กลุ่มของสำเนียง ของ สำเนียงสงขลา

ภาษาไทยถิ่นใต้สำเนียงสงขลาแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

สำเนียงสงขลากลุ่มอยู่เหนือน้ำ (โหม่เหนือ)

คือ ภาษาที่ชาวคลองหอยโข่ง สะเดา นาทวี จะนะ เทพา และสะบ้าย้อย พูดจาสื่อสารกัน ภาษาสงขลากลุ่มนี้จะมีเอกลักษณ์ เรื่องภาษาสำเนียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น

  • "ยิงหมีนะ" วลีนี้มีความหมายใกล้เคียงกับ "ยังดีนะ" หรือเกือบไปแล้วไหมละ ของภาษาไทยกรุงเทพฯ ประโยคตัวอย่างเช่น “ยิงหมีนะตาย ถ้ากูมาไม่ทัน" หมายความว่า เกือบตายไปแล้ว ยังดีนะที่กูมาทัน
  • คนสงขลากลุ่ม "โหม่เหนือ" (โดยเฉพาะคนคลองหอยโข่ง ดั้งเดิม) จะเรียกมะละกอว่า "กล้วยหลาหรือแตงต้น" ในขณะที่ปักษ์ใต้ทั่วไป จะเรียกมะละกอว่า "ลอกอ"
  • คนสงขลากลุ่ม "โหม่เหนือ" (โดยเฉพาะคนคลองหอยโข่ง สะเดา นาทวี) มักจะพูดคำว่า "หน้อ" ต่อท้ายประโยค และมีหางเสียงที่ยาวไม่ขาดห้วน ถือเป็นสำเนียงสงขลา ที่มีความนุ่มนวลกว่าสำเนียงสงขลากลุ่ม "โหม่บก"
  • คนสงขลากลุ่ม "โหม่เหนือ" (โดยเฉพาะคนคลองหอยโข่งสมัยก่อน) จะใช้คำว่า "ได่" ในความหมาย "ทำไม" ในขณะที่คนปักษ์ใต้ทั่วไปจะใช้คำว่า "ไส่" ตัวอย่างเช่นประโยคต่อไปนี้ที่ แม่เฒ่าชาวคลองหอยโข่ง ถามลูกหลาน ที่ไปเยี่ยมถึงบ้านว่า "มาได่หะโหลก" ซึ่งมีความหมายว่า "มาทำไมละลูก"

สำเนียงสงขลากลุ่มอยู่ริมทะเล (โหม่บก)

โดยเฉพาะชาวสงขลาที่อยู่ในเขตอำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ และอำเภอระโนด แม้ส่วนใหญ่จะมีสำเนียงใกล้เคียงกับชาวสงขลาเหนือน้ำ (โหม่เหนือ) แต่ก็มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ

  • การออกเสียง ร ที่ทางคนสงขลาริมทะเล ออกเสียงไม่ได้ทั้งเสียงพยัญชนะนำ และอักษรควบแต่จะใช้ ล แทน เช่น "รัก" จะออกเสียงว่า ลัก จึงมีผลให้ "ฉันรักเธอ" ของคนสิงหนครกลายเป็น "ชั้นหลักเธอ" (เขียนตามเสียงวรรณยุกต์)
  • ในส่วนของ "โหม่เหนือ" (คนคลองหอยโข่ง สะเดา) แม้จะออกเสียง ร ที่เป็นพยัญชนะนำได้ แต่จะออกเสียงอักษรควบ ร ไม่ได้เช่นเดียวกันกับคนสงขลาริมทะเล ตัวอย่างเช่น
    • เปรียบเทียบ - คนสงขลา (ทั้งจังหวัด) จะออกเสียงเป็น "เปลียบเทียบ"
    • แปรงฟัน - คนสงขลา (ทั้งจังหวัด) จะออกเสียงเป็น "แปลงฟัน"