สถานะทางกฎหมาย ของ สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย

กิจกรรมทางเพศของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นกำหนดให้เป็นความผิดมาอย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2451 เนื่องจากได้มีการประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127 ขึ้น โดยในมาตรา 242 บัญญัติไว้ว่า[6]

"ผู้ใดทำชำเรา ผิดธรรมดามนุษย์ ด้วยชายก็ดี หญิงก็ดี หรือทำชำเราด้วยสัตว์เดียรฉานก็ดี ท่านว่ามันมีความผิด ต้องรวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนขึ้นไปจนถึงสามปี แลให้ปรับตั้งแต่ห้าสิบบาทขึ้นไป จนถึงห้าร้อยบาท ด้วยอีกโสดหนึ่ง"

เหตุผลสำคัญในการตรากฎหมายลักษณะอาญาฯ และบัญญัติโทษดังกล่าวสืบเนื่องมาจากความพยายามของรัฐไทยที่ต้องการให้ระบบกฎหมายของไทยสอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติของมหาอำนาจยุโรปในสมัยนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหราชอาณาจักรสมัยวิคตอเรีย แต่กระนั้น จากหลักฐานก็ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินคดีทางศาลอันเกี่ยวเนื่องกับความผิดนี้แต่อย่างใด และตำรวจไทยเองก็มองข้ามกิจกรรมทางเพศของบุคคลเพศเดียวกัน ตราบเท่าที่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความยินยอมจากทั้งคู่[1]

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ได้มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายอาญาแทนที่กฎหมายลักษณะอาญาฉบับเดิม โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป[7] และไม่ปรากฏว่ามีบทบัญญัติที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมาตรา 242 ของกฎหมายลักษณะอาญาในประมวลกฎหมายฉบับใหม่ ส่งผลให้กิจกรรมทางเพศของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นชอบด้วยกฎหมายไปโดยปริยายตั้งแต่ พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป[1]

เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2545 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกหนังสือที่ สธ 0605/375 รับรองว่าบุคคลรักเพศเดียวกันมิได้ถือเป็นผู้มีความผิดปกติทางจิตหรือป่วยเป็นโรคแต่อย่างใด โดยอ้างอิงถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) และตามบัญชีจำแนกโรคระหว่างประเทศ ICD-10 ฉบับแก้ไข ครั้งที่ 1 ไทย-อังกฤษ เล่มที่ 1 (ก) ตารางการจัดกลุ่มโรค องค์การอนามัยโลก ซึ่งได้เอาลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างคนรักเพศเดียวกันออกจากกลุ่มคนที่มีความผิดปกติทางจิต[8]

ในปี พ.ศ. 2550 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาอีกครึ่งหนึ่ง โดยได้เพิ่มนิยามคำว่า "กระทำชำเรา" ในมาตรา 276 ให้ครอบคลุมถึง "การใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น" ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งผู้ชายและผู้หญิงจากการถูกกระทำชำเรา เพราะความในกฎหมายฉบับเดิมคุ้มครองเฉพาะผู้หญิงที่ถูกผู้ชายกระทำเท่านั้น[9]

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554 ศาลปกครองกลางพิพากษาให้กระทรวงกลาโหมเพิกถอนคำว่า "เป็นโรคจิตถาวร" ในใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน (สด. 43), ใบสำคัญสำหรับคนจำพวกที่ 4 (สด.5) และใบสำคัญให้รับราชการทหาร (สด.9) ของบุคคลที่ยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ แต่มีการเสริมหน้าอก เนื่องจากคำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมจึงแก้ข้อความในพระราชบัญญัติราชการทหาร พ.ศ. 2497 เป็น "ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด" แทน เพื่อแสดงให้เห็นว่าบุคคลดังกล่าวไม่อาจเข้ารับราชการทหารได้ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป[10][11]

22 สิงหาคม พ.ศ. 2562 มีความพยายามก่อตั้งคณะกรรมการธิการสามัญเรื่องคนหลากหลายทางเพศในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจะบริหารจัดการที่มีความหลากหลายทางเพศที่มีปัญหาการกดทับเชิงโครงสร้างทางสังคมไทย แต่มีเสียงสนับสนุนเพียง 101 เสียง โดยที่เหลืออีก 365 เสียงคัดค้าน[12]

6 กรกฎาคม 2563 ได้เกิดกระแสแฮชแท็ก #สมรสเท่าเทียม ในทวิตเตอร์ของประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับ 6 ภายหลังสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดรับความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยมีธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ร่วมกับคณะ เป็นผู้เสนอ สาระสำคัญประกอบด้วยการเสนอขอแก้ไขเพื่อให้บุคคลเพศเดียวกันและต่างเพศสามารถทำการหมั้นและสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีสิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้มีการเปลี่ยนตำว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา” เป็น “ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส”[13] โดยได้มีผู้ลงความคิดเห็นแล้วรวมมากกว่า 50,000 คน

ใกล้เคียง

สิทธิ สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเรียงตามประเทศหรือดินแดน สิทธิ เศวตศิลา สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย สิทธิเก็บกิน สิทธิในสุขภาพ สิทธิในอาหาร สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย สิทธิชัย ผาบชมภู สิทธิพร นิยม

แหล่งที่มา

WikiPedia: สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย http://asiancorrespondent.com/120360/rising-lgbt-d... http://edition.cnn.com/2015/06/28/tech/social-medi... http://gothaibefree.com/lgbt-thailand/ http://www.lonelyplanet.com/travel-tips-and-articl... http://www.positioningmag.com/content/60799 http://www.prachatai.com/english/node/5246 http://www.prachatai.com/journal/2013/07/47837 http://www.prachatai.com/journal/2015/06/60019 http://www.prbangkok.com/News_executives/33589-%E0... http://www.komchadluek.net/detail/20110913/108992/...