ลักษณะเด่นของแต่ละมหาวิหาร ของ สถาปัตยกรรมมหาวิหารสมัยกลางในอังกฤษ

ข้อสังเกต: วันที่ที่อ้างถึงข้างล่างเป็นเวลาที่กล่าวโดยจอห์น ฮาร์วีย์[1]

ภาพปีสร้าง/ลักษณะเด่น
มหาวิหารบริสตอล (ปีสร้าง:ค.ศ. 1140-1888) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


หน้าต่างพระคัมภีร์คนยาก
มหาวิหารแคนเทอร์เบอรี (ปีสร้าง:ค.ศ. 1070-1505 นอกจากหอที่สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1834) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ก่อตั้งเป็นมหาวิหารในปี ค.ศ. 597 เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษมหาวิหารหนึ่งและเป็นมหาวิหารประจำตำแหน่งของอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี ส่วนประกอบที่สำคัญคือ:


หน้าต่างประดับกระจกสีเก้าช่อง
มหาวิหารคาร์ไล (ปีสร้าง: ค.ศ. 1092 - ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นมหาวิหารที่เล็กที่สุดมหาวิหารหนึ่งในอังกฤษตั้งแต่ช่องทางเดินกลางถูกทำลายโดยกองทัพสกอตเพรสไบทีเรียนในปี ค.ศ. 1649 ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • หน้าต่างประดับกระจกสีเก้าช่องทางมุขตะวันออกที่ยังมีกระจกจากยุคกลางตอนบนของหน้าต่าง ที่เป็นการ “ปิดท้ายด้านตะวันออกอย่างรุ่งโรจน์”[2] และถือกันว่าเป็นหน้าต่างตกแต่งด้วยซี่หินลวดลาย (tracery) ที่งดงามที่สุดในอังกฤษหน้าต่างหนึ่ง[2][8]

บริเวณร้องเพลงสวด
มหาวิหารเชสเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1093 -1537) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


บริเวณร้องเพลงสวด
มหาวิหารชิชิสเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1088 - ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ก่อตั้งเป็นมหาวิหารในปี ค.ศ. 1075 ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • ด้านหลังบริเวณร้องเพลงสวดเป็นสถาปัตยกรรมคาบสมัย
  • รูปสลักแบบนอร์มันหนึ่งคู่
  • หอระฆังที่ตั้งเป็นอิสระจากตัวมหาวิหาร (คริสต์ศตวรรษที่ 15) และยอดที่สร้างใหม่หลังจากที่ทลายลงมาในปี ค.ศ. 1860 ที่มองเห็นได้จากช่องแคบอังกฤษ[2][8]

ด้านบนของหอ
ที่สร้างอย่างละเอียดงดงาม
มหาวิหารเดอรัม (ปีสร้าง: ค.ศ. 1093 - 1490) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:

ซี.เจย์. แสตรงค์กล่าวว่า “มหาวิหารในปัจจุบันใหญ่โตแข็งแรงแต่มีลักษณะที่สมส่วนจนไม่มีสิ่งใดที่ทำให้รู้สึกเทอะทะออกนอกรูป”[13]


มองจากภาพถ่ายทางอากาศ
เห็นหอแปดเหลี่ยมเหนือจุดตัด
มหาวิหารอีลี (ปีสร้าง: ค.ศ. 1090 - 1536) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


รูปสลักภายในช่องตกแต่ง
มหาวิหารเอ็กซิเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1112 - 1519) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • ลักษณะสถาปัตยกรรมของสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นแบบกอธิควิจิตร ของต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14
  • เพดานโค้งของยุคกลางที่ยาวที่สุดในโลกที่แล่นตลอดหอนอร์มันสองหอเหนือแขนกางเขน[14]
  • รูปสลักภายในช่องตกแต่งด้านหน้าวัดทางมุขตะวันตก[2][8]
  • หน้าต่างตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยซี่หิน

หน้าต่างด้านตะวันออก
ขนาดเท่าสนามเทนนิส
มหาวิหารกลอสเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1098 - 1493) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


ช่องทางเดินกลาง
รายด้วยเสาขนาดใหญ่
มหาวิหารแฮรฟอร์ด (ปีสร้าง: ค.ศ. 1079 - 1530, มุขตะวันตกคริสต์ศตวรรษที่ 19) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


หอยอดแหลมสามหอ
มหาวิหารลิชฟิลด์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1195 - 1400) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • มุขด้านตะวันตกตกแต่งอย่างละเอียด
  • ภายในที่ดูกลมกลืนเก้าอี้อิง
  • ช่องทางเดินกลาง ยาย 113 เมตร
  • ชาเปลพระแม่มารีมีหน้าต่างกระจกทาสีแบบเฟลมมิชจากแอบบีในเบลเยียม หน้าต่างสูงที่ทำให้ดูเหมือนลักษณะสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส
  • เป็นมหาวิหารเดียวที่มีหอที่มียอดแหลมสามหอที่เรียกว่า “สามสาวแห่งเวล” หอหน้าด้านตะวันตกสูง 58 เมตร และหอกลางสูง 77 เมตร[2][3]

“ตาของบิชอป”

หอประชุมนักบวชแปดเหลี่ยม
ที่มีค้ำยันที่กางออกไป
มหาวิหารลิงคอล์น (ปีสร้าง: ค.ศ. 1074 - 1548) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นที่สามรองจากมหาวิหารยอร์กและมหาวิหารเซนต์พอลเก่า ความงามของมหาวิหารทำให้จอห์น รัสคินกล่าวว่ามีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมเท่ากับสองมหาวิหารรวมกัน และดร. เอ็ดเวิร์ด ฟรีแมนบรรยายว่าเป็น “งานสถาปัตยกรรมชิ้นที่งามที่สุดชิ้นหนึ่งของมนุษยชาติที่สร้างขึ้น” [16]
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • มุขตะวันตกยังคงเป็นซุ้มโค้งที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมนอร์มันรายด้วยรูปสลักหินที่ได้รับการอนุรักษ์รอบประตูกลาง
  • หอเหนือจุดตัดเป็นหอที่สูงที่สุดในอังกฤษและเห็นได้จากแต่ไกลบนเนินสูงเหนือตัวเมือง
  • หอประชุมนักบวชแปดเหลี่ยมที่ด้านนอกมีค้ำยันที่กางออกไปจากตัวสิ่งก่อสร้างและเป็นหอประชุมสงฆ์แบบหลายเหลี่ยมหอแรกที่สร้างขึ้นในอังกฤษ
  • “บริเวณร้องเพลงสวดทูตสวรรค์” (Angel Choir) ถือกันว่าเป็นบริเวณร้องเพลงที่งดงามที่สุดของปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่มี “การตกแต่งด้วยลวดลายอย่างงดงามซ้อนกันเป็นชั้น” และรูปแกะสลักเทวดา[4]
  • มุมข้างโบสถ์สองข้างต่างก็มีหน้าต่างกุหลาบ หน้าต่าง “ตาของดีน” (Dean’s Eye) สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ. 1192 และมาบูรณปฏิสังขรณ์ต่อมา ทางด้านเหนือ และ “ตาของบิชอป” (Bishop’s Eye) ทางด้านใต้สร้างร้อยปีต่อมา ที่ประกอบด้วยกระจกที่สรรหามาเศษกระจกจากยุคกลาง[2][8]
  • ที่บรรจุอวัยวะภายในของพระนางเอลินอร์ในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ผู้เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1290

เพดานโค้งสันแต่งด้วยปุ่มหิน
มหาวิหารนอริช (ปีสร้าง: ค.ศ. 1096 - 1536) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


เพดานตกแต่ง
มหาวิหารออกซฟอร์ด (ปีสร้าง: ค.ศ. 1158 - ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

