สวนปริศนา หรือ
สวนลับ หรือ
ในสวนศรี หรือ
ในสวนลับ (
อังกฤษ: The Secret Garden) เป็น
วรรณกรรมเด็กของนาง
ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนทท์ที่เดิมพิมพ์เป็นตอน ๆ ใน
นิตยสารเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2453 แล้วต่อมาจึงพิมพ์รวมเป็นหนังสือครั้งแรกในปี 2545ปัจจุบันเป็นหนังสือยอดนิยมเล่มหนึ่งของผู้เขียน และนับว่าเป็นหนึ่งในวรรณกรรมคลาสสิกสำหรับเด็กซึ่งได้ดัดแปลงทำเป็น
ละครและ
ภาพยนตร์แล้วหลายครั้งหลายครา== โครงเรื่อง ==...แมรี่ เล็นน็อกซ์ เป็น
เด็กหญิงมีปัญหา ขี้โรค และไม่มีใครรักอายุ 10 ขวบ
เกิดที่ประเทศอินเดียกับพ่อแม่
ชาวอังกฤษที่ร่ำรวยแต่เห็นแก่ตัวส่วนมากคนใช้เป็นคนดูแลเธอ ผู้ตามใจเธอทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไม่ให้ไปกวนพ่อแม่เธอจึงโตเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวและเห็นแก่ตัวในกาลครั้งหนึ่ง
อหิวาตกโรคได้เกิดในอินเดีย ทำให้พ่อแม่และคนใช้ทั้งหมดของเธอเสียชีวิตจนมีคนพบแมรี่ยังรอดชีวิตอยู่คนเดียวในบ้านที่เปล่าเปลี่ยวเธอได้ไปอยู่กับบาทหลวงชาวอังกฤษและครอบครัวของเขาเป็นระยะสั้น ๆ ก่อนส่งไปอยู่ที่
ยอร์กเชอร์ ประเทศอังกฤษ กับนายอาร์คิบอล์ด เครเว็น ผู้เป็นลุงที่ไม่เคยพบมาก่อนโดยอยู่ในคฤหาสถ์ชื่อว่า มิสเซิลเธวตแมเนอร์ตอนแรก เธอก็คงเป็นตัวของเธอเอง คือหน้าหงิกและไม่สุภาพ เพราะเธอไม่ชอบบ้านหลังใหญ่โตของคุณลุง ไม่ชอบคนในบ้าน และไม่ชอบทุ่งโล่งรอบ ๆ ที่ใหญ่มหาศาลมากที่สุด ซึ่งดูทั้งรกทั้งไม่งามในหน้าหนาวผู้ดูแลบอกให้เธออยู่แค่ในห้องสองห้องของเธอ และเล่นด้วยตัวเองโดยไม่มีคนสนใจมีสาวใช้ใจดีชื่อว่า มาร์ธา โซว์เออร์บี้ ที่เล่าเรื่องของนางเครเว็นที่เสียชีวิตไปแล้วว่า เธอได้ใช้เวลาเป็นวัน ๆ ในสวนล้อมด้วยกำแพงที่เป็นส่วนตัวเพื่อปลูกต้น
กุหลาบแต่ต่อมานางเครเว็นเสียชีวิตเพราะกิ่งไม้ใหญ่ตกมาทับเธอ ทำให้นายเครเว็นเสียใจจนกระทั่งล็อกปิดสวนแล้วฝังกุญแจไม่ให้ใครรู้แมรี่สนใจเรื่องนี้มากจนกระทั่งกิริยาที่ไม่ดีของเธอก็เริ่มอ่อนลงอีกไม่นานเท่าไร เธอก็กลับพอใจเป็นเพื่อนกับมาร์ธา, เบ็น เว็ธเธอร์สแตฟ์ คนสวน, และนกเขนน้อยยุโรป (คล้าย
