ประวัติ ของ หลิว_เต๋อหัว

หลิว เต๋อหัว หนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดของวงการภาพยนตร์ ตั้งแต่ยุคปลายทศวรรษที่ 80s จนถึงปัจจุบัน เป็นนักแสดงหลัก(Main Actor) ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน ผู้สร้างตำนานให้กับวงการภาพยนตร์จีนอย่างมากมายยาวนานกว่า 30 ปี ผู้ครอบครองตลาดภาพยนตร์ 2 ใน 10 ส่วนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวมทั้งหมด ทรงอิทธิพลถึงขนาดกำหนดทิศทางการสร้างภาพยนตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวมเกินกว่ากึ่งหนึ่ง มีผลงานแสดงนำ(Leader Actor) มากกว่า 160 เรื่อง เป็นนักแสดงนำ(Leader Actor) ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง(No.1 Boxoffice Actor) ในรอบ 20 ปี (1985 - 2005) ของเกาะฮ่องกง สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ เป็นนักแสดงผู้ทำผลกำไรภาพยนตร์ต่อเรื่องสูงที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชีย เป็นหนึ่งใน 7 นักแสดงเอเชียผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกภาพยนตร์ตลอดกาล และเขายังเป็นนักร้องที่โด่งดังในยุคต้นทศวรรษที่ 90s คว้ารางวัลเพลงมากกว่า 292 รางวัล เป็นนักร้องจากเอเชียที่ได้รับความนิยมติดอันดับ 1 ใน 25 บิลบอร์ดชาร์ท(Billboard) ของสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในสี่ นักร้องจตุรเทพ แห่งวงการเพลงจีนภาษากวางตุ้งในยุคทศวรรษที่ 90s เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ของเกาะฮ่องกง และยุคต้นทศวรรษที่ 80s เป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งกลุ่ม ห้าพยัคฆ์แห่งซีรีส์ทีวีบี(TVB) หลิว เต๋อหัวได้รับยกย่องจากวงการภาพยนตร์ทั่วโลกว่า เป็นนักแสดงหลัก(Main Actor) ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกรรมการ รางวัลออสการ์ (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences) แห่งสหรัฐอเมริกา[ต้องการอ้างอิง]

เขาคนนี้ เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน บิดามีอาชีพเป็นนักดับเพลิง บ้านของเขาเป็นบ้านไม้อยู่ในชุมชนแออัด(slums) ย่าน Diamond Hill เขาช่วยเหลือทางบ้านทำงานตั้งแต่เด็กๆ พออายุ 18 ปี เข้าเรียนโรงเรียนการแสดงค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) เริ่มมีผลงานซีรีส์ทางโทรทัศน์ในปี 1981 มีโอกาสร่วมแสดงกับพระเอกซีรีส์ยอดนิยมแห่งยุคอย่างโจว เหวินฟะ ในเรื่อง ยาจกซู ไอ้หนุ่มหมัดเมา (The Legend of Master So ,1982) แสดงนำบทพระเอกซีรีส์เรื่องแรก คือ มือปราบเจ้าอินทรี (The Emissary ,1982) มาพร้อมกับคาแรกเตอร์ขับขี่มอเตอร์ไซด์ มีผลงานละครซีรีส์ เรื่อง มังกรหยก ภาค 2 ตอน จอมยุทธอินทรี (The Return of the Condor Heroes ,1983) โด่งดังมากมายทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัว เป็นนักแสดงดาวรุ่งกลุ่ม 5 พยัคฆ์ทีวีบี ประกอบด้วย หวง เย่อหัว , เหมียว เฉียวเหว่ย , ทัง เจิ้นเย่ , หลิว เต๋อหัว , เหลียง เฉาเหว่ย กลุ่มนักแสดงถูกปลุกปั้นให้รับบทพระเอกหรือบทสำคัญของซีรีส์ค่ายทีวีบี เขามีผลงานซีรีส์หลายเรื่อง อาทิเช่น ลิขิตฮ่องเต้ , ฮ่องเต้เจ้าสำราญ , ขุนศึกตระกูลหยาง , อุ้ยเสี่ยวป้อ (แสดงคู่กับเหลียง เฉาเหว่ย) เป็นต้น หลิว เต๋อหัว แสดงภาพยนตร์ในบทสมทบครั้งแรกด้วยการสนับสนุนจากโจว เหวินฟะ ในเรื่อง Boat People (1982) หรือ ใส่ความบ้าท้านรก ร่วมแสดงกับหลิน จื่อเสียง (George Lam) นักร้องชื่อดังแห่งยุค 80's ผลงานของผู้กำกับแอนด์ ฮุย เขาได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขาดาวรุ่งยอดเยี่ยม ได้แสดงนำบทพระเอกครั้งแรกในภาพยนตร์ของค่ายชอว์บราเดอร์สสตูดิโอ เรื่อง บังคับข้าให้บ้าระห่ำ หรือ On the Wrong Track (1983) ภาพยนตร์แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงนำบทพระเอก คือ ภาพยนตร์เรื่อง The Unwritten Law (1985) หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่ ภาพยนตร์ที่เป็นจุดเริ่มต้นแนวหนังที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเขา คือ Sworn Brothers (1987) หรือ โหดห้ามอุทธรณ์ (หรืออีกชื่อ หลิว เต๋อหัว ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย) เขาเริ่มร้องเพลงออกอัลบั้มในปี 1985 ด้วยการสนับสนุนจากหลิน จื่อเสียง แต่ยังไม่โด่งดังเท่าที่ควร ทั้งถูกปรามาสว่า ไร้พรสวรรค์ทางดนตรี

ในปี 1988 หลิว เต๋อหัว ตัดสินใจออกจากสังกัดค่ายโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) หันมาแสดงภาพยนตร์อย่างเดียว ประสบความสำเร็จสูงมากกับภาพยนตร์ดราม่ารันทด เรื่อง The Truth (1988) หรือ เพชรแท้ทุบไม่แตก (หนังภาคต่อของเรื่อง The Unwritten Law ,1985 หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่) ภาพยนตร์โรแมนติคคอมาดี้ เรื่อง The Crazy Companies 1,2 (1988) หรือ บริษัทยุ่งแล้วรวย ภาค 1,2 ได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในหนังอาร์ตแนวแก๊งสเตอร์ เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก ผลงานกำกับเรื่องแรกของหว่อง กาไว อำนวยการสร้างโดย เติ้ง กวงหยง (Alan Tang) เพียงแค่ชั่วปีเดียว หลิว เต๋อหัวแสดงภาพยนตร์มากถึง 10 เรื่อง ประสบความสำเร็จทางรายได้หลายต่อหลายเรื่องติดๆกันล้วนเป็นภาพยนตร์หลากหลายแนว จึงได้รับฉายาว่า อัศวินแห่งภาพยนตร์(Knight of Movie) พร้อมกับตำแหน่ง พระเอกยอดนิยม(Box Office Star) ของวงการหนังจีนฮ่องกง ในปี 1989 หลิว เต๋อหัว ทำสถิติมีผลงานภาพยนตร์มากถึง 16 เรื่องในปีเดียว(รับบทนำ 15 เรื่อง รับเชิญ 1 เรื่อง) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง มีผลงานโด่งดังระดับเอเชียจากภาพยนตร์แนวจีนอินเตอร์ เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก แสดงคู่กับอลัน ทัม นักร้องชื่อดังแห่งทศวรรษ 80's ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วเอเชีย ภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ คนตัดคน แสดงคู่กับโจว เหวินฟะ ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัว จึงเป็นพระเอกหนังระดับเอเชียและนานาชาติ เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและได้รับยกย่องจากวงการภาพยนตร์โลกว่า เป็นปฐมบท หรือต้นกำเนิดภาพยนตร์แนว แก๊งสเตอร์ ฮีโร่ หรือ Heroic Gangster หรือ บ้านเรานิยมเรียกว่าหนังแนว "นักรักนักเลง" สัญลักษณ์แห่งหนังแนวนี้ ได้แก่ A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ อันโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วเอเชียและทุกสารทิศ ซึ่งหลิว เต๋อหัว ถูกยกย่องว่า เป็นผู้สร้างคาแรกเตอร์ หรือบุคลิกตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวหนังแนว Heroic Gangster แต่เพียงผู้เดียว และเป็นเครื่องหมายการค้า(Trademark) ของเขาบนตลาดโลก ภาพลักษณ์ประจำตัวเขาบ้านเรามักเรียกว่า "จิ๊กโก๋มาเฟีย" หรือ "นักเลงกระจอก" (หว๋าไจ๋ : Wah Zai : 華仔) ตายเกือบทุกเรื่อง โดยเขาเป็นผู้พัฒนาตัวละครแนวนี้จากบท "อาหว่า" จากภาพยนตร์เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก "อาเชี๊ย" จากภาพยนตร์เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก "อาเต๋า" จากภาพยนตร์เรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ คนตัดคน จนมาถึงบท "อาหว๋อ" ในภาพยนตร์เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาพยนตร์แนวนี้ของเขามีมากมาย อาทิเช่น The First Time Is the Last Time (1989) หรือ ถ้าใครย่ำคุณ ผมจะย่ำมัน Dragon in Jail (1990) หรือ จำไว้เมียข้าเจ็บไม่ได้ Hong Kong Godfather (1991) หรือ ทำเนียบเจ้าพ่อเหือด The Prince of Temple Street (1992) หรือ ชีวิตเธอ ชีวิตข้า ชีวิตเดียว เป็นต้น ภาพยนตร์แนวนี้ของเขามักได้เรท PG 18+ (NC-17 ในสหรัฐอเมริกา)จำกัดเรทคนดู แต่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลทั่วทั้งเอเชีย แพร่หลายในตลาดหนังยุโรปและสหรัฐอเมริกา จนทางการรัฐบาลประเทศต่างๆท้วงติงว่า หนังจะส่งผลต่อการสร้างค่านิยมที่ไม่ดี มีพฤติกรรมเลียนแบบหนังอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา ทางการฮ่องกงจึงสั่งห้ามสร้างและห้ามฉายภาพยนตร์แนวนี้อีก เป็นเหตุให้หลิว เต๋อหัว เปลี่ยนแนวหนังแก๊งสเตอร์ของเขา เป็นแนวแก๊งสเตอร์-อาชญากรรม(Crime) แทน เช่น A True Mob Story (1998) หรือ ให้รักนี้ตายไปกับเขา Century of the Dragon (1999) หรือ ทะลุเหลี่ยมมังกร เป็นต้น และเขาได้สร้างอัตลักษณ์เครื่องแต่งกายในภาพยนตร์ของตัวเองด้วย เสื้อกล้ามสีขาวหรือดำ เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์หรือหนัง แว่นตาดำ สวมสร้อยคอล็อกเก็ต และสูบบุหรี่ ในภาพยนตร์แนวนี้ของเขาทุกเรื่อง

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ หรือ A Moment of Romance (1990) สัญลักษณ์แห่งหนังแนว Heroic Gangster ของหลิว เต๋อหัว หนังสุดคลาสสิคแห่งประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีนฮ่องกง(A major classic of Hong Kong cinema) เป็นภาพยนตร์ที่หลิว เต๋อหัว ได้สร้างคาแรกเตอร์ตัวละครที่สมบูรณ์แบบที่สุดลงบนแผ่นฟิล์ม(The Character Portrays in The film) ในบทบาทของ "อาหว๋อ" หนังทุนต่ำ ดราม่าแอ็คชั่นรักโรแมนติก แสดงคู่กับ อู๋ เชี่ยนเหลียน นางเอกหน้าใหม่ของวงการ(แสดงหนังเป็นเรื่องแรก) ในบทบาทของ "โจโจ้ " เรื่องราวความรักของชายหนุ่มผู้มีโลกอันมืดมน(Underworld rag) กับ หญิงสาวผู้ถูกเลี้ยงดูอย่างคุณหนูผู้มีอันจะกิน(A rich heiress) ความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ "อาหว๋อ & โจโจ้ " กลายเป็นตำนานความรักที่สุดแสนโรแมนติกและรันทดใจที่สุดแห่งยุคนั้น ภาพยนตร์ได้สร้างปรากฏการณ์กระแสปากต่อปาก(Word of Mouth) เป็นเรื่องแรกของวงการหนังฮ่องกงและวงการภาพยนตร์เอเชีย จากหนังทุนต่ำ ฟอร์มเล็ก ธรรมดาเรื่องหนึ่งกลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายมหาศาลถล่มทลายเหนือกว่าหนังฟอร์มยักษ์ ทุนสูง หรือหนังระดับ Blockbuster ทั่วเอเชียในยุคนั้น ในเกาะฮ่องกงออกฉายเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1990 และยืนโรงฉายยาวนานถึง 6 สัปดาห์ (14 มิถุนายน 1990 ถึง 26 กรกฎาคม 1990) เกิดกระแสปากต่อปากไปทั่วเกาะฮ่องกง กลายเป็นหนังที่เปลี่ยนแนวทางการสร้างภาพยนตร์ในยุคนั้นอย่างสิ้นเชิง จากประเภทยิงปืน ระเบิดภูเขา เผากระท่อม หันมาใช้อาวุธประเภทมีด หน้าไม้ ศิลปะป้องกันตัวแทน มีการสร้างตามกระแสจำนวนมากเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง บุคลิกของหลิว เต๋อหัว ยังเป็นต้นแบบตัวละคร (Lau 's Characters) ในหนังฮ่องกงและภาพยนตร์ทั่วเอเชีย ทั้งยังเป็นไอดอลที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตวัยรุ่นทั่วเอเชียยาวนานถึงทุกวันนี้ แฟนๆภาพยนตร์จะเรียกหลิว เต๋อหัว ว่า "หว๋าไจ๋" (Wah Zai : 華仔 แปลว่า นักเลง) เป็นชื่อเล่นของเขา หลิว เต๋อหัว ยังถูกยกย่องให้เป็น ไอคอนหรือสัญลักษณ์หนังรักโรแมนติกแนว Badboy & Goodgirl ทั้งเป็นต้นแบบให้หนังจีนฮ่องกงและภาพยนตร์เอเชียมีเรื่องราวความรักโรแมนติกระหว่างคู่พระนางลงในเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ (หรือที่บ้านเรามักใช้คำสื่อสารให้เข้าใจว่า เรื่องราวความ "รักระหว่างรบ") และเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มสาวทั่วเอเชียใฝ่ฝันที่จะขี่มอเตอร์ไซด์ได้สง่างามเหมือนเขา ตัวละคร "อาหว๋อ" ยังนำมาเป็นต้นแบบเขียนเป็นหนังสือการ์ตูนจีนเรื่อง Teddy Boy(古惑仔) ซึ่งต่อมาได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1996 ในชื่อเรื่อง Young and Dangerous หรือชื่อไทย กู๋หว่าไจ๋ บทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้รับความนิยมมากมาย มีทั้งหมด 4 บทเพลง ขับร้องโดย Wong Ka Kui นักร้องนำวง Beyond ทั้งหมด 3 บทเพลง และบทเพลงที่ 4 เพลงผู้หญิงร้อง 天若有情.青春无悔 ขับร้องโดย Shirley Yuen (袁鳳瑛) ได้รับความนิยมล้นหลาม มีการแปลงเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยในบทเพลง "อยู่ไปเพื่อใคร" ล่าสุดนำมาแปลงเป็นเพลงสากลในบทเพลง "Tomorrow Will Come" (Trish Thuy Trang) และตัวละคร "อาหว๋อ" ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่งในผลงานแสดงนำของเขา ในเรื่อง Needing You (2000) หรือ ใช่เลย! รักเธอเต็มเอ๋อ

ในวงการภาพยนตร์ หลิว เต๋อหัว เป็นหนึ่งใน ราชาภาพยนตร์ เคยได้รับรางวัลเกียรติยศม้าทองคำ(Taiwan Golden Horse Award) ยกย่องว่าเป็น ราชาแห่งภาพยนตร์จีน (King of Chinese Movie) เป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมสูงสุด(No.1 Boxoffice Actor) ของวงการหนังจีนฮ่องกงและวงการภาพยนตร์เอเชีย เป็นผู้ครอบครองตลาดภาพยนตร์สูงถึง 2 ใน 10 ส่วนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวมทั้งหมด สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งเกาะฮ่องกงได้จัดเก็บสถิติรายได้ภาพยนตร์ในช่วงรุ่งเรือง ตั้งแต่ปี 1985 - 1997 ก่อนประเทศอังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่ หลิว เต๋อหัว เป็นนักแสดงชายที่มียอดรายได้ภาพยนตร์(Box Office) สูงกว่า 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จากภาพยนตร์ที่เขาแสดงนำ(Leader Actor)ในภาพยนตร์ทุนจีนฮ่องกง จำนวน 73 เรื่อง สูงสุดเป็นอันดับ 1 แห่งยุคนั้น ต่อมาในปี 2005 มีการประมวลยอดรายได้ภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1985 - 2005 (รอบ 20 ปี) ก่อนที่เกาะฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่โดยสมบูรณ์(หนึ่งประเทศ สองระบบ) หลิว เต๋อหัว เป็นนักแสดงชายที่มียอดรายได้ภาพยนตร์(Box Office) สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 1,733,275,816 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) จากภาพยนตร์ที่เขาแสดงนำ(Leader Actor) ในภาพยนตร์ทุนจีนฮ่องกง จำนวน 108 เรื่อง อันดับ 2 ได้แก่ โจว ซิงฉือ (Stephen Chow) ราชาตลกคอมมาดี้ จำนวน 1,317,452,311 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) อันดับ 3 คือ เฉินหลง (Jackie Chan) ราชานักบู้ชื่อก้องโลก จำนวน 894,090,962 ล้านเหรียญฮ่องกง(HKD) และหลิว เต๋อหัว ได้รับยกย่องให้เป็น ดารายอดนิยมแห่งเอเชีย หรือ Box Office Star of Asia หลิว เต๋อหัว ยังได้ชื่อว่า เป็นนักแสดงที่ทำผลกำไรภาพยนตร์ต่อเรื่องสูงที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชีย หนังของเขาส่วนใหญ่เป็นหนังทุนต่ำ(Low Budget Films) แต่ทำรายได้มากกว่าทุนสร้างหลายเท่าตัว ขายลิขสิทธิ์ไปได้ทั่วโลก

หลิว เต๋อหัว เขายังทรงอิทธิพลถึงขนาดกำหนดทิศทางการสร้างภาพยนตร์เกินกว่ากึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวม โดยเขานำแสดงภาพยนตร์หลากหลายแนวและได้รับความนิยมในตลาดภาพยนตร์อย่างสูงในวงกว้างระดับนานาชาติทุกแนว จนเป็นต้นแบบให้เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์สร้างตามกระแสตามมา นอกจากภาพยนตร์แนว Heroic Gangster หรือที่บ้านเรานิยมเรียกว่าหนังแนว "นักรักนักเลง"แล้ว เขายังประสบความสำเร็จในหนังแนวโรแมนติก-คอมอดี้ นับตั้งแต่ The Crazy Companies (1988) หรือ บริษัทยุ่งแล้วรวย ตามมาด้วย Dances with Dragon (1991) หรือ มังกรขันจอหว่อ จนเข้ายุคปี 2000 อย่างเรื่อง Needing You (2000) หรือ ใช่เลย! รักเธอเต็มเอ๋อ Love on a Diet (2001) หรือ คู่ตุ้ยนุ้ยพิศดารมหัศจรรย์ , หนังแนวแอ็คชั่น-ดราม่า นับตั้งแต่ Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก จนมาถึง The Conman (1998) หรือ เจาะเหลี่ยมคน , หนังแนวอาชญากรรม นับตั้งแต่ LeeRock (1991) หรือ ตำรวจตัดตำรวจ จนมาถึง Infernal Affairs (2002) หรือ สองคนสองคม ภาพยนตร์ในผลงานสร้างและแสดงนำของเขาในเรื่อง Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ ที่ได้สร้างปรากฏการณ์หลายๆอย่างและเป็นต้นแบบภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนขึ้นสู่จอภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่อง Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ ที่ได้กลายเป็นต้นแบบหนังแข่งรถมอเตอร์ไซด์ให้แก่วงการภาพยนตร์ และเขายังได้แสดงภาพยนตร์ทุนจีนไต้หวัน ใช้ภาษาจีนกลางหลายเรื่อง อาทิเช่น A Home Too Far (1990) หรือ ท้าย่ำ Drunken Master 3 (1994) หรือ ไอ้หนุ่มหมัดเมา ภาค 3 A Taste of Killing and Romance (1994) หรือ ชาตินี้ชาติหน้าหัวใจข้าเป็นของเธอ The Three Swordsmen (1994) หรือ เทพยุทธเสื้อทอง แกร่งแค่ไหนหัวใจก็จะผ่า เป็นต้น เขายังอำนวยการสร้างและเป็นดารารับเชิญให้หนังทุนจีนไต้หวันเรื่อง Our Times ,2015 หรือชื่อไทย กาลครั้งหนึ่ง..ความรัก ที่เขาใช้ทุนสร้างเพียง 2.7 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) แต่ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 84 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) อีกด้วย

หลิว เต๋อหัว ยังได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งใน นักแสดงทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก เป็นผู้นำภาพยนตร์แนวโศกนาฎกรรม(Tragedy Movie) ที่บทพระเอก นางเอก บทสมทบสำคัญ ต้องพบเหตุโศกเศร้าสะเทือนใจ และมีสไตล์หนังเป็นของตัวเอง คือ Mixed Drama / Action / Romance หรือ หนังดราม่า แอคชั่น โรมานซ์ ผสมผสาน(mixed) อยู่ในเรื่องเดียวกัน ในโลกภาพยนตร์มีหลิว เต๋อหัว คนเดียวที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับภาพยนตร์แนวโศกนาฎกรรม(Tragedy Movie) อาทิเช่น Casino Raider 1 (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ Casino Raider 2 (1991) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ The Moon Warriors (1993) หรือ คนบินเทวดา Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ เป็นต้น ปัจจุบัน หลิว เต๋อหัว มีผลงานการแสดงมากกว่า 160 เรื่อง ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลมาโดยตลอด เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จนวงการหนังฮอลลีวูดเปรียบเปรยว่า หลิว เต๋อหัว คือ ทอม ครูซ (Tom Cruise) แห่งเอเชีย เป็นหนึ่งใน 7 นักแสดงเอเชียยอดนิยมและยิ่งใหญ่ตลอดกาล(The Most Popular Actors of All Time & Greatest Actors of All Time) ร่วมกับ บรูซ ลี (Bruce Lee) , เฉินหลง (Jackie Chan) , โจว เหวินฟะ (Chow Yun fat) , โจว ซิงฉือ (Stephen Chow) , หลี่ เหลียนเจี๋ย (Jet Li) และ เจิ้น จื่อตัน (Donnie Yen) และเขาได้รับยกย่องว่า เป็นนักแสดงที่ขี่มอเตอร์ไซด์โด่งดังที่สุดในโลก (Andy Lau is on the bike in the popular motorcycle - scene)

ในปี 1991 หลิว เต๋อหัว มีบริษัทผลิตภาพยนตร์ในนาม Team Work Motion Pictures ผลงานโปรดิวเซอร์ , อำนวยการสร้างเรื่องแรก ได้แก่ Saviour of the Soul (1991) หรือ Lanar Romance หรือชื่อไทย ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ (เราเลยไม่ยอมตาย) อันลือลั่นทั่วเอเชียและเป็นภาพยนตร์ต้นแบบทรงคุณค่าให้แก่วงการภาพยนตร์ เขายังได้ผลิตภาพยนตร์ต้นแบบแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมสไตล์จีนฮ่องกงอย่างเรื่อง The Sting (1992) หรือชื่อไทย ลูบคมขบวนโหด ภาพยนตร์ต้นแบบหนังรักดราม่าสไตล์จีนฮ่องกงอย่างเรื่อง Days of Tomorrow (1993) หรือชื่อไทย ครั้งนี้ครั้งโน้น ใจกระโจนไปหา ภาพยนตร์ต้นแบบหนังโรแมนติกคอมอดี้สไตล์จีนฮ่องกงอย่างเรื่อง Thanks for Your Love (1996) หรือชื่อไทย ถนนนี้ หยุดหัวใจรักข้าไม่ได้ และมักมีกวน จือหลิน มาเป็นนางเอกภาพยนตร์ต้นแบบของเขาเสมอ เขายังคิดค้นตัวละครของตัวเองอีกครั้งในรูปแบบมิติตัวละครที่มีแรงขับภายในใจออกสู่การกระทำ ในภาพยนตร์ต้นแบบเรื่อง What a Wonderful World (1996) หรือชื่อไทย ยึดหัวใจโลกอย่าห้าม ต่อมาเขาเปลื่ยนชื่อบริษัทเป็น Focus Group มีบริษัทลูกในเครือหลายบริษัท อาทิเช่น โฟกัส ฟิล์ม(อำนวยการสร้าง) , Infinitus เอนเตอร์เทนเมนท์(ผลิตภาพยนตร์) , โฟกัส มิวสิค , โฟกัส เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นต้น หลิว เต๋อหัว ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะโปรดิวเซอร์ , อำนวยการสร้าง , ควบคุมการผลิต , อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์จีนที่โด่งดังระดับโลกอย่าง Infernal Affairs 1,2,3 หรือชื่อไทย 2 คน 2 คน ทั้งสามภาค ผลงานเรื่องอื่นๆอาทิเช่น Cold War 1,2 หรือ 2 คม ล่าถล่มเมือง ทั้งสองภาค เป็นต้น เคยได้รับรางวัล Asian Filmmaker of the year ในฐานะคนทำหนังยอดเยี่ยมแห่งปี จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ผลงานสร้างเรื่อง Fulltime Killer (2001) หรือ กระสุนนี้เพื่อฆ่า หัวใจข้าเพื่อเธอ ได้พัฒนาต่อเป็นเกมส์ออนไลน์ในชื่อเดียวกัน เขายังได้สนับสนุนผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ภายใต้อำนวยการสร้างของเขาหลายคน อาทิเช่น เจิ้ง จี่หล่ำ (Lam Chi-chung) นักแสดงสมทบในภาพยนตร์เรื่อง นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ (Shaolin Soccer ,2001) ในบทชายร่างอ้วนพริ้วไหวดั่งสายน้ำ และคนเล็กหมัดเทวดา (Kung Fu Hustle ,2004) ในบทคู่หูโจวซิงฉือ ให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง I'll Call You (2006) ใกล้นัก..รักเลย , หนิง เฮา (Ning Hao) ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Crazy Stone (2006) ปฏิบัติการปล้น ก้นคะมำ จนกลายเป็นภาพยนตร์ซีรีส์รวมชุดมีภาคต่อตามมา คือ Crazy Racer (2009) และ Crazy Alien (2019) ที่ภาคล่าสุดทำเงินในจีนแผ่นดินใหญ่สูงถึง 328 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) และเขายังผลักดันสนับสนุนให้นักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์หลายคน อย่างเช่น หวัง เป่าเฉียง (Wang Baoqiang) ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ที่แสดงร่วมกับเขาในเรื่อง จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) และต่อมามีผลงานโดดเด่นในภาพยนตร์จีนชุดเรื่อง แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์ (Lost in Thailand ,2012) และภาพยนตร์จีนชุด แก็งม่วนป่วนเยาวราช (Detective Chinatown ,2016) เติ้ง เชา (Deng Chao) ที่แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์จากเรื่อง ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ และได้เป็นพระเอกต่อในภาพยนตร์ของโจว ซิงฉือ หลายเรื่องอาทิเช่น เงือกสาวปังปัง (The Mermaid ,2016) เป็นต้น

หลิว เต๋อหัว เริ่มประสบความสำเร็จด้านงานเพลงในปี 1990 หลังจากที่เขาพยายามเป็นนักร้องตั้งแต่ปี 1985 คว้ารางวัล Jade Solid Gold Music Awards นักร้องชายยอดนิยม(Most Popular Hong Kong Male Artist) ประจำปี 1990 มาครองได้สำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นนักร้องแถวหน้า(pop star) ของวงการเพลงป็อปฮ่องกงเป็นต้นมา ในปี 1991 เขามีบริษัทเพลงในนาม New Melody Records (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โฟกัส มิวสิค) ไว้ดูแลงานเพลงของเขาเอง ในปี 1992 หลิว เต๋อหัว , จาง เสฺวโหย่ว , หลี่หมิง , กัว ฟู่เฉิง เป็นนักร้อง C- pop ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับราชาเพลงป็อป (King of Canto - pop) จึงถูกยกย่องให้เป็น นักร้องจตุรเทพ แห่งวงการเพลงจีนภาษากวางตุ้ง ของเกาะฮ่องกง(The Four Heavenly Kings of Cantopop) หรือวงการเพลงโลก เรียกขานในนาม สี่ราชาแห่งวงการเพลงป็อปฮ่องกง (Four Kings of Hong Kong pop-music industry) ในปี 1995 หลิว เต๋อหัว ทำสถิติเป็นนักร้องเอเชียได้รับความนิยมสูงสุด 1 ใน 25 