หม่อมราชวงศ์สังขดิศ_ดิศกุล

พลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล (พ.ศ. 2464 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2545) อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศมาเลเซีย ประเทศสมาพันธรัฐสวิส และนครรัฐวาติกัน เป็นโอรสของหม่อมเจ้าจุลดิศ ดิศกุล และเป็นพระนัดดาสืบตระกูลในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมรสกับนางมัณฑนา ดิศกุล ณ อยุธยา (ราชสกุลเดิม กุญชร ณ อยุธยา) มีบุตรชายคนเดียว คือ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุลหม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล เป็นทายาทสายตรงผู้สืบทอดดำรงรักษาวังวรดิศ ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านได้ทุ่มเทเวลากว่า 20 ปีภายหลังเกษียณอายุราชการในตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศมาเลเซีย สมาพันธรัฐสวิส และนครรัฐวาติกัน ในความทุ่มเท เสียสละ ไม่เคยมีความคิดโลภโมโทสันที่จะขายพื้นที่วังวรดิศหรือให้เช่าตามสิทธิแห่งความเป็นเจ้าของ ทั้งที่มีผู้มาติดต่อขอซื้อขอเช่าด้วยการเสนอราคาค่างวดเป็นจำนวนมาก เป็นที่กล่าวขานกันโดยทั่วว่าคุณชายสังขดิศจะปฏิเสธด้วยความสุภาพเรียบร้อยเสมอมา หากแต่ได้ดำริก่อตั้ง 'วังวรดิศ' เป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชจักรีวงศ์ และเสด็จปู่ของหม่อมราชวงศ์สังขดิศ คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานแนวพระราชดำริแก่เอกอัครราชทูต หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล เมื่อครั้งที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เยี่ยมทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ประเทศสมาพันธรัฐสวิส รวมทั้งการให้เป็นโรงเรียนดำรงราชานุภาพ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่ลูกหลานเยาวชน ครูอาจารย์ อีกทั้งหลักสูตร 'การเป็นคนไทยที่ดี ตามรอยพระยุคลบาท' ให้กับข้าราชการจากหลายส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ตราบจนปัจจุบัน ที่บุตรชายคนเดียว คือ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นผู้บริหารราชการพลเรือนดีเด่นครุฑทองคำ ประจำปี 2553-2554 สมรสกับนางอัมพร ดิศกุล ณ อยุธยา มีบุตรชายคนเดียว คือ นายวรดิศ ดิศกุล ณ อยุธยา ได้สืบสานปณิธานของบิดาด้วยวิริยภาพ และยึดมั่นพระราชปรัชญาความพอเพียงในการครองตน ครองคน และครองงาน ความเพียร ความเจียมเนื้อเจียมตัว ความอ่อนน้อมถ่อมตน ตามคำสอนของบิดา และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพตลอดมา [1]พลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล ได้ถึงแก่อนิจกรรมที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ด้วยโรคเกี่ยวกับโลหิตในสมอง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2545 สิริรวมอายุได้ 81 ปี[2] พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร อันนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อมครอบครัวทายาทพลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล และสมาชิกในราชสกุลดิศกุล หาที่สุดมิได้

หม่อมราชวงศ์สังขดิศ_ดิศกุล

คู่สมรส มัณฑนา ดิศกุล ณ อยุธยา
บุตร หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล
เกิด พ.ศ. 2464
มีชื่อเสียงจาก ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ วังวรดิศ และเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัลวังวรดิศอาคารอนุรักษ์ดีเด่น สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
บิดามารดา หม่อมเจ้าจุลดิศ ดิศกุล
หม่อมแช่ม เปาโรหิตย์
เสียชีวิต 22 ธันวาคม พ.ศ. 2545

ใกล้เคียง

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์