หมู่บ้านทะลุฟ้า เป็นค่ายพักแรมของผู้ประท้วงในระหว่าง
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 ก่อตั้งโดยกลุ่มเดินทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564
[1] ตั้งอยู่บริเวณ
สะพานชมัยมรุเชฐ ข้าง
ทำเนียบรัฐบาล โดยมีข้อเรียกร้อง ได้แก่ การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, การยกเลิกกฎหมาย
ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย และการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งผู้จัดประกาศว่าจะปักหลักชุมนุมไปอย่างไม่มีกำหนดมีการจัดให้ลงทะเบียนและคัดกรองโรคโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐบาล
[1] โดยก่อนหน้านี้กลุ่มพีมูฟและภาคีเซฟบางกลอยปักหลักชุมนุในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว
[2] ต่อมามีการจัดสรรพื้นที่ตั้งเป็นเวทีปราศรัย ครัว ที่พักภิกษุสงฆ์ ที่พัก และหน่วยแพทย์
[3]วันที่ 16 มีนาคม ตัวแทนไปยื่นจดหมายถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐและสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยเพื่อขอให้จับตาการใช้กำลังและบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลประยุทธ์
[4] วันที่ 17 มีนาคม รวมกันจัดกิจกรรมเขียนจดหมายถึงนักกิจกรรมในเรือนจำ
[5] กลุ่มยังประกาศให้ผู้ประท้วงที่ไม่มีที่พักเข้าพักได้ฟรี
[6]วันเดียวกัน กลุ่มพีมูฟและภาคีเซฟบางกลอยประกาศเลิกปักหลักชุมนุม โดยอ้างว่าเพื่อรอดูผลงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้ง การพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เสียก่อน
[7] หลังจากก่อนหน้านี้ เข้าหารือกับร้อยเอก
ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาขัดแย้งบางกลอย
[2] ทำให้เหลือเฉพาะกลุ่มเดินทะลุฟ้าโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาลระบุว่าผู้ชุมนุมมีความผิดตาม
พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แต่ยอมย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกจากพื้นที่เนื่องจากประเมินแล้วไม่มีความเสี่ยงเกิดเหตุรุนแรง
[8] ผู้ชุมนุมระบุว่ามีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าสังเกตการณ์
[9] และมีการตามไปข่มขู่ถึงเขต
วัดโสมนัสราชวรวิหาร ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับค่ายพัก
[10]เช้าวันที่ 28 มีนาคม ตำรวจเข้าสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการชุมนุมที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน
[11] แต่ในช่วงบ่ายได้มีการจัดกิจกรรมทวงคืนหมู่บ้านทะลุฟ้า พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมในหมู่บ้านทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
[12]