ประวัติ ของ อนาคิน_สกายวอล์คเกอร์

ชีวิตในช่วงต้น (ปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวิน)

ข้าเป็นบุคคล และมีชื่อว่าอนาคิน!— อนาคิน สกายวอล์คเกอร์พูดกับแพดเม่ อมิดาล่า

ไฟล์:AnakinShmi.jpgอนาคินและฉมี สกายวอล์คเกอร์มาถึงทาทูอีน

อนาคิน สกายวอล์คเกอร์เกิดในปีที่ 42 ก่อนยุทธการยาวิน ตามที่กล่าวไว้ในงานด้านประวัติศาตร์ของโวเรน นาอัล ดาวบ้านเกิดของเขาคือทาทูอีน แต่ตัวอนาคินเองบอกว่าเขามาอยู่ที่ดาวแห้งแล้งนี้เมื่อายุได้สามปี มารดาของอนาคิน ฉมี สกายวอล์คเกอร์ บอกว่าลูกชายของเธอเกิดมาโดยไม่มีบิดา แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ มันคือทฤษฎีของอาจารย์เจไดไควกอน จินที่ว่าเจตจำนงค์ของพลังที่ทำให้เขาเกิดขึ้นมา ในตอนนั้น สกายวอล์คเกอร์และมารดาของเขากลายเป็นทาสของการ์ดุลลา เดอะ ฮัทท์ หลายปีต่อมา การ์ดุลลาต้องเสียเด็กชายและแม่ของเขาในการพนันการแข่งขันพ็อดเรซซิ่งกับชาวทอยดาเรี่ยนชื่อวัทโต[1]

ถึงแม้จะวัยเยาว์ สกายวอล์คเกอร์ก็มีชื่อเสียงในเรื่องการสร้างหรือซ่อมอะไรก็ได้ หลักฐานก็คือหุ่นการทูตที่ชื่อซี-ทรีพีโอและยานพ็อดเรซเซอร์ของเขา ทั้งสองสิ่งถูกสร้างขึ้นจากเศษซากและอายุเก้าปีของเขา

เขาเป็นเด็กมหัศจรรย์ สกายวอล์คเกอร์มีความเป็นเลิศในคณิตศาสตร์และวิศวกรรม แต่เขาก็กล้าหาญและชอบผจญภัย เขามักที่จะเสี่ยงตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่ค่อยคำนึงถึงผลที่จะตามมา เมื่อเขามีอายุได้ห้าปี สกายวอล์คเกอร์ประมาณทะเลทรายขนาดยักษ์เพื่อต้อนฝูงแบนธาร์ออกจากนักล่า แม้ว่าส่วนมากจะตายไปเพราะการขาดอาหารและความร้อน บางช่วงต่อมา ขณะที่ทำการต่อรองกับจาว่า สกายวอล์คเกอร์ได้ช่วยมนุษย์ทรายที่บาดเจ็บจนกระทั่งพวกของเขามาช่วยนำตัวไป ไม่นานก่อนการแข่งขันบูนทาอีฟคลาสสิก สกายวอล์คเกอร์ เพื่อนของเขาชื่อคิทส์เตอร์ บาไน และเพื่อนๆ อีกมากมายถูกจับไปเพื่อที่นำไปขายให้กับการ์ดุลลา อนาคินและเพื่อนของเขาได้ปลอมตัวเป็นชาวจาว่าและแอบเข้าไปที่ดินของการ์ดุลลาเพื่อปลดปล่อยพวกเขา

เมื่ออายุได้แปดปี สกายวอล์คเกอร์ประสบการณ์กับซิธเป็นครั้งแรก ขณะที่ค้นในกองขยะของวัทโต เขาพบดรอยด์สงครามโบราณ เขาหวังที่จะกู้ข้อมูลมาให้วัทโต สกายวอล์คเกอร์เกิดเปิดโฮโลแกรมของดรอยด์ขึ้น มีเสียงกรีดร้องและร้องไห้ที่มีคำแปลกๆ ที่พูดถึง"ซิธ" ด้วยความไม่เข้าใจ สกายวอล์คเกอร์รีบไปถามคนที่เหล่านักบินขับไล่ของสาธารณรัฐ ผู้ที่เคยเล่าให้เขาฟังถึงนางฟ้าจากดวงจันทร์อีโกครั้งก่อน นักอวกาศผู้นี้ตกตะลึง บอกกับอนาคินถึงเรื่องของซิธที่ได้ต่อสู้กันเองจนถึงจุดจบของพวกเขา เขาพูดถึงความเชื่อที่ว่ามีซิธลอร์ดคนหนึ่งรอดชีวิตและทำให้นิกายยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้ สกายวอล์คเกอร์น้อยได้รู้ถึงสิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเขาในอนาคต

การค้นพบ

ลูก บ้านแม่อยู่นี่ อนาคตอยู่นี่ ถึงคราวที่ลูกต้องตัดใจแล้ว— ฉมี สกายวอลค์เกอร์

ในปีที่ 32 ก่อนยุทธการยาวิน ชีวิตของสกายวอล์คเกอร์ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล ขณะที่ทำงานในร้านของวัทโต สกายวอล์คเกอร์พบกับอาจารย์เจไดไควกอน จิน จาร์ จาร์ บิงค์ส อาร์ทู-ดีทู และหญิงสาวชื่อแพดเม่ อมิดาล่า หญิงสาวที่ทำให้อนาคินหลงรักตั้งแต่แรกเห็นจนถามเธอว่าเธอเป็นนางฟ้าหรือเปล่า อมิดาล่าไม่ใช่นางฟ้า แต่เป็นราชินีแห่งนาบูที่ปลอมตัวเป็นสาวใช้

เมื่อพายุทรายเริ่มก่อตัว สกายวอล์คเกอร์เสนอให้เพื่อนใหม่ของเขาไปพักที่บ้านของเขากับแม่ก่อน ที่นั่น จินและอมิดาล่าเล่าถึงถึงปัญหาที่พวกเขาต้องเจอและลงจอดบนทาทูอีนขณะที่เดินทางไปคอรัสซัง เพราะไฮเปอร์ไดรฟ์ที่ชำรุดของพวกเขาให้สกายวอล์คเกอร์ฟัง ด้วยความเห็นใจ สกายวอล์คเกอร์อาสาที่จะเข้าแข่งขันพ็อดเรซเซอร์ และเสี่ยงต่ออันตรายอย่างมากในการแข่ง รางวัลที่ได้ในการชนะจะทำให้สกายวอล์คเกอร์สามารถซื้อส่วนที่ต้องนำไปซ่อมยานได้ แม้ว่าฉมีจะปฏิเสธ สกายวอล์คเกอร์บอกเธอว่า "ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลคือการที่ไม่มีใครช่วยเหลือผู้อื่น" ฉมียอมเห็นด้วยที่จะให้ลูกชายของเธอลงแข่งขัน

ก่อนที่จะเริ่มการแข่ง จินทำการวางเดิมพันกับวัทโต หากสกายวอล์คเกอร์ชนะ เด็กชายจะเป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม วัทโตมีข้อแม้อย่างหนึ่ง—เขาจะเป็นคนเสี่ยงทายเอง หากเป็นสีน้ำเงิน สกายวอล์คเกอร์จะเป็นอิสระ หากเป็นสีแดง ฉมีก็จะเป็นอิสระ จริงๆ แล้วมันเป็นสีแดง แต่จินใช้พลังผลิกมันให้กลายเป็นสีน้ำเงิน วัทโตมั่นใจว่าสกายวอล์คเกอร์ต้องแพ้ จึงรับข้อเสนอ เหตุผลที่เขาเลือกเช่นนั้นก็เพราะว่า ไม่มีมนุษย์คนใดที่ตอบสนองได้ดีพอกับพาหนะที่มีความเร็วขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม สกายวอล์คเกอร์มีความสามารถในพลัง เขาสามารถรู้ล่วงหน้าได้ ทำให้เขาทำการแข่งขันได้ไม่ยาก ในตอนนั้น สกายวอล์คเกอร์ ผู้ที่ฝันจะเป็นเจได แต่ไม่มีความรู้เรื่องพลัง เชื่อว่าความรู้สึกทางพลังของเขาเป็นเพียงสัญชาตญาณที่บอกให้เขาทำอะไรเท่านั้นเอง

ไฟล์:AniGreedoScuffle.jpgสกายวอล์คเกอร์ต่อสู้กับกรีโด

เพราะว่าสกายวอล์คเกอร์เอาชนะการแข่งขัน จินจึงทำให้เขาเป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม อาจารย์เจไดไม่สามารถปลดปล่อยฉมีได้ และสกายวอล์คเกอร์ถูกบังคับให้เลือกระหว่างอยู่กับแม่ของเขาหรือเป็นเจได สกายวอล์คเกอร์เลือกที่จะไปกับไควกอน ถึงแม้จะสัญญาว่าเขาจะกลับมาเพื่อปลดปล่อยแม่ของเขา หลังจากยุทธการนาบู ซึ่งสกายวอล์คเกอร์และเพื่อนใหม่ของเขาเข้าไปพัวพันในปัญหา จบลงด้วยชัยชนะ หน้าที่ของสกายวอล์คเกอร์ในฐานะเจไดกันออกจากการปลดปล่อยแม่ของเขาด้วยตนเอง แม้ว่าท้ายสุดเธอจะเป็นอิสระจากวัทโตโดยการช่วยเหลือจากเจ้าของไร่ไอน้ำชื่อไคลก์ ลาร์ส[2]

หลังจากออกจากมอส เอสปา จินและสกายวอล์คเกอร์มุ่งหน้าไปที่ยาน แต่ถูกโจมตีโดยซิธลอร์ดดาร์ธ มอล ผู้ซึ่งพยายามจับตัวราชินีอมิดาล่า ขณะที่จินสู้กับซิธ สกายวอล์คเกอร์รีบวิ่งขึ้นยานไปเพื่อเตือนคนอื่นๆ ยานยกตัวขึ้นและช่วยจินเอาไว้ พวกเขาทิ้งทาทูอีนไว้เบื้องหลัง มุ่งหน้าสู่คอรัสซัง

ขณะเดินทางสู่คอรัสซัง สกายวอล์คเกอร์เริ่มสนใจในตัวอมิดาล่ามากขึ้น เขาได้มอบของชิ้นเล็กๆ ให้กับเธอเพื่อระลึกถึงเขา ไม่กี่ปีต่อมา อมิดาล่ายังคงสวมสิ่งนั้นในพิธีศพของเธอ[3]

เมื่อมาถึงคอรัสซัง สกายวอล์คเกอร์พบกับสภาสูงเจไดและถูกทดสอบในความเชื่อของจินที่ว่าอนาคินคือผู้ที่ถูกเลือก และสมควรได้รับการฝึกเป็นเจได พรสวรรค์ของสกายวอล์คเกอร์ยืนยันในความเชื่อของจิน แต่สภายังคงสงสัยอยู่ จินขอร้องให้ฝึกสกายวอล์คเกอร์หลังจากที่ศิษย์คนปัจจุบันของเขา โอบีวัน เคโนบี สำเร็จการทดสอบของเขา แต่คำขอของเขาถูกปฏิเสธ สกายวอล์คเกอร์อายุมากเกินไปที่จะเป็นพาดาวัน และสภาคิดว่าประสบการณ์ก่อนหน้าของเขาจะเป็นอุปสรรคในการฝึกของเขา โดยเฉพาะการที่เขามีความกลัวและความโกรธมากเกินไป เป็นสิ่งที่มาจากตอนที่เขาเป็นทาส ความรู้สึกที่เกิดจากตอนที่เขาจากแม่ของเขามา พวกเขาเชื่อว่าเขาอาจไม่ผ่านในเรื่องการระงับความรู้สึกซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในนิกายเจได เคโนบี ขณะที่ทึ่งในจำนวนที่มากของมิดิคลอเรี่ยน เขาก็เห็นด้วยในคำตัดสินของสภา ด้วยการไม่มีที่ไปนอกจากคอรัสซัง และไม่มีทางกลับไปทาทูอีน สกายวอล์คเกอร์ไปตามเพื่อนใหม่ของเขาในภารกิจปลดปล่อยนาบู

ไฟล์:AniPadawan.jpgสกายวอล์คเกอร์ไม่นานหลังจากเข้านิกายเจได

ท้ายสุด สกายวอล์คเกอร์ได้ต่อสู้ในยุทธการนาบูในการการรบยานขับไล่เหนือดาว หลังจากที่เข้ารบโดยไม่ได้ตั้งใจ สกายวอล์คเกอร์สามารถทำลายยานควบคุมดรอยด์ได้ด้วยตัวเอง ทำให้กองกำลังของสมาพันธ์การค้าหยุดทำงานและได้ช่วยกองทัพของชาวกันแกนไว้จากหายนะ

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะต้องแลกมาด้วยการตายของจิน ถูกฆ่าโดยดาร์ธ มอล อาจารย์ได้ขอให้โอบีวันฝึกอนาคินให้สำเร็จก่อนที่เขาจะตาย ซึ่งเคโนบีสัญญาว่าจะทำให้สำเร็จ สภาเห็นด้วยในการให้โอบีวันเริ่มฝึกอนาคิน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าสกายวอล์คเกอร์นั้นเป็นนักเรียนที่ยากเกินไปที่เคโนบีจะรับมือไหว

ขณะเดียวกัน พัลพาทีน สมุหนายกคนใหม่ของสาธารณรัฐ ได้สัญญาว่าเขาจะเฝ้าดูการเป็นเจไดของสกายวอล์คเกอร์อย่างจดจ่อ [1] นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่างเจไดหนุ่มกับผู้ปกครองใหม่ของสาธารณรัฐ

วัยหนุ่ม (ปีที่ 32 - 22 ก่อนยุทธการยาวิน)

"เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยม"
"แต่เขายังต้องเรียนรู้อีกมาก อาจารย์ ความสามารถของเขาทำให้เขา…ทรนง— เมซ วินดูและโอบีวัน เคโนบี

ในวัยหนุ่ม อนาคินมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ก็เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากทาสมาเป็นดาวรุ่งในนิกายเจได ความสามารถโดยธรรมชาติของเขาทำให้เขาอยู่เหนือกว่าเพื่อนฝูง และมันทำให้เขาห่างจากนักเรียนคนอื่นๆในวัยเดียวกัน เขาชอบโอ้อวด และทำผิดกฏหลายครั้ง แต่ก็ยังเคารพ และจริงใจอยู่เสมอ สำหรับเขาโอบีวันเป็นเสมือนพ่อของเขา เขาฉลาดเหมือนอาจารย์โยดาและทรงพลังเหมือนอาจารย์วินดู แต่เขารู้ดีว่าตนเหนือกว่าเคโนบีในหลายๆ ด้าน และรู้สึกว่าเคโนบีรั้งเขาเอาไว้ ความสัมพันธ์ของเขากับอาจารย์นั้นซับซ้อนและขัดแย้ง เนื่องมาจากโอบีวันเองก็สงสัยด้วยซ้ำว่าเขาจะฝึกอนาคินได้หรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อนาคินไม่ต้องการ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตในชีวิตของเขา ด้วยความสิ้นหวัง เขาได้หันไปหาที่พึ่งอีกคนแทน สมุหนายกพัลพาทีน

เป็นไปได้ที่เขาทำให้ข้านึกถึงตอนที่อายุเท่าเขา ยะโส ใจร้อน ทรนง ข้าตระหนักว่าความอ่อนน้อมเป็นสิ่งสูงส่งในความดี สิ่งที่ไม่สามารถเลือกเองได้ หากชะตากรรมกำลังมองหาบางอย่างเพื่อทำให้สกายวอล์คเกอร์ถ่อมตน ข้าจะเป็นคนอาสาเอง— เคาท์ดูกู

เมื่อความเป็นเพื่อนของอนาคินกับพัลพาทีนดำเนินไปในช่วงแรกๆ สมุหนายกพูดอย่างเห็นอกเห็นใจกับอนาคิน เป็นสิ่งที่เพิ่มความทรนงของเขา ดูเหมือนว่าการทำให้อนาคินมั่นใจใหม่อีกครั้งโดยพัลพาทีนจะทำให้เขาบกพร่องในการควบคุมตนเอง—ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาถูกตำหนิโดยโอบีวัน พัลพาทีนจะบอกอนาคินเสมอว่าเขาทำถูกแล้ว อนาคินจึงแทบไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของเขาไปเลย

ศิษย์ของโอบีวัน

"อาจารย์โยดา ข้าสัญญากับไควกอนแล้ว ข้าจะฝึกอนาคิน...ไม่ว่าสภาจะเห็นด้วยหรือไม่"
"[…]สภาเห็นด้วยกับเจ้า ยอมให้รับสกายวอล์คเกอร์ เป็นศิษย์"— โอบีวัน เคโนบีและโยดา

ความสัมพันธ์ของอนาคินและโอบีวันมีจุดเริ่มต้นที่ยากเย็น โอบีวันไม่ใช่คนเดียวที่เห็นศักยภาพของเขา แต่คิดว่าเขาอันตรายด้วยซ้ำไป เหตุผลเดียวที่เขาฝึกอนาคินก็เพราะคำร้องขอของไควกอนก่อนที่เขาจะตาย เขารู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ แม้ว่าโอบีวันเองไม่คิดว่าเขาจะมีทักษะพอที่จะฝึกอนาคินได้ ในอีกทางหนึ่ง อนาคินรู้ว่าเขาแตกต่าง เพราะว่าความแตกต่างนั้นเอง อนาคินจึงมักเก็บตัว อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังจริงใจกับโอบีวัน เพราะว่าเขาเหมือนพ่อที่เขาไม่เคยมี ไม่นานอาจารย์และศิษย์ก็เริ่มสนิทกันในวัยหนุ่มของอนาคิน

ขณะอยู่ที่คอรัสซัง อนาคินไม่เคยหยุดหลงใหลในเครื่องจักร และที่วิหารเจไดก็เป็นที่ที่เขาสร้างดรอยด์ขึ้นมา เขายังชอบผจญภัยและหาความสนุกในวัยสิบสองปี เขาได้สร้างยานแข่งขึ้นมาและแอบลงแข่งในสนามแข่งที่ใต้เมืองกาแลกติก ในการแข่งครั้งหนึ่งเขาเกือบถูกฆ่าก่อนที่โอบีวันจะมาพบเขา

ประมาณปีที่สามในการฝึกของเขา อนาคินและโอบีวันได้รับภารกิจแรกให้สืบสวนผู้นำลัทธิชื่อคัด ชุน ชุนเรียกตนเองว่าอูนิ นำกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกตนเอง บิดาของคัด วอกซ์ ชุน หัวหน้าของลัทธิถูกฆ่าเมื่อโอบีวันและอนาคินมาทำการสืบสวน ต่อมา คัดยกโทษให้โอบีวันสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำลงไป

ภารกิจต่อไปนั้นพวกเขาได้ไปเยือนดาวโซนาม่าซีคอทเพื่อตามหาอัศวินเจไดเวอร์เกียร์ ผู้ที่ซึ่งหายไปขณะทำภารกิจบนดาว พวกเขาไม่รู้เลยว่าถูกตามรอยโดยวิลฮัฟฟ์ ทาร์กินและไรธ์ ไซนาร์ ซึ่งมาเอาประโยชน์จากเทคโนโลยียานขับไล่อันทันสมัยของโซนาม่าซีคอท สร้างมันให้มีอัตราที่น่าทึ่งและคุณภาพสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ที่บนดาวนั้น ชาวอาณานิคมได้ขาย"ซีด-พาร์ทเนอร์" (seed-partner) ซึ่งจะเชื่อมตัวเองกับผู้ที่มันอาศัยและทำให้ดาวดวงนี้สามารถดัดแปลงยานขับไล่ที่ไม่เหมือนใครออกมา อนาคินดูเหมือนจะสนใจในสิ่งนี้มากกว่าใครๆ และดังนั้น เขาก็มียานที่ใหญ่และซับซ้อนกว่า เขาตั้งชื่อให้ยานใหม่ลำนี้ว่าจาบิธา (Jabitha) เมื่อทาร์กินและไซนาร์มาถึง ดาวได้เปิดเผยต่อเจไดว่า เวอร์เกียร์ได้จากไปพร้อมกับ"ผู้มาจากแดนไกล"ที่ลึกลับเพื่อที่จะปกป้องโซนาม่าซีคอท อนาคินและโอบีวันอาจไม่สามารถช่วยเวอร์เกียร์ไว้ได้ แต่พวกเขาสามารถหยุดการโจมตีของทาร์กินได้เมื่อเค ไดฟ์ ซึ่งเป็นผู้อารักขาทาร์กิน ได้พยายามฆ่าอนาคิน เด็กหนุ่มไม่สามารถควบคุมความโกรธได้และใช้พลังจิตเผาไดฟ์จากข้างใน โชคร้าย อนาคินถูกจับ และนำตัวไปให้ทาร์กิน อย่างไรก็ตาม โอบีวันก็สามารถทำลายยานธงของทาร์กินและช่วยอนาคินเอาไว้ได้ ในช่วงนี้เอง โซนาม่าซีคอทก็สามารถใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์ของมันได้ และทำให้ดาวหายไป มุ่งหน้าสู่ดินแดนที่ไม่มีใครรู้จัก หลังจากนั้น ไซนาร์และทาร์กินกลับสู่สาธารณรัฐ โชคร้าย ยานของอนาคินพัง หลังจากสรุปภารกิจ โอบีวันและอนาคินก็กลับสู่คอรัสซัง

เอาต์บาวนด์ ไฟลท์

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

ภารกิจที่อันดารา

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

การเสียสละของยาดเดิล

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

การติดตามเจนนา ซาน อาร์เบอร์ และ รอย เทดา

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

เผชิญหน้ากับคู่ปรับเก่า

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

เติบโต

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

วัยผู้ใหญ่ (ปีที่ 22 ก่อนยุทธการยาวิน - ปีที่ 4 หลังยุทธการยาวิน)

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

พบกับอมิดาลาอีกครั้ง

เจ้าขอให้ข้ามีเหตุผล นั่นคือสิ่งที่ข้ารู้ว่าข้าทำไม่ได้ เชื่อข้าสิ ข้าอยากจะละทิ้งความรู้สึกนี้ไปได้ แต่ข้าทำไม่ได้— สกายวอล์คเกอร์พูดกับอมิดาล่า

ไฟล์:Anakin Padmé kiss.jpgจูบแรกของสกายวอล์คเกอร์และอมิดาล่า

หลายวันก่อนที่เข้าจะอายุได้ยี่สิบปี[4] มีการพยายามลอบสังหารแพดเม่ อมิดาล่าซึ่งตอนนี้เป็นวุฒิสมาชิกเขตชอมเมลล์ โดยนักล่าเงินรางวัลแซม วีเซลล์ สกายวอล์คเกอร์ได้นับมอบหมายให้อารักขาและคุ้มกันอมิดาล่ากลับไปที่บ้านเกิดของเธอ เพื่อหลักเลี่ยงความสนใจพวกเขาจึงเดินทางแบบผู้อพยพ สกายวอล์คเกอร์ไม่ได้พบเธอมาสิบปี แม้ว่าเขาจะเฝ้าคิดถึงเธอทุกวันตั้งแต่วันที่พวกเขาจากกันบนนาบู ความรักที่เขามีให้เธอเมื่อวัยเด็กของเขาได้เพิ่มมากขึ้น ในบทสนทนาสกายวอล์คเกอร์ได้เผยความรัก ไม่เชื่อในกระบวนการทางการเมือง และมุมมองของเขาที่ว่าต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง ภายในเวลาอันสั้นความหลงใหลของเขาก็หลายมาเป็นสิ่งที่มากกว่านั้นคือรัก ท้ายสุดอมิดาล่าเริ่มรู้สึกเช่นเดียวกันต่อเขา

ที่หลบภัยของอมิดาล่า ที่ซึ่งทั้งสองได้จูบกันครั้งแรก ทั้งสองดูเหมือนรวมกันเป็นหนึ่งทั้งๆ ที่มาจากสังคมที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามอมิดาล่าก็เลือกที่จะปฏิเสธ และสกายวอล์คเกอร์ก็ห่วงความรู้สึกของเธอจึงยอมรับความเป็นจริง ถึงขั้นขอให้เก็บเรื่องระหว่างพวกเขาเป็นความลับอมิดาล่าห่วงมากกว่าเกี่ยวกับหน้าที่และความรับผิดชอบ เธอรู้ว่าสถานการณ์ของพวกเขาในปัจจุบันจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ราบรื่น การไล่ตามความสัมพันธ์ของสกายวอล์คเกอร์นั้นขัดต่อกฎของเจไดอย่างร้ายแรง ซึ่งเจไดนั้นหน้าที่ต้องมากก่อนความรู้สึกส่วนตัว และสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือพลัง

กลับสู่ทาทูอีน

"ข้าซ่อมได้แทบทุกอย่าง แต่ทำไมแม่ข้าต้องตาย ทำไมข้าช่วยแม่ข้าไม่ได้"
"บางครั้งมีบางอย่างที่เราซ่อมแซมไม่ได้ แอนนี่"
"สักวันข้าจะต้องเป็นเจไดที่ทรงอำนาจที่สุด! ข้าให้สัญญา ข้าจะเรียนรู้แม้กระทั่งวิธีที่จะหยุดคนไว้จากความตาย!"— สกายวอล์คเกอร์และอมิดาล่า

ไฟล์:Anakin Vengeance.jpgสกายวอล์คเกอร์โจมตีทัสเคนเรดเดอร์สำหรับแก้แค้นที่พวกเขาสังหารแม่ของเขา

สกายวอล์คเกอร์เจ็บปวดจากการที่เขาสามารถมองเห็นอนาคตของแม่ของเขา ฉมี เพราะหลายเดือนก่อนที่จะพบอมิดาล่าอีกครั้ง และเพราะพวกเขา ขัดคำสั่งที่ให้ปกป้องอมิดาล่าด้วยการพาเธอไปยังทาทูอินเพื่อตามหาฉมี เมื่อลงจอดบนทาทูอินสกายวอล์คเกอร์ได้เดินทางไปที่ร้านของวัตโต้ ที่ซึ่งเขาพบว่าชาวไร่ไอน้ำชื่อเคลกก์ ลาร์สได้ปลดปล่อยและแต่งงานกับแม่ของเขา

ในขณะที่คุยกับลาร์ส เขาก็ได้รับรู้ถึงสิ่งที่น่ากลัวว่าฉมีได้ถูกจับตัวไปโดยทัสเคนเรดเดอร์ เขารีบออกไปตามหาเธอทันทีโดยใช้สวูปไบค์ของโอเวน ลาร์ส คืนนั้นเองเจไดหนุ่มได้พบค่ายของทัสเคนและแอบเข้าไปในเต็นท์หนึ่งที่ฉมีอยู่ด้วยการใช้สัมผัสทางพลัง เขาแก้มัดเธอแต่ก็สายไปเสียแล้ว ด้วยการที่ถูกทรมาน อดน้ำ และอดนอน ฉมี สกายวอล์คเกอร์ตายในอ้อมกอดของเขา แต่ไม่ใช่ก่อนที่เธอจะได้เห็นเขาเป็นครั้งสุดท้าย

สกายวอล์คเกอร์ปล่อยให้การตายของฉมีระเบิดความโกรธของเขา เขาบ้าคลั่งและฆ่าทุกคน—แต่เขายอมสารภาพกับอมิดาล่าในภายหลัง "ผู้หญิงและเด็กๆ"[2] เจไดมากมายรวมทั้งโยดาและไควกอน จิน รับรู้ถึงการสังหารหมู่เมื่อพลังมหาศาลของสกายวอล์คเกอร์ซึ่งเข้าสู่ด้านมืดของพลัง

อมิดาล่ากังวลกับสิ่งที่สกายวอล์คเกอร์ทำลงไป เธอเบื่อที่จะคลายความเจ็บปวดของเขาด้วยความเห็นใจและไม่บอกใครถึงสิ่งที่สกายวอล์คเกอร์ทำลงไป ด้วยความโกรธและเศร้าของเขา เขาจึงสาบานว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องทรงพลังจนหยุดคนไว้จากความตายได้

ยุทธการจีโอโนซิส

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

สมรสกับแพดเม่

เหล่าอัศวินเจได พร้อมกับกองทัพโคลนที่ถูกอนุมัติใช้ ภายใต้การนำของโยดา ขณะนั้นอาจารย์เจไดเมซ วินดูพาเจไดกว่า 200 นาย บุกไปช่วยโอบีวัน อนาคิน และ อมิดาล่า ในขณะที่เจไดกำลังเสียท่ากับพวกดรอยอยู่ โยดานำกองทัพโคลนส์มาช่วย ทำให้เจไดรอดตายและสงครามระหว่างพวกดรอยท์และโคลนได้เกิดขึ้นและเจไดที่เหลือก็ลงสนามรบด้วย ขบวนการแบ่งแยกต่างๆ เห็นว่ากำลังพ่ายแพ้จึงถอนทัพกลับ เคาท์ดูกูหนีไปยังโรงเก็บยานโอบีวันและอนาคินตามไป อนาคินโดนพลังสายฟ้าฟาดจนสลบเหลือเพียงโอบีวันเพียงคนเดียวจึงต่อสู้ด้วยกระบี่แสงแต่พลาดท่าโดนเคาท์ดูกูเอาดาบจิ้มที่แขนและขา จึงเหลือแค่อนาคินที่ฟื้นขึ้นมาและดวลกระบี่แสงจนโดนเคาท์ดูกูตัดแขนขวาขาด ปรมาจารย์โยดามาช่วยดวลพลังกับเคาท์ดูกูไม่แพ้ไม่ชนะกันจึงดวลด้วยกระบี่แสงเคาท์ดูกูหนีไปได้ เมื่อได้รับชัยชนะอนาคินพาแพดเม่กลับนาบู และแต่งงานกันโดยมีซีทรีพีโอและอาร์ทูดีทูเป็นพยาน

สงครามโคลน (ปีที่ 22 - 19 ก่อนยุทธการยาวิน)

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ยุทธการมูนิลินสท์และการประลองบนยาวิน 4
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ยุทธการจาบิอิม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ยุทธการสไกเอ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ยุทธการอาร์กอนาร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
อัศวินเจได
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ยุทธการเรนดิลิและผลสืบเนื่อง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ช่วยชีวิตฮัทท์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
"มืออสูร"

ในช่วงการโอบล้อมเขตรอบนอก โอบีวัน เคโนบีและอนาคินถูกย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง พวกเขาถูกส่งไปเป็นทีมในหลายสมรภูมิโดยบัญชาการกองยานโอเพ่นเซอร์เคิล ไม่นานก่อนยุทธการคอรัสซังโอบีวันและอนาคินถูกส่งไปที่ดาวน้ำแข็งชื่อเนลวาอันเพื่อตามหากรีวัส ชาวเนลวาอันเนียนทักทายอนาคินว่าเขาคือ"มืออสูร"และหมอผีของหมู่บ้านรอกรูลได้ส่งเขาไปตามหาและช่วยเหลือผู้คนของพวกเขาจากภัยคุกคามที่ได้พิชิตเหล่านักสู้ของพวกเขา อนาคินตกลงและเข้าไปในถ้ำที่ซึ่งเขาได้เห็นนิมิตของนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ผู้ที่สูญเสียแขนของตนในตอนต่อสู้ อย่างไรก็ตามเขาก็ตอบโต้กลับและยังคงสังหารสัตว์ร้ายต่อไปด้วยแขนสีดำของเขา พลังของเขามากจนกระทั่งมันเกินที่จะควบคุม แขนสีดำได้กลายเป็นเขาวงกตที่ทำลายทุกสิ่งที่วีรบุรุษรัก

เสียงร้องของแพดเม่ตามหลังจากลางร้ายของเขาวงกตสีดำที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นแขนของยอดวีรบุรุษแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่น่ากลัว—ใบหน้าของดาร์ธ เวเดอร์ผู้ซึ่งอนาคินจะเป็นในอีกไม่นาน

เมื่ออนาคินฟื้นจากความฝันเขาได้ไปที่ห้องทดลองของสหภาพเทคโนโลยีที่ซึ่งพวกเขาได้ทำการทดลองกับชาวเนลวาอันเนียนโดยการทำให้พวกเขากลายเป็นสัตว์ร้ายที่มีแขนเป็นบลาสเตอร์ ด้วยการช่วยเหลือจากชาวเนลลาอันเนียนผู้ซึ่งไม่ได้ถูกเปลี่ยนร่าง เขากล่อมพวกนักรบที่ถูกทดลองให้ช่วยเขาทำลายโรงงานอันเป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียแขนไป นักวิทยาศาสตร์มากมายพยายามที่จะหลบหนีแต่อนาคินฆ่าพวกเขาในทันทีที่เห็น หลังจากนั้นพวกชาวเนลวาอันเนียนเพศชายได้พากันถอดแขนบลาสเตอร์กันหมดและยกย่องให้อนาคินเป็นยอดนักรบ อนาคินได้พาชาวเนลวาอันเนียนเพศชายที่ถูกจับไปกลับไปยังหมู่บ้าน แม้พวกเขาจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แต่ครอบครัวของพวกเขาต่างก็ยินดีต้อนรับโดยไม่ได้รังเกียจอะไรเลย อนาคินและชาวเนลวาอันเนียนเพศชายที่แขนขวาขาดต่างได้รับทำเข้าเฝือกแทนแขนขวาที่เสียไปพร้อมกับจัดงานเลี้ยงในหมู่บ้านกันอย่างมีความสุข

หลังจากเสร็จภารกิจที่ดาวเนลวาอันแล้ว โอบีวันและอนาคินได้ออกจากดาวเพื่อไปทำภารกิจเดิมคือตามล่ากรีวัสต่อไป อนาคินได้ทำแขนกลขึ้นมาใหม่โดยใช้สีดำ ต่อมาโอบีวันและอนาคินได้รับการติดต่อจากอาจารย์เมซ วินดูโดยผ่านทางจากอาร์ทูดีทูแจ้งว่า ดาวคอรัสซังได้ถูกสหภาพพิภพอิสระโจมตีและนายพลกรีวัสได้ลักพาตัวสมุหนายกพัลพาทีนไปจึงขอความช่วยเหลือ เมื่อรับรู้ว่า นายพลกรีวัสอยู่ที่คอรัสซัง อนาคินจึงได้สั่งให้กองยานมุ่งหน้ากลับไปยังดาวคอรัสซังเพื่อช่วยสมุหนายกพัลพาทีนและกำจัดนายพลกรีวัสให้จงได้

กลายเป็นเวเดอร์ (ปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวิน)

ช่วยเหลือสมุหนายก

ท่านหยุดข้าไม่ได้หรอก เพราะสุดท้ายดาร์ทเวเดอร์จทรงพลังกว่าเราทั้งสองคน— ดาร์ธ ซีเดียส

ไม่นานก่อนที่สงครามจะจบ ยุทธการคาโตเนโมอีเดียครั้งแรกได้ให้เบาะแสกับอนาคินและโอบีวันถึงดาร์ธ ซีเดียสผู้ลึกลับ เมซ วินดูได้ขึ้นนำบนคอรัสซังขณะที่สกายวอล์คเกอร์และเคโนบีนำการรุกในการโอบล้อมเขตรอบนอก การผจญภัยของทั้งสองทีมได้นำพวกเขากลับมาสู่คอรัสซังในช่วงการโจมตีคอรัสซังโดยพวกสมาพันธ์พอดีทำให้สกายวอล์คเกอร์และเคโนบีรีบกลับสู่คอรัสซังหลังจากที่พวกเขาไปเยือนดาวไทธ เมื่อกลับมาสู่คอรัสซังพวกเขาก็เริ่มเห็นภาพของดาร์ธ ซีเดียสเป็นเงาลางๆ การรบนั้นเป็นการไขข้อสงสัยในการสืบสวน วินดูได้เข้าร่วมการต่อสู้จนปะทะกับนายพลกรีวัสผู้ซึ่งสามารถหนีไปได้แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บก็ตาม กรีวัสยังได้จับตัวสมุหนายกพัลพาทีนไปที่ยานธงอินวิซิเบิลแฮนด์ของเขา

ก่อนที่กองยานของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนจะสามารถหลบหนีออกจากคอรัสซังสกายวอล์คเกอร์และเคโนบีก็กลับมาถึงและพยายามที่จะช่วยสมุหนายกที่ถูกจับ พวกเขาเคลื่อนที่เข้าสู่สมรภูมิเดือดด้วยยานขับไล่ความเร็วสูงขนาดเบา อีทา-2 แอคติส-คลาส อัศวินเจไดทั้งสองได้ฟันฟ่าเพื่อไปให้ถึงยานธงจนกระทั่งขึ้นไปบนหอบังคับการของยาน ที่ซึ่งพัลพาทีนถูกจับเอาไว้เป็นตัวประกัน เมื่อเจไดทั้งสองพยายามที่จะปล่อยเขาเคาท์ดูกูก็เข้ามาในห้องโดยมีบี2 ซูเปอร์แบทเทิลดรอยด์สองตัวคุ้มกันเพื่อเผชิญหน้ากับเจไดทั้งสอง

ไม่เหมือนกัยครั้งแรกที่เขาสู้กับดูกู สกายวอล์คเกอร์และเคโนบีต่อสู้ด้วยกันอย่างร่วมมือจนกระทั่งซิธลอร์ดใช้พลังบีบคอเคโนบี เขาเตะอนาคินและโยนเคโนบีไปที่มุมห้องทำให้เขาหมดสติ สกายวอล์คเกอร์ต่อสู้ต่อไปจนเสียการควบคุมอารมณ์เมื่อดูกูยั่วความโกรธเขา เขาปลอดปล่อยทั้งหมดต่อสู้กับมาคาชิดูกู การดวลจบลงเมื่อสกายวอล์คเกอร์ตัดมือของดูกูทำให้เขาสู้ต่อไปไม่ได้

ไฟล์:DeathOfTyranus.JPGอนาคินยืนเหนือร่างที่ไร้ชีวิตของเคาท์ดูกู

พัลพาทีนสั่งให้อนาคินสังหารดูกู หลังจากที่ลังเลที่จะไม่ทำตามคำขอของสมุหนายก สกายวอล์คเกอร์ได้ตัดศีรษะของดูกูด้วยกระบี่สองเล่มไขว้ที่คอของเขา อนาคินยังไม่รู้ว่าพัลพาทีนคือดาร์ธ ซีเดียส อนาคินเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปเพราะนั่นไม่ใช่วิถีของเจไดที่จะฆ่าผู้ที่ไม่สามารถต่อสู้ได้

อนาคินได้ปล่อยตัวพัลพาทีนและออกหลบหนีโดยแบกโอบีวันที่ไร้สติไปด้วย เขาไม่สนใจคำสั่งของพัลพาทีนที่บอกให้ทิ้งอาจารย์เจไดเอาไว้ อย่างไรก็ดีการหลบหนีของพวกเขานั้นไม่นานก็ถูกจับและนำตัวไปที่สะพานเดินเรือของนายพลกรีวัส ด้วยคำสั่งของสกายวอล์คเกอร์อาร์ทูดีทูก็ได้หันเหความสนใจทำให้อนาคินและเคโนบีเอากระบี่แสงคืนได้ พวกเขาต่อสู้กับดรอยด์ของกรีวัสจนเอาชนะได้ โชคไม่ดีที่กรีวัสสามารถหลบหนีไปได้และทิ้งให้ยานธงตกลงสู่ดาวคอรัสซัง สกายวอล์คเกอร์สามารถบินยานและนำมันลงจอดได้อย่างปลอดภัยบนคอรัสซัง

เข้าสู่ด้านมืด

"เจ้าตายตอนคลอดลูก "
"แล้วเด็กล่ะ"
"ข้าไม่รู้"
"มันเป็นแค่ฝัน"
"ข้าจะไม่ยอมให้ฝันนั้นเป็นจริง"— อนาคินสกายวอล์คเกอร์กับแพดเม่ อมิดาล่า

เมื่อเขากลับสู่คอรัสซังสกายวอล์คเกอร์ได้พบกับภรรยาอีกครั้งซึ่งเธอได้บอกเขาถึงการตั้งครรภ์ของเธอซึ่งเขาดีใจมากที่ได้ยินข่าว อย่างไรก็ตามต่อมาเขาก็มีปัญหากับนิมิตของแพดเม่ที่ตายตอนคลอดลูก เพื่อช่วยชีวิตเธอสกายวอล์คเกอร์ต้องการความรู้จากอาจารย์ เป็นความรู้ที่ถูกห้ามโดยยกเว้นอาจารย์เจได เมื่อพัลพาทีนให้อนาคินเป็นตัวแทนของเขาในสภาเจไดเขาจึงมีสิทธิ์รวมว่าเป็นอาจารย์ ดังนั้นเขาจึงได้รับสิทธินอกเหนือกฎต้องห้ามนั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเจไดคนอื่นๆ จะไม่เต็มใจในการให้อนาคินเข้าทำหน้าที่พวกเขาก็ปฏิเสธที่จะมอบตำแหน่งอาจารย์เจไดให้กับอนาคิน หลังจากที่สกายวอล์คเกอร์ระบายความคับข้องใจกับเคโนบี เขาก็ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยแพดเม่เอาไว้

นอกจากเชื่อในพวกเขาทางสภายังให้สกายวอล์คเกอร์สอดแนมพัลพาทีนถึงแม้ว่าเคโนบีจะไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินใจดังกล่าว นี่ทำให้สกายวอล์คเกอร์สูญเสียความเคารพในสมาชิกสภาและไม่เชื่อว่ามันจะช่วยภรรยาของเขาได้ ไม่นานสกายวอล์คเกอร์ก็ได้พบกับไอกูนิผู้ที่เห็นนิมิตที่อนาคินเข้าสู่ด้านมืด สกายวอล์คเกอร์ได้ปรึกษากับโยดาถึงฝันที่เขาเห็นแม้ว่าเขาไม่ได้ระบุตัวบุคคลก็ตาม โยดาไม่ได้ระวังถึงความรักของอนาคินที่มีต่ออมิดาล่า โยดาได้บอกเขาว่า"เพื่อฝึกตัวเจ้า...ต้องปล่อยวางทุกอย่างที่เจ้ากลัวที่จะสูญเสีย" อนาคินไม่พอใจกับการจัดการเช่นนั้น

เมื่อเขาไปพบกับพัลพาทีน สมุหนายกผู้ค่อยๆ เริ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ของด้านมืดในตัวสกายวอล์คเกอร์ ด้วยการรู้ว่าเขากลัวการตายของอมิดาล่าเขาจึงเล่าเรื่องให้สกายวอล์คเกอร์ถึงเรื่องราวของซิธลอร์ดดาร์ธ เพลกัสผู้ที่ทรงพลังมากพอที่จะช่วยคนไว้จากความตายซึ่งทำให้อนาคินสนใจอย่างมาก จนกระทั่งในที่สุดพัลพาทีนก็ได้เปิดเผยตนเองให้อนาคินรู้ว่าเขาคือซิธลอร์ด ดาร์ธ ซีเดียส ทำให้อนาคินชักกระบี่แสงหมายจะสังหาร สุดท้ายอนาคินก็ฆ่าไม่ลง แต่ได้ไปรายงานวินดู แม้ว่าเขาจะเสียใจต่อทางเลือกมากพอๆ กับการที่คำพูดของพัลพาทีนที่ทรมานจิตใจของเขา หลังจากที่เขาให้สกายวอล์คเกอร์อยู่รอที่วิหารเจไดวินดูก็ไปพร้อมกับอาจารย์เจไดอีกสามคน—เอเจน โคลาร์ เซซี ทิอิน และคิท ฟิสโต—เพื่อจับกุมตัวสมุหนายก พัลพาทีนได้ต่อสู้กับเจไดและสังหารไปสามคนแทบจะในทันทีโดยเหลือไว้เพียงวินดูเท่านั้น เขาและพัลพาทีนยังคงต่อสู้กันต่อไปจนกระทั่งอาจารย์เจไดได้เปรียบและจี้อาวุธไปที่คอของซิธ กลับไปที่วิหารเจไดในขณะนั้นเองสกายวอล์คเกอร์ก็กลัวว่าหากพัลพาทีนตายโอกาสที่เขาจะช่วยแพดเม่เอาไว้ได้นั้นก็จะหายไปด้วย

การตัดสินใจแห่งโชคชะตา

เด็กน้อยที่เจ้าเคยฝึก...จากไปแล้ว— โยดาพูดกับโอบีวัน เคโนบี

ไฟล์:37762 cx (2).jpgทางเลือกแห่งโชคชะตาของสกายวอล์คเกอร์

ด้วยการที่เขาต้องทรมานจากความคิดถึงการตายของแพดเม่หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพัลพาทีน สกายวอล์คเกอร์จึงรีบออกจากวิหารเจไดและมุ่งหน้าสู่ที่ทำงานของพัลพาทีน เขาไม่แน่ใจนักว่าเขากำลังจะทำอะไร เขารู้เพียงแค่ว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ด้วยความบังเอิญสกายวอล์คเกอร์ก็มาถึงพอดีกับตอนที่วินดูกำลังจะสังหารพัลพาทีน

พัลพาทีนโจมตีใส่วินดูด้วยพลังสายฟ้าขณะที่ร้องขอให้สกายวอล์คเกอร์ช่วยเขา ขณะที่เขากำลังหักเหทิศทางสายฟ้าของพัลพาทีนวินดูก็ตะคอกใส่อนาคินว่าอย่าฟัง ด้วยการที่เขาถูกสายฟ้าของตัวเองพัลพาทีนก็กลายร่างเมื่อโดนพลังด้านมืดของตนเอง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวและดวงตากลายเป็นสีเหลือง วินดูได้เปรียบและต้องการที่จะสังหารพัลพาทีนและจบสิ้นพวกซิธ อย่างไรก็ตามสกายวอล์คเกอร์ขัดขวางเขาโดยกล่าวว่าพัลพาทีนต้องถูกนำตัวขึ้นศาลและการฆ่าเขาไม่ใช่วิถีของเจได สิ่งนี้ดูเหมือนว่าเขาเสียใจที่สังหารดูกูเมื่อก่อนหน้าในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันแต่ก็ดูเหมือนว่าเขากลัวที่จะสูญเสียโอกาสในการช่วยภรรยาของเขาไว้จากความตาย วินดูปฏิเสธสกายวอล์คเกอร์และพร้อมที่จะสังหารพัลพาทีนแต่อนาคินที่ตื่นกลัวชักกระบี่แสงออกมาและตัดมือขวาของวินดู ก่อนที่วินดูจะทันโต้ตอบพัลพาทีนก็ใช้พลังสายฟ้าส่งอาจารย์เจไดทะลุหน้าต่างสู่ความตาย

เมื่อรู้ว่าเขาได้ทำอะไรลงไปอนาคินกลับรู้สึกผิดและสงสัยในการกระทำของตน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพัลพาทีนได้ ผู้ซึ่งกล่าวว่าเขาได้เติมเต็มให้กับโชคชะตาของตน เขาขอให้สกายวอล์คเกอร์ยอมรับด้านมืดและมาเป็นศิษย์ของเขา อนาคินตกลงที่จะทำทุกอย่างที่พัลพาทีนต้องการโดยมีข้อแม้ว่าให้ช่วยแพดเม่ให้รอดชีวิต และเขายอมทำทุกอย่างที่พัลพาทีนสั่ง พัลพาทีนสัญญาว่าจะทำตามข้อแม้ แต่เขาบอกว่าไม่มีความสามารถที่จะหยุดความตายได้ จึงขออนาคิน สกายวอล์คเกอร์ก้าวเข้าสู่นิกายซิธ อนาคินยอมทำตามทุกอย่างต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอมเพื่อครอบครัวของเขา และซีเดียสก็มอบชื่อใหม่ให้กับเขา ดาร์ธ เวเดอร์

ดาร์ธ เวเดอร์ผงาด

เจไดหนุ่มนามว่าดาร์ธ เวเดอร์ ผู้ซึ่งเคยเป็นนักเรียนของข้าจนกระทั่งกลายเป็นปีศาจ ช่วยเหลือจักรวรรดิตามล่าและทำลายอัศวินเจได— โอบีวัน เคโนบี

การบุกวิหารเจได

อาจารย์สกายวอล์คเกอร์ พวกมันมีมากมายเหลือเกิน เราจะทำอย่างไรดี?— เจไดเด็กซอร์ส แบนดีมพูดกับเวเดอร์

พัลพาทีนบอกกับเวเดอร์ว่าเจไดทุกคนคือศัตรูของรัฐ รวมทั้งโอบีวัน เคโนบี และมันจะเป็นสงครามกลางเมืองที่ไม่รู้จบหากเจไดยังไม่ถูกทำลาย เวเดอร์ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ซิธ ซึ่งบอกกับเขาว่าหากต้องการพลังด้านมืดมากพอที่จะช่วยชีวิตอมิดาล่า เขาได้นำกองทหารที่ 501เข้าสู่วิหารเจไดและสังหารเจไดทุกคน เวเดอร์ทำโดยปราศจากคำถาม สังหารเจไดทุกคนรวมทั้งเจไดเด็ก เจไดเด็กบางคนเข้าหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าหาจุดจบ ความโหดร้ายที่ทำโดยเวเดอร์และกองทหารที่ 501 ส่งผลให้ควันไฟพวยพุ่งออกมาจากวิหารเจได สามารถมองเห็นได้จากตึกวุฒิสภา สิ่งนี้ได้เริ่มการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่

ภารกิจที่มุสตาฟาร์

สงครามยุติแล้ว! ลอร์ดซีเดียสสัญญาว่าจะสงบศึก! เราแค่ต้องการ—— คำพูดสุดท้ายของนูต กันเรย์

ไม่นานหลังจากที่ทำการบุกวิหารเจไดสำเร็จเขาก็กลับไปหาอาจารย์ของเขาเพื่อคำสั่งต่อไป ซีเดียสได้สั่งารให้เวเดอร์เดินทางไปยังมุสตาฟาร์ที่ซึ่งเขาต้องไปสังหารสภาแบ่งแยกดินแดนและนำสันติมาสู่จักรวรรดิใหม่ เวเดอร์รับคำสั่ง ก่อนที่เขาจะเดินทางเขาไปพบอมิดาล่า และเล่าให้เธอฟังถึงภารกิจของเขาที่ต้องไปยุติสงคราม เมื่อเขากำลังจากไป เวเดอร์กล่าวว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมและบอกให้เธออย่าไปไหน

เวเดอร์เดินทางสู่มุสตาฟาร์และใช้รหัสของซีเดียสเพื่อผ่านการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายแบ่งแยกดินแดน เวเดอร์ทิ้งอาร์ทูดีทูให้รอที่ยานเพื่อให้ไม่มีใครบันทึกการกระทำของเขา เขาได้เข้าไปที่ห้องซึ่งผู้นำฝ่ายแบ่งแยกดินแดนอยู่ข้างในและปิดประตูทุกบานลงเพื่อไม่ให้สมาชิกคนใดหนีรอดออกไป ในตอนแรกผู้นำมากมายตอนรับเขาอย่างดีก่อนที่พวกเขาจะจำหน้าของเขาได้ ด้วยความตกใจเวเดอร์เริ่มทำการสังหารหมู่สภาแบ่งแยกดินแดน

หลังจากที่สังหารเหล่าสมาชิกทั้งหมดเขาก็หันไปที่คนสุดท้าย นูต กันเรย์ อดีตพันธมิตรของซีเดียสผู้ที่ได้ทำการรุกรานนาบูก่อนที่จะถูกเอาชนะโดยสกายวอล์คเกอร์เมื่อสิบสามปีก่อน ก่อนที่เขาจะตายกันเรย์ร้องของต่อเวเดอร์โดยอ้างว่าลอร์ดซีเดียสให้สัญญาพวกเขาถึงความสงบสุข อย่างไรก็ตามเวเดอร์ก็สังหารเขาโดยกล่าวว่าลอร์ดซีเดียสบอกว่าให้เขาตายอย่างสงบต่างหาก ภารกิจของเขาเสร็จสมบูรณ์และซิธลอร์ดก็ออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร

ที่ด้านนอกขณะเขากำลังมองภูมิประเทศภูเขาไฟที่ระเบิดออก และแสงอาทิตย์ที่น้อยนิดเต็มที อนาคินเสียใจกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไป เพราะเขารู้ดีว่ามันผิด และเขารู้ดีว่าตนได้มาไกลเกินจะถอยกลับแล้ว ความรู้สึกที่ไม่อาจซ่อนได้ไหลออกมาเป็นน้ำตาหยดสุดท้าย ขณะที่เขาคิดเช่นนั้นเขาก็จำได้ถึงคำสั่งของอาจารย์ให้รายงานทันทีเมื่อศัตรูพ่ายแพ้

การประลองบนมุสตาฟาร์และผลสืบเนื่อง

"รักไม่ได้ช่วยเจ้า แพดเม่ มีเพียงพลังใหม่ของข้าเท่านั้นที่ทำได้"
"แต่มันต้องแลกด้วยอะไรล่ะ ตัวตนเจ้า เจ้าเป็นคนดีอย่าทำแบบนี้เลย!"— ดาร์ธ เวเดอร์พูดกับแพดเม่ อมิดาล่า

