หมีสีน้ำตาล (
อังกฤษ: Brown bear;
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ursus arctos) เป็น
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใน
อันดับสัตว์กินเนื้อ (Carnivora) ขนาดใหญ่
ชนิดหนึ่งจัดเป็น
หมีที่มีขนาดใหญ่มาก โดย
ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่า
ตัวเมีย เมื่อยืน 4 เท้ามีความสูงถึง 5
ฟุต และเมื่อยืนด้วย 2 เท้า อาจสูงถึง 9 ฟุต แต่ยืนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่อาจมี
น้ำหนักมากถึง 1,000
ปอนด์ ส่วนตัวเมียอาจมีน้ำหนักมากกว่า 450 ปอนด์ มี
ขนสีน้ำตาลตลอดทั้งลำตัว อันเป็นที่มาของชื่อ ปุ่มหรือเนินตรงหัวไหล่ มีขนและเล็บยาว มีจมูกที่ใหญ่ แต่มี
ใบหูขนาดเล็ก แต่จะมีขนสีเข้มหรืออ่อนไปตามสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศที่อาศัย รวมถึงขนาดตัวด้วย ซึ่งถือเป็น
ชนิดย่อย (ดูในตาราง) โดยกระจายพันธุ์ไปในพื้นที่ ๆ กว้างไกลมาก ตั้งแต่
อะแลสกา,
แคนาดา,
รัสเซีย, หลายพื้นที่ใน
ยุโรป และตามแนว
เทือกเขาหิมาลัยใน
อินเดีย,
เนปาล และ
จีน และ
ตะวันออกกลางหมีสีน้ำตาลกินอาหารได้หลากหลายมาก ทั้ง
พืชและ
สัตว์ โดยหากเป็นพืชมักจะเป็น
ผลไม้ประเภท
เบอร์รี่ บางครั้งกินสัตว์ขนาดเล็ก เช่น
แมลง หรือ
หนู แต่บางครั้งก็กินสัตว์ใหญ่ เช่น
ม้า,
วัวป่า,
กวาง รวมถึงซากสัตว์ ในช่วงฤดูกาลที่มีอาหารสมบูรณ์ อาหารที่หมีสีน้ำตาลชอบมาก คือ
ปลาแซลมอน และ
ปลาเทราท์หมีสีน้ำตาลตัวเมียต้องมีอายุ 4 ถึง 10 ปี จึงจะเข้าสู่
วัยเจริญพันธุ์ และให้กำเนิดลูกโดยเฉลี่ย 2 ตัว ในระยะเวลา 4 ปี ฤดูกาลผสมพันธุ์อยู่ในช่วงปลาย
ฤดูใบไม้ผลิถึงต้น
ฤดูร้อน แม่หมีจะให้กำเนิดลูกในช่วงเดือน
มกราคม-
มีนาคม ปกติ 2-3 ตัว โดยลูกหมีที่เกิดใหม่จะยังไม่ลืมตา และยังไม่มีขน ลูกหมีจะอาศัยอยู่ในถ้ำที่แม่หมีขุดขึ้นมาจนกระทั่งถึงเดือน
เมษายน หรืออาจถึงเดือนมิถุนายน และเริ่มหย่านมเมื่ออายุประมาณ 5 เดือน และเริ่มเรียนรู้ว่า พืชหรือสัตว์ประเภทไหนที่ใช้เป็นอาหาร ลูกหมีจะอยู่กับแม่อย่างน้อยอีก 1 ปี หรือมากกว่านั้น จากนั้นจึงเริ่มแยกตัวออกไป ส่วนใน
ฤดูหนาว หมีสีน้ำตาลจะ
จำศีลในถ้ำเป็นระยะเวลาราว 2 เดือน โดยใช้พลังงานจาก
ไขมันที่สะสมไว้
[3]