สำเนียงที่ไม่เหมือนเจ้าของภาษา ของ สำเนียง

ปัจจัยสำคัญในการคาดคะเนระดับสำเนียงว่าจะมีความเด่นชัด (หรือความแปร่ง) เพียงใดคืออายุขณะเรียนรู้ภาษาที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา[7][8] ทฤษฎีช่วงอายุเอื้อการเรียนภาษาระบุว่า หากการเรียนรู้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่เกิดขึ้นหลังช่วงอายุเอื้อการเรียนภาษา (โดยทั่วไปจัดว่าอยู่ในวัยแรกเกิดจนถึงวัยแรกรุ่น) บุคคลหนึ่ง ๆ ไม่น่าจะได้สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้ค่อนข้างเป็นที่โต้เถียงในหมู่นักวิจัย[9] แม้ว่านักวิจัยหลายคนจะเห็นพ้องกับทฤษฎีนี้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง พวกเขาก็กำหนดช่วงอายุเอื้อการเรียนภาษาไว้ก่อนวัยแรกรุ่น หรือไม่ก็พิจารณาว่ามันมีลักษณะเป็น "ช่วงโอกาส" ที่สำคัญมากกว่า ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากอายุ เช่น ระยะเวลาพำนักอาศัย ความคล้ายคลึงกันระหว่างภาษาแม่กับภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ความถี่ในการใช้ภาษาทั้งสอง เป็นต้น[8]

อย่างไรก็ตาม เด็ก ๆ ที่มีอายุน้อยเพียง 6 ปีในขณะย้ายไปอยู่ประเทศอื่นมักพูดสำเนียงที่ไม่เหมือนเจ้าของภาษาอย่างสังเกตได้ชัดเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่พบได้ยากของบุคคลที่เข้าถึงสำเนียงระดับเจ้าของภาษาได้แม้พวกเขาจะเรียนรู้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น[10] อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเงื่อนไขทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมองจะจำกัดความสามารถของผู้พูดส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา[11] นักวิจัยส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า สำหรับผู้ใหญ่แล้ว การได้สำเนียงเหมือนเจ้าของภาษาในภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย[7]