ไฟล์:Anakinchoke.jpgเวเดอร์ใช้พลังบีบคอกับแพดเม่

เมื่อเขาพบอมิดาล่าอีกครั้งเวเดอร์ก็พบว่าเคโนบีได้บอกถึงการกระทำอันเลวร้ายของเขาที่วิหารเจไดต่อเธอ และว่าเขายอมรับทุกข้อกล่าวหา อมิดาล่าพยายามที่จะใช้เหตุผลกับเขา กล่อมให้เขาถอนตัวจากสาธารณรัฐและไปดูแลลูกกับเธอแต่เวเดอร์ตอบกลับด้วยความคิดที่จะโค่นล้มพัลพาทีน เธอตกใจและหวาดกลัว อมิดาล่าปฏิเสธโดยกล่าวว่าเขาได้เดินไปบนทางที่เธอไม่สามารถตามไปได้ เธอร้องขอให้เขากลับมาโดยสัญญาว่าเธอจะรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง แต่อมิดาล่าไม่ได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเคโนบีที่ด้านหลังของยานเพื่อเผชิญหน้ากับเวเดอร์

เมื่อเห็นโอบีวัน อนาคินเลยเข้าใจผิดว่าอมิดาล่าได้ทรยศ และพาเคโนบีมาที่นี่เพื่อฆ่าเขา ด้วยความโกรธ และเสียใจ เขาเสียสติบีบคอภรรยาของเขาจนหมดสติและโทษเคโนบีว่าเป็นตัวต้นเหตุให้นางทรยศตนแต่เคโนบีกลับบอกเขาว่าเป็นเพราะตัวเองต่างหาก เคโนบียังพยายามใช้เหตุผลกับอดีตศิษย์ของเขาแต่เวเดอร์ไม่ยอมฟัง

"ท่านทำให้นางต่อต้านข้า!"
"เจ้าทำเองต่างหากล่ะ"
"ท่านเอานางไปจากข้าไม่ได้"
"ความโกรธและความกระหายอำนาจของเจ้าต่างหากที่เอานางไป เจ้ายินยอมให้ดาร์ธลอร์ดบิดเบือนใจเจ้าในตอนนี้ และตอนนี้เจ้าได้กลายเป็นผู้ที่เคยสาบานว่าจะทำลาย..."
"ไม่ต้องมาสอนข้าโอบีวัน ข้ารู้คำลวงของเจได ข้าไม่ได้กลัวความมืดอย่างที่ท่านกลัวเลย ข้าได้นำสันติ เสรีภาพ ความยุติธรรม และความมั่นคงมาสู่จักรวรรดิใหม่ของข้า!"
"จักรวรรดิใหม่ของเจ้าเหรอ"
"อย่าทำให้ข้าต้องฆ่าท่านน่ะ"
"อนาคิน ความภักดีของข้ามีต่อสาธารณรัฐ ต่อประชาธิปไตย!"
"ถ้าไม่ร่วมมือกับข้า ท่านก็คือศัตรู"
"ซิธเท่านั้นที่คิดแบบเผด็จการ ข้าจะทำสิ่งที่ข้าต้องทำ"
"ก็ลองดู"— โอบีวัน เคโนบี พูดกับ ดาร์ธ เวเดอร์

เวเดอร์และเคโนบีต่อสู้กันในการดวลที่ดุเดือดตลอดโรงงานทำเหมืองและที่ธารลาวาเบื้องล่างที่ด้านนอก การต่อสู้จบลงในลาวาที่ซึ่งเคโนบีกระโดดขึ้นที่ปลอดภัยและขอให้เวเดอร์หยุดเรื่องนี้ไว้ทั้งหมด และกลับสู่แสงสว่าง แต่ด้วยความโกรธทำให้อนาคินไม่สนใจความเสียเปรียบ และพยายามกระโดดขึ้นไปเพื่อดวลกันต่อ แต่ก็พลาดท่าโดนคมดาบของเคโนบีซึ่งทำให้ขาทั้งสองข้างและแขนซ้ายของเขาถูกตัด

ด้วยร่างกายที่บาดเจ็บและความสามารถทางพลังของเขาที่ลดลงอย่างมาก เวเดอร์พยายามคลานโดยใช้เพียงแขนกลและเวเดอร์กับเคโนบีก็พูดกันไม่กี่ประโยค

"เจ้าเป็นผู้ที่ถูกเลือก เจ้าควรจะทำลายล้างซิธ ไม่ใช่เข้าร่วม! คืนสมดุลสู่พลัง ไม่ใช่ทิ้งไว้ในความมืด!"
"ข้าเกลียดท่าน!"
"เจ้าเคยเป็นน้องข้า อนาคิน ข้ารักเจ้า!"— ดาร์ธ เวเดอร์และเคโนบี

ร่างกายของเขาอย่างสาหัส เขาไม่สามารถที่จะขยับได้จึงไถลลงไปที่ขอบของธารลาวาและถูกไฟคลอก เคโนบีเก็บเอากระบี่แสงของสกายวอล์คเกอร์ขึ้นมาและทิ้งให้เวเดอร์ตาย เขาได้เก็บมันไว้จนกระทั่งถึงปียุทธการยาวินและส่งมอบให้ลุค สกายวอล์คเกอร์ บุตรชายของอนาคิน(แต่ได้หายไประหว่างการประลองที่นครเมฆาและได้มาอยู่ในมือของแมส คานาต้าก่อนจะตกทอดมาถึงเรย์) เมื่อไฟเริ่มมอดลงเวเดอร์ก็รอดด้วยพลังและจิตใจที่เข้มแข็งของเขา เขาปีนขึ้นมาด้วยแขนกลพร้อมกับอาการบาดเจ็บสาหัส

ไม่นานหลังจากนั้นดาร์ธ ซีเดียสที่ตอนนี้ได้กลายเป็นจักรพรรดิคนใหม่ของจักรวรรดิกาแลกติกมาถึง และช่วยเขาเอาไว้ เขานำเวเดอร์กลับสู่คอรัสซังด้วยกระสวยและซ่อมแซมร่างกายของเขา จักรพรรดิสั่งการให้ดรอยด์การแพทย์ทำให้เขายังมีสติตอนที่ทำการผ่าตัดเพื่อที่ให้ความเจ็บปวดเพิ่มความแค้นในตัวตัวโอบีวันกับเขา เทคโนโลยีที่ใช้สร้างร่างกายของเขาเป็นแบบเดียวกับที่ใช้กับนายพลกรีวัส ถึงแม้ว่าเขายังคงทรงพลัง พัลพาทีนก็รู้ว่าการบาดเจ็บของเวเดอร์ได้ลดพลังของเขาไปมาก ทันทีที่เขาฟื้นตัวเป็นไซบอร์กเวเดอร์ก็ถามอาจารย์ของเขาถึงแพดเม่อมิดาล่า ภรรยาของเขา

"แพดเม่อยู่ไหน ปลอดภัยมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า!"
"ดูเหมือนว่าความโกรธทำให้เจ้าฆ่านาง!"
"ข้าไม่ได้ทำ! นางยังไม่ตาย ข้ารู้สึกได้!"— ดาร์ธ เวเดอร์และดาร์ธ ซีเดียส

ไฟล์:A36xo.jpgดาร์ธ เวเดอร์ต้องอยู่ในชุดที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ตลอดชีวิตที่เหลือของเขา

ชีวิตของเขาเหมือนตายทั้งเป็น เขาสูญสิ้นความหวัง และแสงสว่างทั้งหมดในชีวิต เพราะคิดว่าตนได้ฆ่าแพดเม่ และลูกที่ยังไม่เกิดซึ่งเป็นทุกสิ่งที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เวเดอร์ทำลายดรอยด์การแพทย์และทำให้ทั้งห้องเสียหายด้วยพลัง เขาทำลายการพันธนาการบนโต๊ะและเดินโดยมีเกราะที่หนักแน่นหุ้มตัวเขาอยู่พร้อมตะโกนอย่างเจ็บปวด เขาเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและมีชีวิตอยู่ก็เพื่อรับใช้จักรพรรดิ

เขาเป็นเครื่องจักรมากกว่ามนุษย์ ถูกบิดเบือนและชั่วร้าย— โอบีวัน เคโนบี

เอกลักษณ์ของดาร์ธ เวเดอร์ทำให้สกายวอล์คเกอร์เปลี่ยนไปมากขึ้นเนื่องมาจากร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บมากจนเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขา เกราะของเขาทำให้เขามองเห็นได้น้อยลง เคลื่อนไหวได้ยาก และสร้างความหงุดหงิดให้กับเวเดอร์อย่างมากในช่วงแรก แต่ในที่สุดเขาก็กลับมาต่อสู้ได้อีกโดยเปลี่ยนรูปแบบไปเพื่อทดแทนการเคลื่อนที่อันบกพร่องของเขา ในฐานะดาร์ธ เวเดอร์ สกายวอล์คเกอร์กลายมาเป็นของล้ำค่าของจักรวรรดิโดยทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกฎ นักล่าเจได และจอมพลเรือในระเบียบใหม่ของพัลพาทีน

รับใช้จักรพรรดิ

เจ้าไม่อาจหยั่งรู้ถึงพลังอำนาจของด้านมืด ข้าต้องเชื่อฟังนายข้า— เวเดอร์พูดกับลูกชายของเขา