มหาวิหารขนาดเล็กที่เป็นผลจากการทำลายช่องทางเดินกลางในคริสต์ศตวรรษที่ 16
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • หอหินแหลมสร้างในปี ค.ศ. 1230 เป็นหอหินที่เก่าที่สุดหอหนึ่งในอังกฤษ
  • เพดานที่แต่งด้วยปุ่มหินที่ห้อยลงมาเหมือนตะเกียงในบริเวณร้องเพลงสวด ของปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15[2][8]

เพดานจากปี ค.ศ. 1220
มหาวิหารปีเตอร์บะระห์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1117 - ค.ศ. 1508) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นมหาวิหารที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงน้อยครั้งที่สุด
ส่วนประกอบที่สำคัญ:


ลายแกะสลักบนสันส่วนที่พับ
ได้ของเก้าอี้อิงที่กล่าวกันว่า
เป็นแรงบันดาลใจให้
หลุยส์ แคร์รอลเขียน
“Alice's Adventures in Wonderland”
มหาวิหารริพัน (ปีสร้าง: คริสต์ศตวรรษที่ 9 หรือ 10 - ค.ศ. 1522) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นคริสต์ศาสนสถานที่ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิหารในปี ค.ศ. 1836
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • คริปต์ตั้งแต่สมัยแซ็กซอน
  • มุขตะวันตกที่มิได้รับการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่สร้าง
  • สถาปัตยกรรมกอธิคอังกฤษตอนต้นที่กลมกลืนกันเป็นอันดี
  • บริเวณร้องเพลงสวดที่มีเก้าอี้อิงที่แกะสลักอย่างเอียดงดงามจากคริสต์ศตวรรษที่ 14 เป็นรูปต่างๆ ที่น่าสนใจและมีชื่อเสียง[2][8]

ซุ้มทางเข้าแบบนอร์มัน
มหาวิหารรอเชสเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1177 - 1512) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


จิตรกรรมฝาผนังจากยุคกลาง
มหาวิหารเซนต์อัลบัน (ปีสร้าง: ค.ศ. 1077 - 1521) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นคริสต์ศาสนสถานที่ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิหารในปี ค.ศ. 1877
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • สิ่งที่ต่างจากมหาวิหารอื่นคือเป็นสิ่งก่อสร้างที่รวมทั้งหอที่สร้างจากอิฐที่ไปเอามาจากเมืองโรมันเวรูลาเมียม
  • หอเหนือจุดตัดยังเป็นหอเดิมที่สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 ที่สูง 144 ฟุต และหนัก 5,000 ตัน
  • จิตรกรรมฝาผนังจากยุคกลาง
  • เพดานไม้ทาสีจากปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13.[2][8]

หอหินที่สูงที่สุดในอังกฤษ
มหาวิหารซอลสบรี (ปีสร้าง: ค.ศ. 1220 - 1380) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นมหาวิหารที่เป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมการสร้างมหาวิหารของอังกฤษ
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • ลักษณะกลมกลืนได้สัดส่วนโดยเฉพาะจากภายนอกที่แนวนอนสมมาตรกับแนวตั้งของหอสูงแหลม
  • สิ่งก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมกอทิกแบบอังกฤษตอนต้นที่สมบูรณ์ที่สุดในอังกฤษ
  • หอหินเหนือจุดตัดสูง 123 เมตรที่เป็นหอหินที่สูงที่สุดในอังกฤษ
  • ระเบียงฉันนบถที่ยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์
  • ที่เก็บมหากฎบัตรหนึ่งในสี่ต้นฉบับ
มหาวิหารซัดเดิร์ก (ปีสร้าง: ค.ศ. 1208 - 1520) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ช่องทางเดินกลางถูกทำลายและสร้างใหม่ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยอาร์เธอร์ โบลมฟิลด์
ส่วนประกอบที่สำคัญ:


ช่องทางเดินกลางนอร์มัน
มหาวิหารเซาท์เวล (ปีสร้าง: ค.ศ. 1108 - 1450) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:


การตกแต่งคล้ายป่าปาล์ม
มหาวิหารเวลล์ส (ปีสร้าง: ค.ศ. 1175 - 1490) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ได้รับการบรรยายว่าเป็นมหาวิหารที่มี “อรรถรสมากที่สุดในอังกฤษ”[2]
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่เป็นแบบกอธิคอังกฤษตอนต้น ที่เพิ่มด้วยการแกะสลักอย่างละเอียดวิจิตรของบัวและหัวเสาของพรรณไม้ที่เรียกกันว่าการแกะสลักแบบ “ใบหิน” (stiff leaf)
  • มุขตะวันออกยังคงมีกระจกจากของเดิมซึ่งหาดูได้ยากในอังกฤษ
  • ด้านหน้าด้านตะวันตกตกแต่งด้วยรูปสลัก[2][8][18]
  • เพดานโค้งเหนือช่องทางเดินกลางที่ยาวที่สุดในโลก

ภายในที่ทำให้ผู้เห็นต้องตกตลึง
ด้วยความประทับใจในความงาม
มหาวิหารวินเชสเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1079 - 1532) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ส่วนประกอบที่สำคัญ:

  • ภายนอกดูเหมือนมหาวิหารแบบนอร์มันซึ่งเป็นมหาวิหารที่ยาวที่สุดในโลก แต่มุขตะวันตกเป็นแบบกอธิคเพอร์เพ็นดิคิวลาร์ที่มีหน้าต่างใหญ่โตที่เป็นกระจกแตกหักจากยุคกลางที่นำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่
  • คริปต์และมุมข้างโบสถ์ยังคงเป็นแบบสถาปัตยกรรมนอร์มัน
  • ช่องทางเดินกลางที่ดูโปร่งด้วยเสาที่เพรียวและซุ้มโค้งที่เน้นแนวตั้งแกะมาจากภายในที่เดิมเป็นแบบนอร์มัน เรฟเวอเร็นด์ไซค์สกล่าวว่าทำให้เมื่อผู้เข้ามาในวัดต้องอ้าปากด้วยความตกตลึง[19]
  • เครื่องตกแต่งต่างๆ ที่แกะสลักด้วยไม้จากหลายสมัย[2][8]

คริพท์นอร์มัน
มหาวิหารวูสเตอร์ (ปีสร้าง: ค.ศ. 1084 - 1504) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

เป็นมหาวิหารที่มีทุกลักษณะสถาปัตยกรรมตั้งแต่นอร์มันไปจนถึงกอธิคเพอร์เพ็นดิคิวลาร์
ส่วนประกอบที่สำคัญ:


ปุ่มหิน
“หัวใจของยอร์กเชอร์”
มหาวิหารยอร์ค (ปีสร้าง: ค.ศ. 1154 - 1500) - ( ภาพที่คอมมอนส์)

ยอร์คเป็นมหาวิหารแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ส่วนประกอบที่สำคัญ:

ใกล้เคียง

สถาปัตยกรรมบารอก สถาปัตยกรรมอาสนวิหารในยุโรปตะวันตก สถาปัตยกรรมมหาวิหารสมัยกลางในอังกฤษ สถาปัตยกรรมกอทิกแบบอังกฤษ สถาปัตยกรรมอินเดีย สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ สถาปัตยกรรมไทย สถาปัตยกรรมมาซิโดเนียเหนือ สถาปัตยกรรมกอทิก สถาปัตยกรรมแบบอิตาลี

แหล่งที่มา

WikiPedia: สถาปัตยกรรมมหาวิหารสมัยกลางในอังกฤษ http://www.abtei-ottobeuren.de/ http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Bristol... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Canterb... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Carlisl... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Chester... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Chiches... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Durham_... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Ely_Cat... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Exeter_... http://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Glouces...