ผลกระทบ ของ อสุรกายดงดิบ

การวัดระดับผู้ชม

การจัดอันดับในสหรัฐอเมริกา (วัดจากการวัดระดับผู้ชมเฉลี่ย ผู้ชมรวมต่อตอน รวมถึงตอนรีรัน ทางช่องเอบีซี

ฤดูกาลเวลา (EDT)ตอนปฐมทัศน์ของฤดูกาลตอนจบของฤดูกาลฤดูกาลของโทรทัศน์อันดับผู้ชม
(ล้าน)
ฤดูกาลที่ 1วันพุธ 20.00 น. (22 กันยายน ค.ศ. 2004–25 พฤษภาคม ค.ศ. 2005)22 กันยายน ค.ศ. 200425 พฤษภาคม ค.ศ. 20052004–2005#1515.69[82]
ฤดูกาลที่ 2วันพุธ 21.00 น. (21 กันยายน ค.ศ. 2005–24 พฤษภาคม ค.ศ. 2006)21 กันยายน ค.ศ. 200524 พฤษภาคม ค.ศ. 20062005-2006#1515.50[83]
ฤดูกาลที่ 3วันพุธ 21.00 น. (4 ตุลาคม ค.ศ. 2006–8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2006)
วันพุธ 22.00 น. (7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007–23 พฤษภาคม ค.ศ. 2007)
4 ตุลาคม ค.ศ. 200623 พฤษภาคม ค.ศ. 20072006–2007#1415.05[84]
ฤดูกาลที่ 4วันพฤหัสบดี 21.00 น. (31 มกราคม ค.ศ. 2008–20 มีนาคม ค.ศ. 2008)
วันพฤหัสบดี 22.00 น. (24 เมษายน ค.ศ. 2008–29 พฤษภาคม ค.ศ. 2008)
31 มกราคม ค.ศ. 200829 พฤษภาคม ค.ศ. 20082008#1713.40[85]
ฤดูกาลที่ 5วันพุธ 21.00 น. (21 มกราคม ค.ศ. 2009–13 พฤษภาคม ค.ศ. 2009)21 มกราคม ค.ศ. 200913 พฤษภาคม ค.ศ. 20092009#2810.94[86]
ฤดูกาลที่ 6วันอังคาร 21.00 น. (2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 – 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2010)2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 201023 พฤษภาคม ค.ศ. 20102010#2512.26[87]

ตอนเปิดตัวของเรื่องมีผู้ชม 18.6 ล้านคน ชนะสำหรับช่วงเวลา 21.00 น. (เวลาฝั่งตะวันออกและฝั่งแปซิฟิก) และทำให้สถานีเอบีซีได้รับระดับผู้ชมแข็งแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2000 เมื่อ Who Wants to Be a Millionaire? เริ่มออกอากาศ แต่ก็ถูกทำลายสถิติต่อมาหลังจากการปฐมทัศน์ Desperate Housewives จากนิตยสาร วาไรอิตี เขียนไว้ว่า "เอบีซี สามารถประสบความสำเร็จกับแนวดราม่า ที่ไม่ได้นิยมมาตั้งแต่ The Practice และ อสุรกายดงดิบ ก็เป็นตัวแทนในการเริ่มต้นที่ดีของสถานีสำหรับแนวดราม่า กับผู้ชมกลุ่ม 18-49 ปี ตั้งแต่เรื่อง Once and Again ในปี 1999 และกับยอดผู้ชมรวมเหมือนใน Murder One ตั้งแต่ปี 1995"[88]

สำหรับในฤดูกาลแรก อสุรกายดงดิบ มีผู้ชมเฉลี่ย 16 ล้านคน ติดอันดับ 14 ของยอดคนดูในช่วงรายการไพรม์ไทม์ และติดอันดับ 15 ของกลุ่มสถิติคนดู 18-49 ปี[89] ในฤดูกาลที่ 2 ก็ได้รับความนิยมพอ ๆ กัน ติดอันดับ 14 กับยอดผู้ชมเฉลี่ย 15.5 ล้านคน อย่างไรก็ตามเพิ่มกลุ่มคนดูในช่วง 18-49 ปี เป็นอันดับที่ 8[90] ตอนปฐมทัศน์ของฤดูกาลที่ 2 มีผู้ชมมากกว่าฤดูกาลแรก คือที่ 23 ล้านคนและถือเป็นสถิติใหม่ของรายการซีรีส์[91] ตอนปฐมทัศน์ฤดูกาลที่ 3 มีผู้ชม 18.8 ล้านคน และตอนที่ 7 ของฤดูกาลนี้ หลังจากเว้นห่างการออกฉายไปนาน 3 เดือน ก็มีผู้ชมหล่นไปที่ 14.5 ล้านคน พอจบฤดูใบไม้ผลิ ความนิยมตกไปเหลือผู้ชมเพียง 11 ล้านคน ก่อนที่จะกลับมาที่ 14 ล้านคนในตอนสุดท้ายของฤดูกาล กระแสนิยมตกไปบางส่วน โดยได้รับคำอธิบายจากนีลเซ็นเรื่องการวัดอันดับความนิยมเรื่องเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิตอล ที่แสดงให้เห็นว่า อสุรกายดงดิบ เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่มีคนบันทึกเก็บไว้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผลรวมทั้งหมด อสุรกายดงดิบ ก็ยังชนะในชั่วโมงของกลุ่มผู้ชม 14-49 ปี อย่างดี และเหนือสูงสุดของกลุ่ม 18-49 ในช่วงเวลา 22.00 น. มากกว่ารายการใดและทุกสถานีของฤดูกาลนั้น ส่วนตอนปฐมทัศน์ฤดูกาลที่ 4 มียอดผู้ชมมากขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนหน้าคือที่ 16.1 ล้านคน[92] แต่ในตอนที่ 8 ของฤดูกาล ผู้ชมลดลงไปต่ำลงเหลือ 11.461 ล้านคน[93] และจากการสำรวจใน 20 ประเทศโดยอินฟอร์มาเทเลคอมส์แอนด์มีเดีย ในปี 2006 สรุปได้ว่า อสุรกายดงดิบ ถือเป็นรายการโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศเหล่านี้ รองจาก CSI: Miami[94] ตอนปฐมทัศน์ของฤดูกาลที่ 6 มียอดผู้ชมมีตัวเลขที่มีการเปลี่ยนแปลงไต่ขึ้นสูงนับตั้งแต่ฤดูกาลที่ 2 มียอดผู้ชม 12.1 ล้านคน[95]

รางวัล

จากความสำเร็จของฤดูกาลแรก อสุรกายดงดิบ ได้รับรางวัลเอมมีในสาขาซีรีส์ประเภทดราม่า และเจ.เจ. แอบรัมส์ ได้รับเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2005 สำหรับผลงานการกำกับในตอนแรกของซีรีส์ ส่วนเทอร์รี โอ'ควินน์ และนาวีน แอนดรูวส์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงสมทบสำหรับซีรีส์ประเภทดราม่า อสุรกายดงดิบ ได้รับรางวัลสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา ในปี 2005 สำหรับความสำเร็จอันโดดเด่นในเรื่องการเขียนบทสำหรับซีรีส์ทางโทรทัศน์ประเภทดราม่า รางวัลสมาคมผู้สร้างปี 2005 ในสาขาการผลิตยอดเยี่ยม รางวัลสมาคมผู้กำกับในสาขางานกำกับยอดเยี่ยมสำหรับรายการโทรทัศน์ประเภทดราม่าปี 2005 และรางวัลของสมาคมนักแสดงอาชีพแห่งอเมริกา สาขากลุ่มนักแสดงยอดเยี่ยม

แมททิว ฟอกซ์และนาวีน แอนดรูวส์ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประเภทซีรีส์ดราม่าและนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมตามลำดับ และในปี 2005 อีแวนเจไลน์ ลิลลี ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมประเภทซีรีส์โทรทัศน์ประเภทดราม่า อสุรกายดงดิบ ได้รับรางวัลบาฟต้าในสาขารายงานนำเข้าอเมริกัน ในปี 2006 ฮอร์เฮ การ์ซีอาและมิเชลล์ ร็อดริเกซ ได้รับรางวัลอัลมาในสาขานักแสดงสมทบชายและนักแสดงสมทบหญิง ตามลำดับ ในประเภทซีรีส์โทรทัศน์ แล้วยังได้รับรางวัลแซตเทิร์น ในสาขาซีรีส์โทรทัศน์ยอดเยี่ยมทั้งในปี 2005 และ 2006 เทอร์รี โอ'ควินน์ยังรับรางวัลแซตเทิร์นในปี 2005 ในสาขานักแสดงชายสมทบประเภทซีรีส์โทรทัศน์ และในปี 2006 แมททิว ฟอกซ์ ได้รับรางวัลในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

อสุรกายดงดิบ ได้รับรางวัลต่อเนื่องจากรางวัลสมาคมวิจารณ์โทรทัศน์ ในสาขาความประสบความสำเร็จอันโดดเด่นประเภทดราม่า ทั้งในฤดูกาลแรกและฤดูกาลที่ 2 ต่อเนื่องกัน เช่นเดียวกับได้รับรางวัลกลุ่มวิชวลเอฟเฟกต์ในปี 2005 และ 2006 ในสาขาเทคนิคพิเศษด้านภาพอันโดดเด่นประเภทรายการออกอากาศ มัลคอล์ม เดวิด เคลลีย์ ได้รับรางวัลยังอาร์ติส สำหรับการแสดงในบท วอลต์ ในปี 2006 อสุรกายดงดิบ ยังได้รับการลงคะแนนเสียงในปี 2005 จากนิตยสารเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี ในหัวข้อสิ่งบันเทิงแห่งปี และยังได้รับรางวัลปริซึม 2005 สำหรับเนื้อเรื่องการติดยาของชาร์ลี ในตอน "Pilot", "House of the Rising Sun", และ "The Moth" นอกเหนือจากนั้นยังได้รับการเสนอชื่อในรางวัลสมาคมนักเขียนและสมาคมผู้สร้างอีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 แต่ไม่ได้รับรางวัล ต่อมาเดือนมิถุนายน 2007 อสุรกายดงดิบ เอาชนะรายงานที่เข้าชิง 20 รายการจากหลายประเทศทั่วโลก ชนะในสาขารางวัลปีประเภทดราม่ายอดเยี่ยม ที่จัดขึ้นที่เทศกาลโทรทัศน์มอนเตคาร์โล ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 ทั้งไมเคิล อีเมอร์สันและเทอร์รี โอ'ควินน์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมีสาขานักแสดงสมทบประเภทซีรีส์ดราม่า ผู้ที่ได้รับรางวัลครั้งนี้คือ โอ'ควินน์[96] อสุรกายดงดิบ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกครั้งประเภทซีรีส์ดราม่า ในงานไพรม์ไทม์เอมมี ครั้งที่ 60 ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอมมีอีก 7 รายชื่อ รวมถึงสาขานักแสดงสมทบประเภทซีรีส์ดราม่า ในการแสดงของไมเคิล อีเมอร์สัน[97]

