สัจนิยมมหัศจรรย์ (
อังกฤษ: magical realism) เป็นประเภทของบันเทิงคดีที่แสดงภาพโลกแห่งความเป็นจริงแต่มีองค์ประกอบของสิ่งวิเศษอยู่ในเรื่อง
[1] หรือในความหมายทั่วไปคืองานวรรณศิลป์ที่มีเวทมนตร์หรือสิ่งเหนือธรรมชาติปรากฏอยู่ในโลกสมจริงที่ดำเนินไปตามระบบเหตุผล ถึงแม้จะมีองค์ประกอบของสิ่งวิเศษ แต่สัจนิยมมหัศจรรย์แตกต่างจาก
จินตนิมิตตรงที่สิ่งวิเศษในงานเขียนสัจนิยมมหัศจรรย์มักไม่มีคำอธิบายแน่ชัดและกลมกลืนไปกับโลกจริง ขณะที่จินตนิมิตมักมีสิ่งวิเศษปรากฏในโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาต่างหาก
[2]คำว่าสัจนิยมมหัศจรรย์ถูกใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1925 โดย
ฟรันทซ์ โรห์ นักวิจารณ์ศิลปะชาวเยอรมันเพื่อใช้บรรยายภาพวาดแนว
คติรูปธรรมแนวใหม่ (New Objectivity) ซึ่งเป็นขบวนการศิลปะเยอรมันที่ได้รับอิทธิพลจาก
ศิลปะสัจนิยมแต่เพิ่มความเหนือจริงเข้าไป
[3][4] โรห์ใช้คำนี้เพื่อแยกกับ
ลัทธิเหนือจริงที่มีความเป็นนามธรรม ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริง และมาจากจิตใต้สำนึกมากกว่า
[5] ซึ่งภาพวาดแนวนี้บันดาลใจให้
แมสซิโม บอนเตมเปลลี นักเขียนชาวอิตาลีนำมาปรับใช้ในงานเขียนตัวเอง ทั้งโรห์และบอนเตมเปลลี รวมถึงลัทธิเหนือจริงต่างมีอิทธิพลต่อนักเขียนชาวอเมริกาใต้หลายคนในเวลาต่อมา เช่น
อาร์ตูโร อุสลาร์ ปีเอตรี,
อะเลโจ การ์เปนติเยร์,
ฆอร์เฆ ลุยส์ บอร์เฆส และ
กาบริเอล การ์ซิอา มาร์เกซ นอกเหนือจากอเมริกาใต้แล้ว งานเขียนแนวสัจนิยมมหัศจรรย์ยังพบได้ในนักเขียนภาษาอื่น ๆ เช่น
ซัลมัน รัชดี (อังกฤษ),
ฮารูกิ มูรากามิ (ญี่ปุ่น) และ
ออลกา ตอการ์ตชุก (โปแลนด์) เป็นต้นนอกเหนือจากการมีสิ่งวิเศษในโลกที่สมจริงแล้ว สัจนิยมมหัศจรรย์ยังมีลักษณะอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ authorial reticence หรือการที่ผู้เขียนจงใจปิดบังไม่อธิบายถึงการมีอยู่ของสิ่งวิเศษในเรื่อง หรือทำให้สิ่งวิเศษดูเหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติ
[6], ความเป็น
อภิบันเทิงคดี (metafiction) หรือการที่ผู้เขียนย้ำเตือนว่าผู้อ่านกำลังอ่านเรื่องแต่งอยู่
[7] และการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและชนชั้นสูง
[8]