้แล้ว กลุ่มตัวละครเอกนั้นค้นพบรูหนอนที่เสถียรภาพสามารถเข้าไปแล้วไปโผล่ที่แกรมมาควอแดรนต์ได้ ทำให้เบจอร์และสถานีเป็นสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์[61] รายการบันทึกเหตุการณ์ของลูกเรือของสถานี, นำโดย ผู้บัญชาการ เบนจามิน ซิสโก (เอฟเวอรี บรูคส์), และ ผู้พัน คีรา นีรีส (นะนา วิซิเทอร์)

ดีพสเปซไนน์ แตกต่างจาก เทรค ก่อนหน้านี้คือ การเล่าเรื่องที่ต่อเนื่องและยาวนาน, ความขัดแย้งของตัวละคร, และ ประเด็นทางศาสนา—ทุกองค์ประกอบนั้น นักวิจารณ์และผู้ชมต่างชื่นชมอย่างมาก แต่เป็นสิ่งที่ถูกห้ามโดยร็อดเดนเบอร์รี เมื่อเขาเป็นผู้อำนวยการสร้าง ดิออริจินอลซีรีส์ และ เน็กซ์เจเนอเรชัน[62]

วอยเอเจอร์ (1995–2001)

โลโก้ วอยเอเจอร์
ดูบทความหลักที่: สตาร์ เทรค: วอยเอเจอร์

สตาร์ เทรค: วอยเอเจอร์ (Star Trek: Voyager) ออกอากาศวันแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1995 จนถึงวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2001 เป็นเวลาทั้งหมดเจ็ดปี มี เคต มัลกรูว แสดงเป็น กัปตัน แคทรีน เจนเวย์ โดยเป็นครั้งแรกของ สตาร์ เทรค ที่มีตัวละครนำเป็นผู้บังคับบัญชาหญิง[63] นักแสดงประกอบด้วย:

วอยเอเจอร์ ดำเนินเรื่องในช่วงเวลาเดียวกันกับ ดีพสเปซไนน์ และอีกสามปีหลังรายการจบ (2371–2378) ในตอนปฐมทัศน์นั้น ยูเอสเอส วอยเอเจอร์ และลูกเรือของยาน มาคีส์ (กลุ่มกบฏสหพันธ์) กำลังถูกไล่ล่า โดยยานทั้งสองลำถูกลำแสงพาไปยัง เดลตาควอแดนต์ ซึ่งห่างจากโลกประมาณ 70,000 ปีแสง[64] ต้องเผชิญกับการเดินทางกลับสู่โลกเป็นเวลา 75 ปี ลูกเรือต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะความท้าทายในการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอันตราย และหาวิธีที่จะทำให้การเดินทางสั้นลง

เช่นเดียวกัน ดีพสเปซไนน์ ในช่วงปีแรกของ วอยเอเจอร์ แสดงความขัดแย้งระหว่างลูกเรือทั้งสองมากกว่าในช่วงตอนหลัง เช่นความขัดแย้งมักจะเกิดจากลูกเรือของสตาร์ฟีตที่ต้องทำ "ตามหลักการ" กับลูกเรือของมาคีส์ที่เป็นผู้ลี้ภัยหัวกบฏ ถูกบังคับโดยสถานการณ์ให้มาทำงานร่วมกันยานอวกาศ วอยเอเจอร์ ต้องเผชิญกับวัฒนธรรมและประเด็นขัดแย้งใหม่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในละครโทรทัศน์ที่อยู่ในอัลฟาควอแดนต์ ในปีต่อ ๆ มามีตัวละครและวัฒนธรรมจากรายการก่อนหน้านี้ เช่น บอร์ก, คิว, ฟาเรนกี, โรมูลัน, คลิงงอน, คาร์แดสเซีย และนักแสดงจาก เดอะเน็กซ์เจเนอเรชัน

เอนเทอร์ไพรซ์ (2001–2005)

โลโก้ เอนเทอร์ไพรซ์
ดูบทความหลักที่: สตาร์ เทรค: เอนเทอร์ไพรซ์

สตาร์ เทรค: เอนเทอร์ไพรซ์ (Star Trek: Enterprise) หรือชื่อเดิม เอนเทอร์ไพรซ์ (Enterprise) เป็นละครโทรทัศน์ที่ดำเนินเรื่องก่อน สตาร์ เทรค ฉบับดั้งเดิม ออกอากาศระหว่างวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2001 ถึง 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 ทางช่องยูพีเอ็น[65] เอนเทอร์ไพรซ์ ดำเนินเรื่องอยู่ในช่วงทศวรรษ 2150, 90 ปีหลัง ซีฟราม คอเครน เดินทางด้วยความเร็วระดับวาร์ปครั้งแรกและประมาณ 10 ปีก่อนก่อตั้งสหพันธรัฐแห่งดวงดาว โดยละครโทรทัศน์แสดงการเดินทางของลูกเรือยานอวกาศวาร์ป 5 ลำแรกของโลกชื่อ เอนเทอร์ไพรซ์ (เอ็นเอ็กซ์-01) (Enterprise (NX-01)) นักแสดงประกอบด้วย:

เอนเทอร์ไพรซ์ ในช่วงแรกนั้นเป็นละครโทรทัศน์ประเภทจบในตอนเหมือนกับใน ออริจินอลซีรีส์, เน็กซ์เจเนอเรชัน และ วอยเอเจอร์ ต่อมาในปีที่สาม เป็นปืที่มีเส้นเรื่องเดียว ปีที่สี่ซึ่งเป็นปีสุดท้ายนั้นประกอบด้วยสามและสี่ตอนที่มีเนื้อเรื่องต่อเนื่องกัน ซึ่งสำรวจต้นกำเนิดขององค์ประกอบบางอย่างที่อยู่ในละครโทรทัศน์ก่อนหน้านี้ และแก้ไขข้อผิดพลาดของความต่อเนื่องบางอย่างใน ดิออริจินอลซีรีส์

เอนเทอร์ไพรซ์ นั้นเริ่มต้นด้วยเรตติงที่ดีแต่ว่าตกลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่านักวิจารณ์จะชมปีที่สี่ว่าดี ทั้งแฟนและนักแสดงต่างไม่พอใจ ตอนสุดท้ายของละครโทรทัศน์ ส่วนหนึ่งเพราะว่าในตอนนั้นมุ่งเน้นไปที่นักแสดงรับเชิญจาก เน็กซ์เจเนอเรชัน มากเกินไป[66][67][68] การยกเลิก เอนเทอร์ไพรซ์ เป็นการสิ้นสุดการออกอากาศของละครโทรทัศน์ สตาร์ เทรค ใหม่ ที่ออกอากาศมายาวนาน 18 ปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่ เน็กซ์เจเนอเรชัน เมื่อปี ค.ศ. 1987

ดิสคัฟเวอรี (2017–ปัจจุบัน)

โลโก้ ดิสคัฟเวอรี

สตาร์ เทรค: ดิสคัฟเวอรี (Star Trek: Discovery) คือซีรีส์ที่ดำเนินเรื่องก่อน ดิออริจินอลซีรีส์ ประมาณ 10 ปี[69] ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2017 ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาทางช่องซีบีเอส[46] ผู้ชมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาสามารถรับชมผ่านบริการสตรีมมิงซีบีเอสออลแอคเซสส์เท่านั้น ส่วนผู้ชมทั่วโลกยกเว้นแคนาดาสามารถรับชมได้บนเน็ตฟลิกซ์[70]

ตัวละครหลักของซีรีส์คือ นาวาตรี ไมเคิล เบอร์นัม แสดงโดย สนีควา มาร์ติน-กรีน เป็นการสร้างความแตกต่างจาก สตาร์ เทรค เดิมที่ตัวละครนำไม่ใช่ "กัปตันของยาน" ซีรีส์เริ่มต้นด้วย ความขัดแย้งระหว่าง คลิงงอน ทคุฟม่า, ที่ต้องการจะรวมบ้านต่าง ๆ ของคลิงงอนจำนวนยี่สิบสี่ตระกูล—เรียกว่าเดอะเกรสต์เฮาส์ กับ สหพันธ์แห่งดวงดาว[71][72]

ชอร์ตเทรคส์ (2018–ปัจจุบัน)

ดูบทความหลักที่: สตาร์ เทรค: ชอร์ตเทรคส์

สตาร์ เทรค: ชอร์ตเทรคส์ (Star Trek: Short Treks) เป็นซีรีส์รวมภาพยนตร์สั้น โดยมีเนื้อเรื่องเป็นการสำรวจฉากและตัวละครจาก ดิสคัฟเวอรี และลูกเรือยานอวกาศ เอนเทอร์ไพรซ์ ของกัปตัน คริสโตเฟอร์ ไพค์[73]