อันดับบิลบอร์ดชาร์ท(Billboard) ของสหรัฐอเมริกา ในปี 1997 หลิว เต๋อหัว ได้ร่วมงานดนตรีกับนักเป่าแซ็กโซโฟนชื่อดังของโลก เคนนี่ จี (Kenny G) ในปี 1999 หลิว เต๋อหัว เป็นนักร้องร่วมเวทีคอนเสิร์ตราชาเพลงป๊อปโลก ไมเคิล แจ๊กสัน (Michael Joseph Jackson) ในทัวร์คอนเสิร์ต MJ & Friends ในปี 2000 หนังสือกินเนสบุ๊คเรคคอร์ด รายงานสถิติว่า หลิว เต๋อหัวเป็นนักร้องที่คว้ารางวัลผลงานเพลงภาษาจีนมากถึง 292 รางวัล มากที่สุดในโลก หลิว เต๋อหัว ยังคว้ารางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งเกาะฮ่องกง(Most Popular Hong Kong Male Artist) ถึง 7 สมัย รางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค(Asia Pacific Most Popular Male Artist) ถึง 15 สมัย เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบสามทศวรรษ(ทศวรรษ ที่ 70s 80s และ 90s) ของเกาะฮ่องกง (Top 10 Greatest Cantopop Singers) ร่วมกับ แซม ฮุย (Samuel Hui) , หลอ เหวิน (Roman Tam) , อลัน ทัม (Alan Tam) , เลสลี่ จาง (Leslie Cheung) , จาง เสฺวโหย่ว (Jacky Cheung) , หลี่หมิง (Leon Lai) , กัว ฟู่เฉิง (Aaron Kwok) , เฉิน อี้ซวิ่น (Eason Chan) และ หว่อง กาคุย (Wong Ka Kui) นักร้องนำวง Beyond  ปัจจุบัน ฐานะนักร้องของหลิว เต๋อหัว ยังได้รับความนิยมอย่างสูง มีบริษัทเพลงของตัวเองอย่าง โฟกัส มิวสิค , โฟกัส เอนเตอร์เทนเมนท์ (ออแกไนซ์ จัดงานแสดง แสง สี เสียง) เป็นผู้ดูแลงานเพลงของเขา บทเพลง 起走過的日子 (Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji) ภาษาจีนกวางตุ้ง เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Casino Raider 2 (1991) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก เป็นบทเพลงอมตะที่เขาร้องเป็นเพลงประจำตัวของเขา แล้วเขาก็นำเอาทำนองเพลงนี้มาใส่เนื้อร้องภาษาจีนกลาง หรือแมนดาริน ในบทเพลง 来生缘 (ไหล เซิงหยวน) นำมาร้องเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ (เราเลยไม่ยอมตาย) ต่อมาดัดแปลงเป็นเพลงสากลในบทเพลง "Caravan Of Life"(Tokyo Square) บทเพลง 谢谢你的爱 (Thank You for Your Love) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเทียบเท่าเพลงสากล อัลบัม Forget Love Potion ( 忘情水 , 1994) ทำสถิติยอดขายไปทั่วโลก ล่าสุดหลิว เต๋อหัว ได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก "My Love Andy Lau World Tour" จัดแสดงในปี 2019 - 2020

หลิว เต๋อหัว เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งในฐานะนักแสดง , นักร้อง , เจ้าของบริษัทบันเทิง จึงได้รับยกย่องจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกง(วงการภาพยนตร์ , วงการเพลง , วงการละครซีรีส์) ให้เป็นหนึ่งในสี่ "ผู้ทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกง" ยุคเกาะฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่(1997 - 2005) ร่วมกับ หวังจิง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง เจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์ , เชอร์ รัน รัน ชอว์ เจ้าของค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) - ชอว์บราเดอร์สตูดิโอ และเจ้าของกลุ่มบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ Emperor Entertainment Group (EEG) เขาได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ประมาณว่า "จะพัฒนาภาพยนตร์จีน จะแสดงแต่ภาพยนตร์จีน จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างภาพยนตร์จีน ให้ยิ่งใหญ่ตลอดไป"

