จุดกำเนิด ของ อักษรคุรมุขี

ต้นกำเนิดของอักษรนี้คืออักษรพราหมี อักษรคุรมุขีรุ่นแรกพัฒนามาเป็นอักษรคุปตะเมื่อราว พ.ศ. 900–1300 ตามด้วยอักษรสรทะ เมื่อราว พ.ศ. 1300 สุดท้ายปรับรูปเป็นอักษรสรทะแบบเทวเสศะเมื่อราว พ.ศ. 1500–1900 อักษรคุรมุขีปัจจุบันประดิษฐ์โดยคุรุองค์ที่ 2 ของศาสนาสิกข์คือ คุรุอังกัตเทพ แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าที่จริงแล้วคุรุท่านนี้ได้จัดมาตรฐานของอักษรนี้ใหม่มากกว่า รูปแบบของอักษรคุรมุขีพบในอักษรโบราณตั้งแต่ราว พ.ศ. 1000–1500 แม้แต่คุรุนานักเทพ ก็เคยใช้อักษรแบบอักษรคุรมุขีในงานเขียนของท่าน

คุรุอังกัตเทพปรับปรุงอักษรนี้เพื่อใข้เขียนคัมภีร์ของศาสนาสิกข์ อักษรที่ใช้เขียนภาษาปัญจาบมาก่อนหน้านี้คืออักษรตกริและอักษรลันทะ อักษรลันทะที่แปลว่า “ไม่มีหาง” เป็นอักษรที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันและการค้า แต่ไม่ใช้ในทางวรรณกรรมเพราะไม่มีรูปสระ จึงเป็นเหตุให้ท่านคุรุไม่นำอักษรนี้ไปใช้เพราะจะเกิดปัญหาในการออกเสียง

การที่อักษรนี้ใช้เขียนคัมภีร์ศาสนาสิกข์จึงทำให้มีความสำคัญในทางวรรณกรรมสำหรับชาวสิกข์ อักษรนี้เป็นอักษรราชการของปัญจาบตะวันออก ส่วนปัญจาบตะวันตกใช้อักษรอาหรับดัดแปลงแบบอูรดูเรียกว่า ชาร์มูคีอักษรคุรมุขีมี 35 ตัว 3 ตัวแรกเป็นฐานของเสียงสระไม่ใช่พยัญชนะ และมีพยัญชนะอีก 6 ตัวสร้างขึ้นโดยเติมจุดใต้พยัญชนะเดิม พยัญชนะทุกตัวมีพื้นเสียงเป็นอะ สระลอยคือ อุระ ไอระ และอิริ นอกจากไอระที่ใช้แทนเสียง /อ/ แล้ว ไม่มีรูปพยัญชนะใดที่เขียนโดยไม่มีรูปสระ