ที่มา ของ สัจจวิภังคสูตร

สัจจวิภังคสูตรนี้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปรารภขึ้น ณ ป่าอิสิปตนมิคทายวัน เขตเมืองพาราณสี [1] แต่พระผู้มีพระภาคมิได้ตรัสแต่ลำพังพระองค์เดียว เพราะทรงปรารภถึงการ "ประกาศธรรมจักรอันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า" [2] หรือ การอริยสัจ 4 ที่ ที่ป่าอิสิปตนมิคทายวัน เขตเมืองพาราณสี ขึ้นมาก่อน จากนั้นทรงแนะนำแก่ภิกษุทั้งหลายว่า อันอริยสัจนี้แม้พระองค์จะเป็นผู้เดียวที่ประกาศ แต่พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ สองมหาอัครสาวกจะช่วยอธิบายชี้แจงให้เข้าใจได้เช่นกัน โดยเฉพาะพระสารีบุตรที่ "พอที่จะบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้ง่ายซึ่งอริยสัจ 4 ได้โดยพิสดาร" [3]

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสรรเสริญคุณของพระสมเด็จพระสารีบุตรและโมคคัลลานะว่า "ทั้งสองรูปนี้เป็นบัณฑิตภิกษุ ผู้อนุเคราะห์ผู้ร่วมประพฤติพรหมจรรย์ สารีบุตรเปรียบเหมือนผู้ให้กำเนิด โมคคัลลานะเปรียบเหมือนผู้บำรุงเลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว"[4] ซึ่งปปัญจสูทนี อรรถกถามัชฌิมนิกายได้อธิบายพุทธวจนะส่วนนี้ไว้ว่า พระสารีบุตรจะสงเคราะห์บรรพชิตทั้งหลายที่ยังไม่บรรลุอริยบุคคลชั้นต้น คือพระโสดาบันให้บรรลุเสียก่อน ท่านยังให้บรรพชิตเหล่านั้นได้มีดวงตาเห็นธรรม ดุจมารดาผู้ให้กำเนิด ครั้นมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว เหมือนได้เกิดใหม่แล้ว ท่านจะปล่อยให้บรรพชิตเหล่านั้นบำเพ็ญเพียรให้มรรคผลสูงๆ ยิ่งขึ้นไป เพื่อที่ท่านจักได้ไปสั่งสอนให้ผู้อื่นได้มีดวงตาเห็นธรรมอีก

ด้วยเหตุนี้ พระสารีบุตรจึงเชี่ยวชาญในการแสดงธรรมขั้นต้นให้พิสดาร ยังให้บรรพชิตทั้งหลายเข้าใจธรรมได้โดยง่าย แล้วจักบรรลุชั้นสูงๆ ยิ่งขึ้นไปด้วยตนเอง หรือด้วยการสั่งสอนของพระมหาโมคคัลลานะในกาลต่อๆ ไป ดังนั้นในสัจจวิภังคสูตร พระสารีบุตรจึงได้แสดงธรรม เพื่อแจกแจงอริยสัจ 4 อย่างพิสดาร เพื่อความแจ่มแจ้งแก่ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระผู้มีพระภาคได้เสด็จเข้าไปยังพระวิหารแล้ว ดังนี้ [5]