ในปี 2004 - 2014 เป็นยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ในจีนแผ่นดินใหญ่ หลิว เต๋อหัว มีผลงานแสดงนำและร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างเช่น เรื่อง จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) , จอมใจบ้านมีดบิน (House of Flying Daggers ,2004) และเขาก็เป็นนักแสดงนำ(Leader Actor) ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง(No.1 Boxoffice Actor) ในจีนแผ่นดินใหญ่ในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ภาพยนตร์ประเภทขายนักแสดงนำ(Film Star) มีภาพยนตร์เข้าฉายในช่วงนี้นับเฉพาะสถานะนักแสดงนำ 15 เรื่อง มียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เขายังเป็นผู้ปลุกกระแสภาพยนตร์แอ็คชั่น - กำลังภายใน - แฟนตาซี ให้ได้รับความนิยมในจีนแผ่นใหญ่และทั่วโลกอีกครั้ง ในเรื่อง ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ (Detective Dee, and the Mystery of the Phantom Flame ,2010) ทั้งพลักดันให้ผู้กำกับคนดังฉีเคอะ กลับมายิ่งใหญ่ในโลกภาพยนตร์อีกครั้ง หลิว เต๋อหัว ยังร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ทุนสร้างจีนแต่ใช้ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของโลกเพื่อความเป็นสากล อย่างเรื่อง The Great Wall (2016) ปัจจุบัน สถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลมีผลงานภาพยนตร์ออกฉายอย่างต่อเนื่อง นับจากปี 2015 ถึงแค่ปี 2019 หลิว เต๋อหัว มีผลงานนับเฉพาะสถานะนักแสดงนำเข้าฉายแล้ว 9 เรื่อง มียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ(USD) ล่าสุดภาพยนตร์เรื่อง The White Storm 2 - Drug Lords (2019) ผลงานสร้างและนำแสดงของเขาทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เข้าฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำรายได้มากกว่า 190 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) สร้างสถิติรายได้มากกว่าทุนสร้างหลายเท่าตัวอีกครั้งหนึ่ง จนเป็นที่คาดการณ์ว่า แม้จะเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ หลิว เต๋อหัว ยังคงสถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) เป็นอันดับหนึ่งต่อไป

ในประเทศไทย หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากภาพยนตร์ เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ออกฉายในปี พ.ศ. 2533 ถึงสองรอบ รอบแรกฉายวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2533 ทำรายได้กว่า 18 ล้านบาท มีกระแสเรียกร้องให้นำกลับมาฉายใหม่ รอบ 2 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ทำเงินกว่า 5 ล้านบาท รวมรายได้ตลอดการฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 23 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2533 ของประเทศไทย (ไม่นับรวมหนังกลางแปลงที่ออกฉายต่อเนื่องยาวนานหลายปี) และในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ได้นำกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง ต่อมามีภาพยนตร์ เรื่อง Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ ออกฉายปี พ.ศ. 2538 ทำเงินไปกว่า 40 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดของเขาในไทยเป็นสถิติถึงทุกวันนี้ ภาพยนตร์เรื่องที่ 100 ของเขา เรื่อง A Fighter's Blue (2000) หรือ หัวใจข้า หัวใจนาง หัวใจหลอมเพชร ถ่ายทำในประเทศไทย ในวันที่ 17 มกราคม 2560 หลิว เต๋อหัว ได้เกิดอุบัติเหตุตกม้าได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเชิงกราน ระหว่างถ่ายทำโฆษณาที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันรักษาตัวหายดีเป็นปกติ กลับมาทำงานบันเทิงในปลายปี 2561 เรียบร้อยแล้ว

แหล่งที่มา

WikiPedia: หลิว_เต๋อหัว http://life.globaltimes.cn/entertainment/2011-04/6... http://www.andylau.com/ http://www.asian-ent.com/forums/forumdisplay.php?f... http://www.awc618.com/ http://www.imdb.com/name/nm0490489/ http://news.qq.com/a/20070227/001431_6.htm https://www.celebheights.com/s/Andy-Lau-2719.html https://www.lovehkfilm.com/people/lau_andy.htm https://www.lovehkfilm.com/reviews_2/moment_of_rom... https://commons.wikimedia.org/wiki/Andy_Lau?setlan...