พิคาร์ด (2020–ปัจจุบัน)

ดูบทความหลักที่: สตาร์ เทรค: พิคาร์ด
โลโก้ พิคาร์ด

สตาร์ เทรค: พิคาร์ด (Star Trek Picard) เป็นซีรีส์ที่เก้าในแฟรนไชส์ สตาร์ เทรค มีศูนย์กลางตัวละครคือ ฌอง-ลุค พิคาร์ด ดำเนินเรื่องช่วงปลายศตวรรษที่ 24, 18 ปีหลังเหตุการณ์ใน สตาร์ เทรค: เนเมซิส (2002)

โลเวอร์ เดคส์ (2020–ปัจจุบัน)

ดูบทความหลักที่: สตาร์ เทรค: โลเวอร์ เดคส์
โลโก้ โลเวอร์ เดคส์

เป็นซีรีส์แอนิเมชันแนวตลกผู้ใหญ่สร้างโดย ไมค์ แม็คมาฮาน ผู้เขียนบท ริค แอนด์ มอร์ตี้ โดยเป็นเรื่องราวของลูกเรือสนับสนุนใน "ยานลำหนึ่งของสตาร์ฟลีตที่ไม่สำคัญมากนัก"[74] ซีรีส์เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2020 บนซีบีเอสออลแอกเซส[75]

กำลังพัฒนา

ซีบีเอสออลแอกเซสประกาศว่าซีรีส์คนแสดงและแอนิเมชันหลายเรื่อง กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา[76]

นิคคาโลเดียนร่วมทุนกับซีบีเอสกำลังสร้างซีรีส์แอนิเมชันสำหรับเด็ก,[77] มีชื่อว่า โพรดิจี กำหนดเปิดตัวในปี 2021[78] ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2020 มีการประกาศซีรีส์ใหม่ชื่อว่า สตาร์ เทรค: สเตรนจ์นิวเวิร์ลส์ โดยมีนักแสดงนำ ได้แก่ อีธาน เพค, แอนสัน เมาต์ และ รีเบกกา โรเมน โดยจะกลับมารับบทเดิมจากใน สตาร์ เทรค: ดิสคัฟเวอรี ปี 2 เป็น สป็อค, คริสโตเฟอร์ ไพค์ และ นัมเบอร์ วัน ตามลำดับ[79][2] มิเชล โหย่ว จะกลับมารับบทเดิมเป็น ฟิลิปปา จอร์โจว์ ที่มาจากจักรวาลกระจกใน ดิสคัฟเวอรี ซึ่งสังกัด แซคชัน 31 ในซีรีส์ชุดแยก[80][81]

ซีรีส์อื่น ๆ ของแฟรนไชส์ที่กำลังอยู่ขั้นตอนวางแผนเพื่อพัฒนา ได้แก่ ซีรีส์ที่ดำเนินเรื่องในสถาบันสตาร์ฟลีต พัฒนาโดย สเตฟานี ซาเวจ และ จอช ชวาร์ตซ์,[82] เซติ อัลฟา ไฟว์ ซีรีส์ที่เกี่ยวกับตัวละคร ข่าน นูเนียน ซิงห์ และ เนื้อเรื่อง ศึกสลัดอวกาศ ของเขา เขียนโดย นิโคลัส เมเยอร์[82][83]

ใกล้เคียง

สตาร์ เทรค สตาร์ เทรค สงครามพิฆาตจักรวาล สตาร์ เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด สตาร์ เทรค ข้ามขอบจักรวาล สตาร์ เทรค: บทเริ่มต้นแห่งการเดินทาง สตาร์ เทรค: ฝ่าสงครามยึดโลก สตาร์ เทรค: ดิสคัฟเวอรี่

แหล่งที่มา

WikiPedia: สตาร์_เทรค http://scifi.about.com/blinterarma2.htm http://airlockalpha.com/6469/star-trek-becomes-hig... http://www.andyfilm.com/11-14-06.html http://america.cgtn.com/2016/07/26/business-of-sta... http://www.comfixclub.com/star-trek-the-original-s... http://www.fandango.com/startrek:voyager%5Btvserie... http://www.imdb.com/title/tt0069637/awards http://www.mercurynews.com/mld/mercurynews/enterta... http://seattletimes.nwsource.com/html/entertainmen... http://topics.nytimes.com/topics/reference/timesto...