คำวิจารณ์

อสุรกายดงดิบ ติดอันดับ 1 ในหัวข้อ "สุดยอดการรายงานรายการโทรทัศน์: 10 อันดับแรกของนักวิจารณ์" โดยแมททิว กิลเบิร์ตแห่ง เดอะบอสตันโกลบ ทอม เกลียตโตแห่ง พีเพิลวีกลี ชาร์ลี แม็กคอลัมแห่ง แซนโฮเซเมอร์คิวรีนิวส์ และโรเบิร์ต บีแอนโกแห่ง ยูเอสเอทูเดย์[98] เจมส์ โพนีวอซิกแห่ง นิตยสารไทม์ ให้เป็น 1 ใน 10 ของซีรีส์ที่กลับมาแห่งปี 2007 ที่อันดับ 2[99] ในปีนั้น อสุรกายดงดิบ ติดในการจัดอันดับของ นิตยสารไทม์ ในหัวข้อ 100 โชว์ที่ดีที่สุดตลอดกาล[100] ยังติดอันดับ 5 ของ นิตยสารเอมไพร์ ในหัวข้อ 50 รายการโทรทัศน์ที่ดีที่สุดตลอดกาล[101] บิล คาร์เตอร์ ผู้รายงานข่าวรายการโทรทัศน์ของ เดอะนิวยอร์กไทมส์ กล่าวว่า "รายการนี้บางทีอาจมีเส้นเรื่องที่ดึงดูดน่าสนใจโดยตลอดมากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการโทรทัศน์"[102] และจากการเปิดตัวอันแข็งแรง รอยเตอร์สก็ตั้งชื่อเล่นให้ว่า "ดราม่าสุดฮิต" และกล่าวว่า "รายการปรากฏผลกำไรในทุกตลาดอย่างแรงและรวดเร็ว ที่รวมถึงโฆษณาทางวิทยุ การฉายรอบพิเศษ และการโฆษณาครั้งแรกบนป้ายบิลบอร์ด ในรอบ 5 ปีของเอบีซี"[103]

ในส่วนของตอนแรก ๆ ในฤดูกาลที่ 3 ได้รับเสียงวิจารณ์ว่าเพิ่มประเด็นปริศนามากเกินไป[104] แต่ก็ไม่ได้ให้คำตอบที่เพียงพอด้วย[105] และจะมีเสียงบ่นเกี่ยวกับเวลาที่จำกัดของตัวละครหลักในตอนแรก ๆ[106] ตัวละครล็อก ที่แสดงโดยเทอร์รี โอ'ควินน์ เป็นหนึ่งในตัวละครที่ปรากฏมากที่สุดในฤดูกาลที่ 2 เมื่อนับจากจำนวนตอน แต่ปรากฏตัวเพียง 13 ใน 22 ตอนของฤดูกาลที่ 3 และมีเพียงตัวละครแขกรับเชิญอย่าง เอ็ม.ซี. เกนีย์ รับบทเป็นทอม กับตัวละครใหม่ 2 ตัว นิกกี้กับเปาโล ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ด้านลบ ลินเดลอฟก็ยอมรับว่าคู่นี้ "ถูกเกลียดโดยถ้วนหน้า" โดยแฟน ๆ[107] การตัดสินใจที่แยกฤดูกาลฉายออก[108] และการสลับช่วงเวลาฉายหลังจากห่างหายไป ก็ถูกวิจารณ์ด้วยเช่นกัน[109] คิวส์ยอมรับว่า "ไม่มีใครรู้สึกสบายใจที่ฉายอยู่ 6 ตอน"[110] ส่วนที่ 2 ของฤดูกาลได้รับเสียงชื่นชมกลับมา[111]ที่ทีมงานเจอปัญหาในส่วนแรกของฤดูกาล[112] และมีคำตอบเปิดเผยมากขึ้นในรายการ[113] และนิกกี้กับเปาโลก็ถูกกำจัดออกไป[114] มีการประกาศออกมาว่าซีรีส์จะจบใน 3 ฤดูกาล หลังจากในฤดูกาลที่ 3[115] คิวส์ก็หวังจะบอกคนดูว่า ผู้เขียนบทจะทำให้เรื่องจบลงตรงไหน[116]

ดอน วิลเลียมส์แห่ง บัดดีทีวี กล่าวว่าตอน "The Beginning of the End" ซึ่งเป็นตอนแรกของฤดูกาลที่ 4 เป็นตอนปฐมทัศน์ของฤดูกาลที่ถูกคาดหวังแห่งปี[117] ไมเคิล ออซีลโล แห่งทีวีไกด์ เรียกชั่วโมงสุดท้ายของฤดูกาลที่ 4 ว่า "60 นาทีที่ถูกคาดหวังที่สุดในรายการโทรทัศน์แห่งปี"[118] นักวิจารณ์ชาวอเมริกันได้รับดีวีดีภาพตัวอย่างตอน "The Beginning of the End" และ "Confirmed Dead" เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2008 ก่อนออกฉายจริง[119] เมตาคริติก ให้ฤดูกาลนี้เป็น "เมตาสกอร์" ที่คะแนน 87 คะแนน วัดจากค่าเฉลี่ยของความพอใจของนักวิจารณ์ 12 คน[120] ถือว่าได้เมตาสกอร์สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของฤดูกาลโทรทัศน์ปี 2007-2008 ตามหลังตอนที่ 5 และตอนสุดท้ายของซีรีส์ทางเอชบีโอเรื่อง The Wire[121] และจากการสำรวจของ ทีวีวีก จากนักวิจารณ์มืออาชีพ อสุรกายดงดิบ ได้รับคะแนนเสียงให้เป็นรายการโทรทัศน์ที่ดีที่สุดในครึ่งปีแรกของปี 2008 ด้วยคะแนนทิ้งห่าง "เห็นได้ชัดว่าติด 1 ใน 5 ของแทบทุกนักวิจารณ์" และ "ไม่มีอะไร แต่ชื่นชม"[122] จากการประกาศเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 เรื่องการจบของซีรีส์ในปี 2010 และการแนะนำส่วนที่ย้อนกลับไปของเรื่องได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมจากนักวิจารณ์[123] ขณะที่มีตัวละครใหม่เพิ่ม[124]

ความคลั่งไคล้และวัฒนธรรมสมัยนิยม

ในเรื่องความเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีคนชื่นชอบ อสุรกายดงดิบ ได้สร้างสังคมของกลุ่มแฟนในระดับนานาชาติ กลุ่มแฟนซีรีส์ อสุรกายดงดิบ ในบางครั้งจะตั้งฉายาตัวเองว่า ลอสต์อะเวย์ส (Lostaway)[125] หรือ ลอสตีส์ (Losties)[126] พวกเขาเหล่านี้ได้รวมตัวกันในงานคอมิกคอนอินเตอร์เนชันแนล จัดขึ้นโดยเอบีซี[126][127] และยังคงร่วมกันอย่างแข็งขัน พัฒนาเว็บไซต์แฟนอย่างมากมาย รวมถึงเว็บ ลอสต์พีเดีย ที่เป็นฟอรัมพูดคุยเกี่ยวกับรายการรวมถึงเรื่องใกล้เคียง[128][129][130][131] และด้วยที่รายการมีเรื่องราวลึกลับ หลายแฟนไซต์จึงมุ่งประเด็นเรื่องการพิจารณา ทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่องความลึกลับของเกาะ เช่นเดียวกับมีกิจกรรมของแฟน ๆ อย่างเช่นเขียนเรื่องแต่งจากแฟน วิดีโอแต่ละตอน ตัวละคร และเรื่องน่าจดจำในซีรีส์

จากความสนใจของบรรดาแฟนและความพยายามให้กลุ่มคนดูมีความสนใจต่อเนื่อง เอบีซีได้เริ่มดำเนินการข้ามลงไปในสื่ออย่างมาก โดยมักใช้สื่อใหม่ อย่างเช่นเว็บไซต์ต่อยอดที่ผลิตโดยเอบีซี วรรณกรรมต่อยอดจากเรื่อง ฟอรัมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการสนับสนุนโดยทีมสร้างสรรค์เบื้องหลังของ อสุรกายดงดิบ ("เดอะฟิวส์เลจ") "โมบิโซด" ที่แจกจ่ายโดยทีมโปรดิวเซอร์ นิตยสารอย่างเป็นทางการ เกม (เออาร์จี) "เดอะลอสต์เอกซ์พีเรียนซ์"[130][132] นอกจากนั้นยังได้เปิดเว็บไซต์แฟนคลับอย่างเป็นทางการ เปิดเมื่อฤดูร้อนปี 2005 ผ่านทางครีเอชันเอนเตอร์เทนเมนต์[126]

เนื่องจากความนิยมในซีรีส์ ทำให้มีการอ้างถึงซีรีส์และองค์ประกอบจากเรื่องไม่ว่าจะปรากฏในแนวล้อเลียนหรือการนำไปใช้ในวัฒนธรรมสมัยนิยม รวมถึงการปรากฏในรายการโทรทัศน์อื่น อย่างเช่นซีรีส์ Veronica Mars, Will & Grace, Bo Selecta, The Sarah Silverman Program, My Wife And Kids, Chuck, Curb your Enthusiasm, Notes from the Underbelly และ The Office เช่นเดียวกับในการ์ตูนอย่าง Family Guy, American Dad!, South Park, The Simpsons และ The Venture Bros. หรือแม้กระทั่งในโฆษณาอย่างเคเอฟซี ฮาวาย หรืออย่าง Red vs. Blue การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ที่เหมือนเข้าไปยุ่งกับหนึ่งในตอนจบของเรื่อง ผู้ผลิต Red vs. Blue ใช้ตอนเกริ่นของ อสุรกายดงดิบ มาใช้อีกในตอนของ The Strangerhood และยังเป็นไข่อีสเตอร์ ในวิดีโอเกมของค่ายวาลว์คอร์โปเรชัน ใน Half-Life 2: Episode Two และหมายเลขในเรื่อง 4, 8, 15 และ 16 ก็อยู่บนจอขณะรอข้อมูลในวิดีโอเกม Skate นอกจากนั้นใน World of Warcraft ยังมีหลุมหลบภัยบนเกาะในโชลาซาร์เบซิน ที่หมายเลข 5, 9, 16, 17, 24, 43 ถูกเขียนไว้ (เลขมากกว่าหมายเลขใน อสุรกายดงดิบ อยู่ 1) หนังสือการ์ตูนต่าง ๆ มีเนื้อเรื่องที่อ้างถึง อสุรกายดงดิบ อย่างเรื่อง Catwoman และ The Thing รวมถึง Monty และ Over the Hedge ทั้งการ์ตูนในเว็บไซต์อย่าง Piled Higher and Deeper[133] และ Penny Arcade[134]และนิตยสารขำขันอย่าง Mad เป็นต้น นอกจากนี้วงร็อกหลายวงที่ทำเพลงในธีมและชื่อเพลงที่มาจากตอนในซีรีส์ อย่างเช่นเพลงของวงโมนีน ( เพลงชื่อ "Don't Ever Tell Locke What He Can't Do") วงเซนเซสเฟล (เพลง "Lost And Found" และ "All The Best Cowboys Have Daddy Issues") วงแกตบีส์อเมริกันดรีม (เพลง "You All Everybody" และ "Station 5: The Pearl")

หลังจากตอน "Numbers" ออกอากาศเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2005 มีหลายคนใช้หมายเลขในเรื่อง (4, 8, 15, 16, 23 และ 42) ในการแทงล็อตเตอรี จากข้อมูลของ พิตส์เบิร์จทริบูนรีวิว ระบุว่า ภายใน 30 วัน หมายเลขเหล่านี้มากกว่า 500 ครั้ง[135] นอกไปกว่านั้นในช่วงเวลาเดียวกัน มีคนมากกว่า 200 คนในมิชิแกนเพียงแห่งเดียวใช้เลขนี้ซื้อ เมกามิลเลียนลอตเตอรี[136] และเดือนตุลาคม กว่าพันคนใช้หมายเลขเหล่านี้ในหลายรัฐซื้อพาวเวอร์ลอตเตอรี[137][138]

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: อสุรกายดงดิบ http://www.smh.com.au/news/tv--radio/asking-for-tr... http://www.ctv.ca/servlet/ArticleNews/show/CTVShow... http://abcmedianet.com/pressrel/dispDNR.html?id=05... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=050... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=051... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=053... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=061... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=061... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=062... http://abcmedianet.com/web/dnr/dispDNR.aspx?id=121...