นกกางเขน แต่หางสั้นกว่าและสีไม่เหมือนกัน) ที่เป็นกันเองและเธอจัดบุคลิกให้คล้าย ๆ มนุษย์ความอยากอาหารของเธอก็เลยเจริญขึ้น ทำให้แข็งแรงขึ้น โดยเล่นคนเดียวอยู่ในทุ่งส่วนมารดาของมาร์ธาก็ซื้อเชือกกระโดดให้แก่แมรี่หวังให้เธอแข็งแรง ซึ่งแมรี่ก็ชอบเล่นกับมันทันทีแมรี่ใช้เวลาคิดถึงเรื่องทั้งสวนลับนี้และเสียงคนร้องที่เธอได้ยินตอนกลางคืนแม้ว่า พวกคนใช้จะอ้างว่าไม่ได้ยินเสียงร้องเมื่อแมรี่กำลังสำรวจรอบ ๆ สวน เพื่อนนกก็ดึงให้เธอสนใจดินที่พึ่งกลับขึ้นมาใหม่ซึ่งแมรี่ก็พบกุญแจสำหรับสวนลับ แล้วในที่สุดก็ประตูที่เปิดเข้าไปในสวนเธอขอมาร์ธาอุปกรณ์สำหรับทำสวน ซึ่งมาร์ธาส่งน้องชายอายุ 12 ขวบชื่อดิกอนนำมาให้แมรี่กับดิกอนก็รู้สึกชอบเป็นเพื่อนกัน เพราะดิกอนใจดีกับสัตว์และมีอัธยาศัยดีด้วยความอยากจะรู้เรื่องทำสวน แมรี่ก็เลยบอกถึงสวนลับให้ดิกอนรู้ในคืนนั้น แมรี่ได้ยินเสียงร้องอีกจึงไปตามเสียง แล้วพบเด็กชายตัวเล็ก ๆ อายุใกล้ ๆ เธอ ที่อยู่ในห้องนอนที่ซ่อนอยู่อย่างไม่คาดฝันโดยมีชื่อว่าคอลินไม่นานเท่าไร แมรี่ก็รู้ว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะว่า เขาเป็นลูกชายลุงของเธอ มารดาของเขาได้เสียชีวิตเมื่อเขายังเป็นทารก และเขามีโรคไขสันหลังที่ไม่ชัดเจนอะไรบางอย่างในอาทิตย์นั้น แมรี่ก็ไปเยี่ยมเขาทุกวัน ทำให้เขาสนใจเรื่องทุ่ง ดิกอนและสัตว์เพื่อน ๆ ของดิกอน และสวน แทนการสนใจปัญหาตัวเองแมรี่ในที่สุดก็สารภาพกับดิกอนว่ารู้ว่าสวนอยู่ที่ไหน แล้วตกลงกันว่า คอลินควรจะได้อากาศที่สดชื่นต่อมา ก็ให้อุ้มคอลินขึ้นรถเข็นของเขา แล้วนำมาที่สวน เป็นครั้งแรกที่เขาออกมานอกบ้านเป็นเวลาหลายปีในขณะที่อยู่ในสวน เด็ก ๆ ก็ตกใจเมื่อเห็นเบ็น เว็ธเธอร์สแตฟ์ มองข้ามกำแพงเข้ามาบนบันไดยืนนอกสวนผู้แปลกใจและโกรธว่าเด็ก ๆ กำลังเล่นอยู่ในสวนของแม่คอลิน และเขาก็ยอมรับว่า เขานึกว่า คอลินเป็นเด็กพิการซึ่งท้าทายให้คอลินยืนขึ้นจากเก้าอี้แล้วพบว่า ขาของเขาปกติ แม้ว่าจะอ่อนแอเพราะไม่ได้ใช้มานานคอลินมาที่สวนทุกวันและร่วมมือกับเพื่อน ๆ เก็บความลับเรื่องสุขภาพที่ดีขึ้นตั้งใจจะสร้างความแปลกใจให้พ่อของเขา ผู้ยังเดินทางและยังเศร้าเรื่องความตายของภรรยาอยู่เมื่อสุขภาพของคอลินดีขึ้นเรื่อย ๆ พ่อของเขาที่อยู่ห่างไกลก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งคืนหนึ่งฝันเห็นภรรยาร้องเรียกเขาจากในสวนเมื่อเขาได้รับจดหมายจากมารดาของมาร์ธา เขาก็ถือโอกาสกลับมาที่บ้านเขามาเดินที่นอกกำแพงสวนคิดถึงภรรยาของเขา แต่ได้ยินเสียงจากข้างใน แล้วพบว่าประตูไม่ได้ล็อก และตกใจที่เห็นสวนกำลังออกดอกอย่างงดงามและลูกชายที่ได้สุขภาพกลับคืนมาพวกคนใช้ต่อมาก็ได้มองอย่างงง ๆ เห็นนายเครเว็นเดินกลับมาที่บ้านพร้อมกับลูกชายที่วิ่งมาด้วยข้าง ๆ