ประวัติ ของ สุมณทิพย์_ชี

สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2531 เป็นบุตรของมณฑล เหลืองอุทัย กับชนาภา ชินชวนิช บิดารับราชการตำรวจ ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน เธอมีพี่ต่างบิดาห้าคนจากการสมรสครั้งก่อนของมารดา[2] ขณะอายุราว 6-7 ขวบ บิดาและมารดาหย่าร้างกัน เธอจึงอยู่ในการดูแลของมารดามาโดยตลอด[1][3] โดยเธอและครอบครัว​ นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก[4][5][6]

เข้ารับการศึกษาระดับปฐมวัยจากโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง, ระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ เมืองทองธานี (ป. 3-5), โรงเรียนเทพอักษร (ป. 5-6), ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ปอลหนองคาย (ม. 1), โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา (ม. 2), โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี (ม. 3) และโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ (ม. 4-6)[2] เคยศึกษาอยู่ที่คณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ต่อมาได้ลงเรียนใหม่ในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง[3]

สุมณทิพย์มีผลงานในวงการบันเทิงอย่าง ทั้งการถ่ายโฆษณาโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และโฆษณาพิซซ่า จนถึงถ่ายแบบนิตยสาร และยังเคยเล่นในมิวสิกวิดีโอของวงไอน้ำและวงสิงห์เหนือเสือใต้ ทั้งเคยเป็นสมาชิกศิลปินกลุ่มในแนวเพลงแบบฮิปฮอป แดนซ์[7] ภายใต้ชื่อวงว่าเบบี้ บูทตี้ (Baby Booty) ที่มีเพลงเปิดตัวอย่าง "แหวะ แหวะ" และ "คุก คุก คุก" จากค่ายซาเล้งการดนตรีของปฏิวัติ เรืองศรี หลังจากนั้นจึงมีผลงานในการแสดงละครเรื่องแรกกับทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กับค่ายเมคเกอร์กรุ๊ป เรื่อง เงารักลวงใจ[8]

สุมณทิพย์เคยคบหาดูใจกับมาริโอ้ เมาเร่อ มาเป็นเวลานานถึง 10 ปี[9] จนช่วงปี พ.ศ. 2558 เธอคบหากับธรรศภาคย์ ชี และตั้งครรภ์กับเขาหลังจากคบหาไม่นานนัก[10] ทั้งสองสมรสกันด้วยพิธีอย่างศาสนาคริสต์ตามที่เธอนับถือเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559 ณ โบสถ์เซ็นหลุยส์ มารี เดอ มงฟอร์ ภายในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ[11][12] และจัดพิธีสมรสแบบไทยและจีนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมปีเดียวกัน[13] โดยทั้งสองได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งสุมณทิพย์ใช้ชื่อสกุลสามี และจดทะเบียนสมรสที่ไต้หวันด้วย[14] เธอมีบุตรสาวคือ พอลลีน่า ชี (ชื่อเล่น เป่าเปา)[15] เกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559 และ ลาลิน่า ชี (ชื่อเล่น เป่าเป้ย์) เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563