สัตว์ประหลาดทะเล (
อังกฤษ: Sea monster) เป็น
สัตว์ประหลาดหรืออสูรกายที่ปรากฏทั้งใน
ตำนานหรือ
เทววิทยา ที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในทะเลหรือมหาสมุทร และมักคิดว่ามีขนาดมหึมา สัตว์ประหลาดทะเลมีได้หลายรูปแบบ ได้แก่
มังกรทะเล หรืองูทะเลหรือสัตว์หลายชนิด พวกมันมักมีลำตัวลื่นและมีเกล็ดและมักปรากฏภาพว่าคุกคามเรือหรือพ่นน้ำใส่ คำจำกัดความของคำว่า "สัตว์ประหลาด" เป็น
อัตนัย และสัตว์ทะเลบางชนิดอาจได้รับการยอมรับจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นที่ยอมรับทางวิทยาศาสตร์ เช่น
วาฬ รวมถึง
หมีกที่มีขนาดใหญ่การพบเห็นสัตว์ประหลาดทะเล มีทั่วทุกมุมโลก
[1] จนถึงกระทั่ง
ขั้วโลก เช่น
มหาสมุทรใต้[2]การพบเห็นที่ขึ้นชื่อ เช่น
ฮันส์ เอดจน์ มิชชันนารีชาวนอร์เวย์ ขณะโดยสารทางเรือเพื่อไปเผยแผ่ศาสนาที่เกาะกรีนแลนด์ว่าได้พบเห็นสัตว์ประหลาดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1734 ว่ามันมีปากที่แหลมยาว ลำตัวยาว คอยาว มันชูคอขึ้นเหนือน้ำ มีหนังที่เหี่ยวย่น และมันก็ดำลงไปในน้ำและชูส่วนหางขึ้น โดยประมาณแล้วลำตัวของมันขนาดความยาวพอ ๆ กับเรือที่เขาโดยสารเลยทีเดียว
[3]ซากของสัตว์ประหลาดทะเลถูกรายงานว่าพบเห็นมาตั้งแต่สมัยโบราณ
[1] โดยซากที่ระบุไม่ได้จะถูกเรียกว่า
กล็อบสเตอร์ กรณีกล็อบสเตอร์ที่ขึ้นชื่อเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1977 ที่นอกชายฝั่งของนิวซีแลนด์ เมื่อเรือประมงสัญชาติญี่ปุ่นลำหนึ่งชื่อ
ซุยโยะ-มะรุ ได้กว้านเอาซากของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ขึ้นมาจากใต้ทะเล ซึ่งซากนั้นอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็นเต็มที่ แต่ทว่ามีรูปลักษณะคล้ายคลึงกับ
สัตว์เลื้อยคลานทะเลที่สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คือ
เพลสิโอซอร์ ซึ่งได้มีการบันทึกและถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ก่อนจะทิ้งลงทะเลไป ต่อมาได้กลายเป็นที่ฮือฮาและสนใจในแวดวงวิทยาศาสตร์อย่างมาก จนกระทั่งถูกประทับลงบน
ดวงตราไปรษณียากรของบราซิล ซึ่งกรณีนี้ได้ถูกอธิบายโดย
เอฟบีไอว่า เป็นซากที่เน่าสลายของ
ปลาฉลามบาสกิน ในทำนองเดียวกันการทดสอบดีเอ็นเอยืนยันว่าสัตว์ทะเลที่เกยตื้นบนฝั่งของ
นิวฟันด์แลนด์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2001 ว่าเป็น
วาฬสเปิร์ม[4]