ไม่นานหลังจากจักรวรรดิได้ถือกำเนิดเวเดอร์ก็ได้รับมอบหมายให้ตามหาวัตถุโบราณของซิธที่เรียกกันว่า เครื่องรางเมอเออ หลังจากที่ได้ซักถามแจงค์สเขาก็ได้รู้ถึงลังลึกลับที่ยานของเขากำลังบรรทุก เวเดอร์ได้เข้าขัดขวางการแลกเปลี่ยนโดยทำการติดต่อกับเฟน เพทัวริ นักประวัติศาตร์ที่มีชื่อเสียง เวเดอร์มองหาสิ่งที่บรรจุเครื่องรางและเจไดผู้ที่สวมใส่มันอยู่ชื่อเซเลส มอร์น เมื่อเธอพบว่าซิธกำลังครองกาแลกซี่เธอก็เข้าโจมตีเขาในทันที เวเดอร์บอกให้เธอมาเป็นศิษย์ของเขา แต่ก็ปล่อยให้เขาถูกครอบครองโดยวิญญาณของคาร์เนส เมอเออโดยไม่ได้ตั้งใจ เซเลสเปลี่ยนให้มนุษย์ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงกลายเป็นตัวแรกกูลทำให้เขาต้องหนีไป เวเดอร์หน่ายกับการแย่งเครื่องรางโดยคำนึงว่าหากเขาต้องใช้มันเพื่อทำลายพัลพาทีน

หนึ่งปีต่อมาขณะที่เขากำลังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บเวเดอร์ถูกบังคับให้กลับไปที่วิหารเจไดบนคอรัสซัง เขามาพบว่าผู้สืบสวนชื่อมาโลรัมมีปัญหากับผู้บุกรุก เวเดอร์หัวเราะเยาะมาโลรัมที่มีปัญหาในการจับตัวผู้บุกรุก เวเดอร์แนะนำให้มาโลรัมระเบิดวิหารเสียเพื่อให้แน่ใจว่าผู้บุกรุกตายแน่นอน ถึงแม้ว่าเขารู้ดีว่าผู้สืบสวนจะไม่แม้แต่พยายามทำมัน ทั้งสองยังทะเลาะกันเรื่องที่มาโลรัมไม่สามารถจัดการกับกองกำลังต่อต้านได้ เมื่อมาโลรัมกล่าวถึงสิ่งที่เขารู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นที่โพลิสแมสซา ซิธลอร์ดก็โมโหและใชัพลังบีบคอใส่เขาด้วยความโกรธ ผลของการที่มาโลรัมล้มเหลวในการจับผู้บุกรุก เวเดอร์ปล่อยให้ทั้งสองคนรอดตัวไป

ในปีเดียวกันเวเดอร์ได้เดินทางไปยังคาชีคเพื่อหาเจไดชื่อเคนโต เวเดอร์รู้สึกถึงบางคนที่ทรงพลังอยู่ในบริเวณอันใกล้โดยเชื่อว่านั่นคืออาจารย์ของเคนโต แต่กระบี่แสงของเขาถูกดึงออกจากตัวโดยลูกชายของเคนโต เขาหักคอของเจไดและสังหารสตอร์มทรูปเปอร์ที่พบเห็นเด็กชาย เขานำเด็กชายไปเลี้ยงและฝึกเขาอย่างลับๆ ให้เป็นศิษย์ของเขาโดยมีชื่อรหัสว่าสตาร์คิลเลอร์ ผู้ซึ่งต่อมาได้รับมอบหมายให้ตามล่าและทำลายผู้ทรยศและเจไดที่รอดชีวิต ศิษย์คนนี้เป็นส่วนหนึ่งในการหลอกล่อให้ศัตรูของพัลพาทีนเผยตัวออกมา

ไม่นานหลังจากนั้นเวเดอร์ได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้ไปที่ดาวซามาเรียที่ซึ่งได้เกิดจากก่อวินาศกรรมกับระบบคอมพิวเตอร์ที่นั่นจนเกิดความวุ่นวาย ขณะที่หาต้นตอของการก่อวินาศกรรมเขาก็ตรงเข้าหาเฟอรัส โอลินอีกครั้ง คนเดียวกับที่อยู่ในเหตุการณ์ที่วิหารเจไดก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามครั้งนี้โอลินได้รับการปกป้องจากจักรพรรดิและไม่สามารถถูกจับได้ หลังจากการพบกันครั้งนี้เวเดอร์ก็มีเรื่องมากมายให้คิด

ช่วงหนึ่งต่อมาเวเดอร์ได้รับหน้าที่ให้ไปที่กองกำลังรักษาการณ์บนเบลลาสซา อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาจัดการกับโรอัน แลนด์ส หนึ่งในกลุ่มต่อต้านและหนึ่งในผู้ทรยศของโอลิน จักพรรดิเข้ามายุ่งในนามของโอลินและสั่งการใหม่ให้เวเดอร์ก่อกวนกองกำลังรักษาการที่กำลังทำงานก่อสร้างในภูเขาบนเบลลาสซาภารกิจแรกๆ ของเวเดอร์มากมายถูกสั่งมาจากจักรพรรดิโดยตรง ภารกิจเหล่านี้ยังรวมทั้งการลงโทษโคลนคอมมานโดผู้ที่ขัดต่อคำสั่งที่ 66 บนเมิกฮานาสังหารกลุ่มอัศวินเจไดที่พยายามวางกับดักเขาบนเคสเซล เข้าจับกุมวุฒิสมาชากฝ่ายค้านแฟง ซาร์บนอัลเดอราน และเดินทางสู่คาชีคเพื่อจับชาววูคกี้มาเป็นทาสหลังจากที่เขาตามหาเจไดที่นั่น ภารกิจที่มีชื่อเสียงคือบนดาวโฮโนกห์โดยเป็นการกวาดล้างสารพิษของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนที่หลงเหลือมาจากสงครามโคลน เขาให้สัญญากับชาวนอกริพื้นเมืองว่าจักรวรรดิจะรื้อฟื้นระบบนิเวศน์ของพวกเขาให้กลับมาเหมือนเดิมหากว่าพวกเขายอมทำหน้าที่เป็นมือสังหารให้กับจักรวรรดิ

เวเดอร์มักใช้ยานแอคติสของเขาบางครั้งในช่วงภารกิจแรกๆ ในขณะที่การกวาดล้างเจไดยังคงดำเนินต่อไป บางครั้งก็จะมียานขับไล่ วี-วิงบินประกบข้าง ยานประจำตัวของเขาก็คือยานพิฆาตดารา อิมพีเรียล เฟิร์ส-คลาสเอ็กซ์แซกเตอร์ภารกิจส่วนมากของเวเดอร์คือการตามล่าและสังหารเจไดที่รอดชีวิตจากคำสั่งที่ 66 หนึ่งในนั้นก็คือเอ็มพาโทจายอส แบรนด์ผู้ซึ่งถูกบังคับให้ใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อหลบซ่อนจากเวเดอร์ ต่อมาเขาได้ตามล่าเจไดสามคนที่หายไปบนดาวเมิกฮานา อย่างไรก็ตามเป้าหมายหลักของเขาก็คือโอบีวัน เคโนบี เคโนบีนั้นรอดก็เพราะเขาอยู่บนทาทูอีน สถานที่ที่เวเดอร์ไม่กล้ากลับไปเพราะกลัวว่ามันจะฟื้นความหลังในตอนที่เขายังเป็นอนาคิน สกายวอล์คเกอร์

ถึแม้ว่าจะมีอำนาจและร่ำรวยเวเดอร์ก็ไม่เคยทำให้ตัวเองสบาย เขามีที่พักเพียงบนคอรัสซังและปราสาทบาสท์บนดาววีจูน กองทหารที่ 501 เป็นกองสตอร์มทรูปเปอร์ที่นำการกวาดล้างเจไดในวิหารเจไดได้กลายมาเป็นองครักษ์ส่วนตัวของเขา การกระทำของพวกเขาทำให้พวกเขาได้ชื่อเล่นว่า "กำปั้นของเวเดอร์"

17 ปีก่อนยุทธการยาวินเวเดอร์ได้นำโครงการวิจัยบนฟอลลีน เขาสนใจในการสร้างอาวุธชีวภาพ อย่างไรก็ตามมันก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซึ่งทำให้ทั่วบริเวณต้องติดเชื้อ ด้วยการระมัดระวังไว้ก่อนเวเดอร์ได้กั้นขอบเขตเอาไว้ซึ่งรวมทั้งการทำลายชาวฟอลลีนกว่า 200,000 ชีวิตรวมทั้งครอบครัวของเจ้าชายไซซอร์ ในสายตาของจักรพรรดิการตายของชาวฟอลลีนเหล่านี้เป็นแค่ราคาถูกๆ เท่านั้น เพื่อป้องกันชีวิตอีกนับล้านบนดาวและดาวใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: อนาคิน_สกายวอล์คเกอร์ http://i.imgur.com/18WeFBs.jpg http://www.starwars.com/databank/ http://www.starwars.com/databank/anakin-skywalker http://www.starwars.com/databank/bail-organa http://www.starwars.com/databank/beru-lars http://www.starwars.com/databank/character/anakins... http://www.starwars.com/databank/cliegg-lars http://www.starwars.com/databank/darth-vader http://www.starwars.com/databank/luke-skywalker http://www.starwars.com/databank/owen-lars