ความเป็นมา ของ สวนปราสาทซิสซิงเฮิสต์

สวนของซิสซิงเฮิสต์ย้อนกลับไปเมื่อคริสต์ทศวรรษ 1930 เริ่มต้นจากวีตา แซ็กวิลล์-เวสต์ นักกวีและนักประพันธ์ และสามีของเธอ แฮโรลด์ นิโคลสัน, นักเขียนและนักการทูต[1] แซ็กวิลล์-เวสต์ เป็นนักเขียนให้กับบลูมเบอร์รี่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นที่นิยมมากในคอลัมน์สุดสัปดาห์ เธอส่งเรื่องสวนของเธอไปตีพิมพ์กับดิ อ๊อบเซิฟเวอร์, โดยที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน—สวนของเธอโด่งดังขึ้นมาทันที[2] สวนนั้นออกแบบเหมือนเป็น 'ห้อง' ต่างๆ, แต่ละสวนนั้นมีการตกแต่งที่หลากหลาย มีธีมและสีสันที่ต่างกัน, มีการใช้ต้นไม้ทำเป็นแนวรั้วสูงๆ หรือใช้อิฐสีออกชมพูมาก่อ[3] แต่ละสวนนั้น มี 'ทางเข้า' ที่บ่งบอกถึงสวนแต่ละแบบ, เช่นบางคนอาจจะกำลังมีความสุขกับสวนสวยแบบหนึ่ง, แต่ในขณะเดียวกันอีกคนอาจจะชอบทิวทัศน์อีกส่วนหนึ่งมากกว่า,ในสวนนั้นจะมีทางทะลุกันสำหรับสวนแต่ละแบบ เพื่อให้ทุกคนได้เดินชมสวนหลาย ๆ แบบตามพอใจ[4] นิโคสันออกแบบทางเชื่อมแต่ละสวนเข้าด้วยกัน ส่วนแซ็กวิลล์-เวสต์ จะดูแลในส่วนของดอกไม้ที่ปลูกเพื่อให้สวนดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

สำหรับแซ็กวิลล์-เวสต์แล้ว, ปราสาทและสวนซิสซิงเฮิสต์เป็นความเจ็บปวดที่แสนหวานมาแทนที่บ้านโนล,[5] ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในอังกฤษ, ในฐานะที่เป็นบุตรคนเดียวของ ไลโอเนล, ลอร์ดแซ็กวิลล์ที่ 3 เธอควรจะได้เป็นเจ้าของหากว่าเกิดมาเป็นชาย, ดังนั้นบ้านจึงตกไปเป็นของหลานชายผู้สืบทอดตะกูลแทน

สถานที่นี้เก่าแก่มาก— คำว่า "เฮิสต์" เป็นภาษาอังกฤษเก่าที่ใช้เรียก การล้อมรอบด้วยไม้ สร้างตั้งแต่ยุคกลาง ในปี 1305 ปราสาทนี้เป็นบ้านหลังขนาดใหญ่ของขุนนาง ล้อมรอบด้วยคูน้ำ, เมื่อปี 1490 กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดค้างแรมที่นี่อยู่หนึ่งคืน, ในช่วงยุค 1530 ทอมัส เบเกอร์ซื้อซิสซิงเฮิสต์ขึ้นมา[6] บ้านหลังนี้จึงมีการปรับปรุงใหม่ มีการใช้อิฐมาทำเป็นประตู ซึ่งออกแบบโดย เซอร์ จอห์น เบเกอร์ (หนึ่งในคณะองคมนตรีของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8) และมีการขยายให้กว้างขึ้นช่วงยุค1560 โดยบุตรชายของเขา ริชาร์ด เบเกอร์, ทำให้มีขนาดใหญ่ถึง 700 เอเคอร์ และในปี 1573, สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 เสด็จมาค้างสามคืนที่ซิสซิงเฮิสต์แห่งนี้[6]

กุหลาบงามที่ร่มในสวนขาวที่ซิสซิงเฮิสต์, ทำให้สวนดูน่าสนใจยิ่งขึ้น[7]

ช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ภายหลังจากที่สิ้นตระกูลเบเกอร์, อาคารเหล่านี้ก็กลายมาใช้ประโยชน์อื่นๆแทน: ในช่วงสงครามเจ็ดปี ได้ใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษ; ใช้เป็นที่ทำงานของสหภาพแครนบรู๊ค; และหลังจากนั้นได้กลายมาเป็นบ้านของคนงานในฟาร์ม

ในปี 1930 แซ็กวิลล์-เวสต์และนิโคลสันพบว่าที่ดินของพวกเขาใกล้ ๆ กับเซเวนโอกส์, ในเคนต์, มีการพัฒนาขยับขยายจนดีแล้ว พวกเขาคิดว่า ถึงแม้ซิสซิงเฮิสต์จะถูกทิ้งให้รกมากนาน, พวกเขาก็สนใจที่จะซื้อซิสซิงเฮิสต์และฟาร์มในละแวกเดียวกันขึ้นมา เริ่มการซ่อมแซมปรับปรุงสวนจนกลายเป็นแบบที่เห็นกันในทุกวันนี้[8] แบบแปลนโดยนิโคลสัน และภาพวาดโดย แซ็กวิลล์-เวสต์ นั้นได้รับอิทธิพลโดยตรงมาจากสวนของเกอร์ทรูด เจคกิล และ เอ็ดวิน ลัทเยนส์; และภายหลังมีโคเธ่ มาเนอร์ ในซัมเมอร์เซต, แบบแปลนโดย เพื่อนของนิโคลสัน เรจินัลด์ คูปเปอร์, ซึ่งนักเขียนคนหนึ่งถึงกับเรียกว่าเป็น "ซิสซิงเฮิสต์ฝั่งตะวันตก";[9] รวมถึง ฮิดโคต มาเนอร์ การ์เด้น, ออกแบบโดยเจ้าของชื่อ ลอเรนซ์ จอห์นสตัน, ซึ่งแซ็กวิลล์-เวสต์ได้ร่วมช่วยด้วย แต่ซิสซิงเฮิสต์เป็นที่แรกที่เปิดสู่สาธารณะเมื่อปี 1938

แหล่งที่มา

WikiPedia: สวนปราสาทซิสซิงเฮิสต์ http://baker.canavancentral.com/sissinghurst.html http://www.gardens-guide.com/gardenpages/_0225.htm http://www.cranbrook.org/accommodation.php#sissing... //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://www.invectis.co.uk/sissing/ http://www.telegraph.co.uk/news/obituaries/culture... http://www.theheritagetrail.co.uk/manor%20houses/s... http://www.touruk.co.uk/gardens/gardenskent_siss.h... http://www.nationaltrust.org.uk/sissinghurst-castl... https://web.archive.org/web/20041222003704/http://...