ช่วงเยาว์วัย ของ หม่อมเจ้าบุญจิราธร_จุฑาธุช

เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชกาลที่ 5 บันทึกเอาไว้ว่า ท่านหญิงบุญจิราธรนี้เป็นที่ต้องพระราชอัธยาศรัยในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงมาแต่ต้น ซึ่งเรียกตามประสาสามัญชนได้ว่าชะตาต้องกัน ดูได้จากทรงแสดงพระอิริยาบถต่อท่านว่า ทรงเอ็นดูถึงลูบห้วตบหลังบ่อย ผิดกว่าเจ้านายรุ่นเดียวกันในขณะนั้น ถึงแม้ว่าจะได้รับพระราชทานนามใหม่จากหม่อมเจ้าจิรบุญญ์ณี เป็นหม่อมเจ้าบุญจิราธรแล้วก็มักจะเรียกกันว่า "ท่านหญิงลาว" ซึ่งทำให้น่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นด้วย ซ้ำมีอยู่องค์เดียว เจ้านายจึงโปรดกันมากทั้งนั้น

ท่านหญิงลาวเริ่มจะเข้ามาอยู่ในวังเมื่องานรัชมังคลาภิเษก เสด็จฯในกรม พระบิดาต้องเสด็จเข้ามาจากอุบลฯ เนื่องในงานนั้นท่านหญิงจึงตามเสด็จพระบิดามาในงานนั้นด้วย ในเวลานั้นท่านหญิงน่ารักน่าเอ็นดู เสียจริง ๆ เสด็จในกรมพระบิดาทรงเป็นผู้สนพระทัยในการแต่งกายของผู้หญิง ท่านช่างแต่งตัวสวยงามและแปลกตาผู้พบเห็น สมัยนั้นสตรีบรรดาศักดิ์ นอกจากเจ้าน้อยดารารัศมี (พระราชชายา) แล้ว ก็ไม่มีใครนุ่งถุง (ผ้าซิ่น) มีแต่ก๊กในกรมนี้แห่งเดียว ทรงช่างแต่งประทานลูกเมียท่านทุกคน บนเกศาก็ประดับดอกไม้สดบ้าง ดอกไม้ทองประกอบลูกปัดขาว เช่นทำเป็นดอกเกศเมือง งามน่าเอ็นดูมาก ผ้าถุงไหมเชิงทองเวลานั้นยังไม่มีใครแต่งวิธีนุ่งก็ยาวถึงข้อเท้าแบบแต่งราตรีสมัยนี้ ท่านใช้แพรหรือลูกไม้กว้าง ๆแต่พันเข้ารูปเป็นเสื้อเสร็จในตัว ไม่ต้องตัดเป็นชิ้นเป็นตะเข็บ เมื่อเสร็จแล้วดูงามมาก แต่จะต้องเป็นทรงในแบบเสื้อแจคเก็ตที่ไม่มีชายเอวคลุมนอกผ้าถุง แต่ให้กลายเป็นชายห้อยเข้าที

ใกล้เคียง

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ หม่อมหลวงบัว กิติยากร หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา