พระราชกรณียกิจ ของ สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน

นับตั้งแต่ทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับพระราชสวามี สมเด็จพระราชินีรานยาได้ทรงใช้บทบาทของพระองค์ในการส่งเสริมภาคส่วนต่างๆของสังคมในจอร์แดนและที่อื่นๆ

ในประเทศ

ด้านการศึกษา

สมเด็จพระราชินีรานยาในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองความร่วมมือระหว่าง Sesame Workshop และ Workshop Mosaic กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พฤษภาคม พ.ศ. 2549

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีรานยาทรงให้การอุปถัมภ์ต่อการริเริ่มด้านการศึกษาและการเรียนรู้

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 ในความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีได้ทรงริเริ่มรางวัลครูประจำปี รางวัลพระราชินีรานยาเพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา[10][11]

สมเด็จพระราชินีทรงเป็นประธานพิพิธภัณฑ์เด็กเชิงโต้ตอบแห่งแรกของจอร์แดน เปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับเด็กและครอบครัว[12][13]

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 สมเด็จพระราชินีได้ทรงก่อตั้ง“ Madrasati”(โรงเรียนของฉัน) ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของภาครัฐและเอกชนที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงโรงเรียนรัฐบาลของจอร์แดน 500 แห่งในระยะเวลาห้าปี[14]

ในระดับอุดมศึกษาโครงการทุนการศึกษาราชินีรานยา[15] เป็นพาร์ทเนอร์กับมหาวิทยาลัยหลายแห่งจากทั่วโลก

สมเด็จพระราชินีรานยาทรงเป็นประธานสมาคมให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ (Royal Health Awareness Society: RHAS)[16]

ด้านการเสริมพลังชุมชน

สมเด็จพระราชินีรานยา ณ เวทีเศรษฐกิจโลกในตะวันออกกลาง จัดขึ้นที่ทะเลเดดซี ประเทศจอร์แดน ปีพ.ศ. 2550

สมเด็จพระราชินีรานยาทรงจัดตั้งมูลนิธิ Jordan River (JRF)ในปีพ.ศ. 2538[17]

โครงการ The Jordan River Children Program(JRCP) พัฒนาโดยสมเด็จพระราชินีรานยา เพื่อวางสวัสดิการของเด็กๆเหนือวาระทางการเมืองและข้อห้ามทางวัฒนธรรม[18] นำไปสู่การเปิดตัวในปีพ.ศ. 2541 ของโครงการ JRF’s Child Safety Program ซึ่งตอบสนองความต้องการของเด็กๆที่มีความเสี่ยงจากการถูกทารุณกรรมและริเริ่มการรณรงค์ระยะยาวเพื่อเพิ่มความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับความรุนแรงต่อเด็ก

การเสียชีวิตของเด็กสองคนในอัมมานอันเป็นผลมาจากการทารุณกรรมเด็กเมื่อต้นปีพ.ศ. 2552 ทำให้สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีรับสั่งเรียกประชุมรัฐบาลและเอกชน(รวมถึง JRF)เป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อหารือเกี่ยวกับจุดที่ทำให้ระบบเกิดความล้มเหลว[19]

ด้านเยาวชน

สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีพระราชดำรัสว่าสิ่งสำคัญของการศึกษาคือการจัดหาทักษะที่จำเป็นสำหรับคนหนุ่มสาวให้ทำงานได้ดีในสถานที่ทำงาน[20]

พระองค์ทรงริเริ่มกองทุนอัล-อามันเพื่ออนาคตของเด็กกำพร้าในปีพ.ศ. 2546[21] และทรงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนานาชาติที่มอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนชาวจอร์แดนในต่างประเทศ พระองค์ทรงให้การอุปถัมภ์ INJAZ Al-Arab ซึ่งก่อตั้งโดย Save the Children ในปีพ.ศ. 2542 และเปิดตัวในฐานะองค์กรไม่แสวงผลกำไรของจอร์แดนในปีพ.ศ. 2544[22] ในฐานะที่ทรงเป็นเอกอัครราชทูตประจำภูมิภาคของ INJAZ Al-Arab พระองค์ได้ทรงสอนภายในชั้นเรียนและมีพระราชปฏิสันถารกับคนหนุ่มสาวในประเทศอื่นๆ พระองค์ทรงเป็นประธานการเสวนากับผู้ประกอบการเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่ 10 ของ INJAZ Al-Arab ที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความสำเร็จของศิษย์เก่า[23]

ที่งานประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอสในปีค.ศ. 2551 พระองค์ได้เปิดตัวแคมเปญ "เพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนชาวอาหรับหนึ่งล้านคนภายในปี 2551" ซึ่งเป็นแนวคิดของ INJAZ Arabia[24]

ในระดับสากล

ด้านการศึกษาระดับสากล

สมเด็จพระราชินีรานยา ณ เวทีเศรษฐกิจโลก พ.ศ. 2546 ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2543 เพื่อระลึกถึงความมุ่งมั่นของพระองค์ที่ทรงมีต่อของเด็กและเยาวชน กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(UNICEF) ได้ทูลเชิญสมเด็จพระราชินีรานยาเข้าร่วมโครงการริเริ่มการเป็นผู้นำระดับโลก[25] สมเด็จพระราชินีทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกับผู้นำโลกคนอื่นๆ รวมถึงอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ประเทศแอฟริกาใต้ ในขบวนการระดับโลกที่พยายามปรับปรุงสวัสดิการของเด็กๆ[26] ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 สมเด็จพระราชินีรานยาทรงได้รับการขนานพระนามว่าทรงเป็นผู้ให้การอุปถัมภ์ที่มีชื่อเสียงคนแรกของยูนิเซฟสำหรับเด็ก[27] ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 สมเด็จพระราชินีรานยาทรงเป็นประธานระดับโลกกิตติมศักดิ์ของการริเริ่มการศึกษาของเด็กหญิงแห่งสหประชาชาติ(UNGEI)[28]

ในฐานะที่ทรงเป็นผู้ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนานของแคมเปญระดับโลกเพื่อการศึกษา(GCE)[29] สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีพระราชปฏิสันถารกับเด็กๆและผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจในแอฟริกาใต้ทั้งในเมืองของ Johannesburและโซเวโต ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552[30] สมเด็จพระราชินีรานยาและผู้หญิงผลัดกันอ่านเรื่องสั้นจาก The Big Read ให้กับเด็กๆในความพยายามที่จะส่งเสริมการรู้หนังสือ หนึ่งในเรื่องราวในหนังสือ "Maha of the Mountains” ได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระราชินีรานยา[31] ในเมืองโซเวโต ทรงลงพระนามาภิไธยของพระองค์ที่ด้านหลังของ Big Read ก่อนที่จะทรงส่งต่อให้ทุกคนเขียนชื่อของพวกเขา[32][33]

ใกล้เคียง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

แหล่งที่มา

WikiPedia: สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน http://www.businessinsider.com/the-incredible-life... http://www.cnn.com/video/#/video/world/2007/10/26/... http://www.csmonitor.com/Books/Book-Reviews/2010/0... http://www.vanitatis.elconfidencial.com/casas-real... http://www.greenprophet.com/2010/05/17/21286/queen... http://www.huffingtonpost.com/rania-al-abdullah/a-... http://www.huffingtonpost.com/rania-al-abdullah/th... http://jordantimes.com/news/local/queen-rania-hono... http://www.jordantimes.com/?news=16383 http://www.pakxe.com/home/modules.php?name=Content...