ส้มเขียวหวาน เป็น
ส้มชนิดหนึ่ง ที่พัฒนาสายพันธุ์มาจาก
ส้มจีน (C. reticulata) ในประเทศไทยมีผู้
สันนิษฐานว่ามีผู้นำเข้าต้นพันธุ์มาจาก
ประเทศจีนเมื่อระยะเวลากว่า 100 ปีมาแล้ว โดยลักษณะทั่วไปของส้มเขียวหวานมีรูปกลมมน แป้นเล็กน้อย ฐานผลกลมมน ด้านล่างเป็นแอ่งตื้น ๆ ผิวผลเรียบ มีเปลือกบาง เนื้อส้มภายในเป็น
สีส้มอม
ทอง ฉ่ำ
น้ำ กลีบแยกออกจากกันได้โดยง่าย มีรสชาติอร่อยหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เมื่อแกะออกมาแล้วกลิ่นจะติดจมูก ทำให้เป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก ทั้งในรูปของผลไม้สดและในรูปของน้ำส้มคั้น ซึ่งนอกจากจะให้คุณค่าทางอาหารสูงแล้ว การบริโภคในลักษณะที่รวมทั้งเส้นใยและกากจะเป็นยาระบายอ่อนๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วยส้มเขียวหวานที่ผลิตในแต่ละปีจะใช้บริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน นำรายได้เข้าประเทศปีละหลายล้านบาท
[1]แหล่งที่ขึ้นชื่อว่าปลูกส้มเขียวหวานกันมากและมีชื่อเสียงในประเทศไทย คือ ตำบลบางมดในพื้นที่
อำเภอราษฎร์บูรณะและ
อำเภอบางขุนเทียนของ
จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันคือแขวงบางมดใน
เขตทุ่งครุและ
เขตจอมทองของ
กรุงเทพมหานคร) จนได้ชื่อว่า "ส้มบางมด" แต่ต่อมาในปี
พ.ศ. 2510 มี
น้ำทะเลได้หนุนเข้ามาทำให้ไม่สามารถปลูกได้ จึงได้เปลี่ยนมาปลูกที่
ทุ่งรังสิต โดยเริ่มที่คลองสอง
ธัญบุรี ต่อมาในปี
พ.ศ. 2511 จึงมาปลูกที่
อำเภอหนองเสือ จนได้ชื่อว่า "ส้มรังสิต" แต่ปัจจุบันก็มีการเพาะปลูกน้อยลง รวมถึงในพื้นที่บางมดด้วย
[2][3]ส้มเขียวหวาน มีสรรพคุณทางยาและโภชนาการ ตรงที่ผลนำมารับประทานหรือคั้นน้ำดื่มมีรสชาติเปรี้ยวอมหวานบรรเทาอาการกระหายน้ำ ป้องกันโรค
หวัดและการติดเชื้อ
แบคทีเรีย ลดปริมาณ
โคเลสเตอรอลใน
โลหิต ช่วยระบบย่อยอาหารของร่างกาย ระบายได้มีแก้อาการท้องผูก และมี
คุณค่าทางอาหาร ส้มเขียวหวานน้ำหนัก 100 กรัม ให้
วิตามินซี 42
มิลลิกรัมนอกจากนี้แล้ว ส้มเขียวหวานยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีกตามพื้นที่ทำการเพาะปลูก เช่น "ส้มแก้วเกลี้ยง", "ส้มจันทบูร", "ส้มแป้นกระดาน", "ส้มแสงทอง", "ส้มแป้นเกลี้ยง", "ส้มจุก" หรือ "ส้มบางมด" เป็นต้น
[4]