การบริหารจัดการ ของ สโมสรฟุตบอลราชนาวี

ในปี พ.ศ. 2552 แม้ว่าทีมราชนาวี-ระยอง จะไม่มีนักฟุตบอลระดับซูเปอร์สตาร์ และผลงานอยู่ในโซนท้ายตารางต้องลุ้นไม่ให้ทีมตกชั้นจนถึงนัดสุดท้าย แต่ด้วยความสำเร็จการเข้ามาทำทีมของกมล สุวรรณเจริญ (เสี่ยเหมา) ที่มีระบบเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และการประชาสัมพันธ์ ทำให้ราชนาวี-ระยอง เก็บยอดบัตรผ่านประตูสะสมมากที่สุดในบรรดา 16 สโมสร[6] และรวมรายได้ค่าของที่ระลึกแล้วเป็นรองแค่สโมสรเมืองทองหนองจอกทีมแชมป์ในปีนั้นแค่ทีมเดียวเท่านั้น

ในปี พ.ศ. 2558 ทีมราชนาวีได้ผู้สนับสนุนหลัก คือ บริษัท เอช อาร์ โปรเฟสชั่นแนล คอนซัลติ้ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งนายสมฤทธิ์ ศรีทองดี ประธานกรรมการบริษัทฯ ได้กล่าวว่า "การสนับสนุนทีมราชนาวีสู้ศึกไทยลีกในครั้งนี้ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ส่วนตัวแล้วผมมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมราชนาวีที่มีดีพอในการยืนหยัดอยู่ในศึกไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ต่อไป เบื้องต้น เอส อาร์ โปรฯ ได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนให้ทีมราชนาวีอยู่ที่ปีละ 30 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี รวมเป็น 90 ล้านบาท หากว่าในฤดูกาล 2015 สามารถอยู่รอดปลอดภัยอยู่ในศึกไทยพรีเมียร์ลีกได้ รวมถึงในปี 2016 จบอันดับอยู่ในกลุ่มบนของตารางได้ และในปี 2017 สามารถลุ้นความสำเร็จได้ ทางเราก็พร้อมที่จะเพิ่มเงินอัดฉีดพิเศษตามสมควรให้กับทีมอย่างแน่นอน เราจะเป็นอีกหนึ่งกำลังในการพาทีมราชนาวีขับเคลื่อนต่อไปในศึกไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ครับ"

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 พลเรือเอก ประพฤติพร อักษรมัต ประธานสโมสรฟุตบอลราชนาวี ซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศสูงขึ้น ได้เป็นประธานเปิดสนามฟุตบอลราชนาวี (สนาม 2) เพื่อเป็นสถานที่ฝึกสอนเยาวชน ACADEMY NAVY FC ซึ่งเป็นบุตรหลานกำลังพลทหารเรือและเยาวชนในท้องถิ่น เพื่อเสริมทีมราชนาวีในอนาคต และเป็นสนามสำรองเพื่อฝึกซ้อมนักเตะสโมสรราชนาวี โดยสุเมธ กองพัฒนากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีเค ชูส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 1.3 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการปั้นเยาวชนเสริมทีมในอนาคต

ใกล้เคียง

สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี สโมสรฟุตบอลเชลซี สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล สโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล