พระราชประวัติ ของ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่_4

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 มีพระนามเดิมว่าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระอาทิตยวงศ์[2] เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ทรงดำรงตำแหน่ง "หน่อพุทธางกูร" ซึ่งกฎมนเทียรบาลว่าเป็นตำแหน่งสำหรับพระราชโอรสที่ประสูติจากพระอัครมเหสี และเป็นตำแหน่งพระราชโอรสชั้นสูงสุด[1]

ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระมหาอุปราชไปครองเมืองพิษณุโลก จนกระทั่งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สวรรคตจึงได้เสวยราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยาต่อ เฉลิมพระนามว่าสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร[3]

แต่ศักราชในพระราชพงศาวดารระบุต่างกัน โดยพระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), พระราชพงศาวดาร ฉบับหมอบรัดเล, พระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับของบริติชมิวเซียม, และพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ระบุตรงกันว่าในปี พ.ศ. 2049 ได้ครองเมืองพิษณุโลก จนปี พ.ศ. 2052 จึงได้ครองกรุงศรีอยุธยา แต่พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ กลับระบุว่า พ.ศ. 2069 ได้ครองเมืองพิษณุโลก และ พ.ศ. 2072 จึงได้ครองกรุงศรีอยุธยา คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย สำนักนายกรัฐมนตรี เห็นว่าฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ น่าเชื่อถือที่สุด[1] ฉะนั้น ตามพงศาวดารนี้ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ทรงอยู่ในราชสมบัติตั้งแต่ พ.ศ. 2072 ถึง พ.ศ. 2076 รวมสี่ปี

ใกล้เคียง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก