ประวัติการทำงาน ของ อัญชะลี_ไพรีรัก

เริ่มต้นชีวิตในวัยทำงานในเส้นทางของนักสื่อสารมวลชน ด้วยการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ และด้วยความที่เป็นนักสื่อสารมวลชนคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในเส้นทางนี้มาถึง 20 ปี ทำให้ อัญชะลี ไพรีรัก ได้ทำงานที่ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ทำข่าวประกวด ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวตลาดหุ้น ข่าวการตลาด จนกระทั่งเป็นผู้ประกาศข่าวทางช่อง 7 สี

ในปี พ.ศ. 2539 ได้เป็นพิธีกรแทนบุญยอด สุขถิ่นไทย ทางรายการ "กู๊ด มอร์นิ่ง บางกอก" ที่ลาหยุดไปเนื่องจากป่วย 2 วัน

อัญชะลี ไพรีรักเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความเป็นนักจัดรายการวิทยุที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างตรงไป ตรงมา และมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซึ่งในตอนนั้นอัญชะลีจัดรายการวิทยุอยู่ที่คลื่น F.M. 96.5 MHz รายการ "จับชีพจรข่าว"

ต่อมาได้ถูกยุติการทำรายการ เนื่องจากถูกแทรกแซงทางการเมืองจากรัฐบาลในสมัยนั้น จึงหันไปจัดรายการเกี่ยวกับผู้หญิงทางช่อง 3 ได้ 2 สัปดาห์[2] ก่อนจะได้รับการเชื้อเชิญจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เจ้าของธุรกิจทีพีไอ ให้มาทำวิทยุคลื่นประชาธิปไตย F.M. 92.25 MHz โดยเป็นผู้ริเริ่ม ทั้งวางผังและจัดรายการเองทั้งหมด แต่ต่อมาก็ถูกแทรกแซงอีกครั้ง จนต้องลาออกมา

จนกระทั่งในต้นปี พ.ศ. 2549 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เริ่มต้นการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างจริงจังแล้ว อัญชะลีจึงได้เข้าร่วมและได้ร่วมจัดรายการบนเวทีและในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร คอนเสิร์ตการเมือง คู่กับยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ในรายการชื่อ "ติดดาบปลายปืน" แต่มิได้เป็นพนักงานในเครือผู้จัดการแต่อย่างใด

หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ได้เดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียได้ระยะหนึ่ง จึงเดินทางกลับมา จากนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 อัญชลีได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน อันเนื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกับแกนนำพรรค แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง

ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 อัญชะลีได้กลับมาร่วมชุมนุมอีกครั้ง โดยเป็นผู้จัดรายการเล่าข่าวตอนเช้าบนเวทีคู่กับกมลพร วรกุล ภายหลังการชุมนุมยุติลงก็ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการเคาะข่าวริมโขงและแขกรับเชิญรายการสภาท่าพระอาทิตย์ทุกวันจันทร์และศุกร์ และมีรายการประจำ ชื่อ "จับตาประเทศไทย" ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ 20.30 - 21.00 น.ทาง เอเอสทีวี เป็นรายการเล่าข่าวทั่วไป

ต่อมา อัญชะลีได้ยุติรายการทั้งหมดทางเอเอสทีวี และสื่อต่าง ๆ ในเครือผู้จัดการหมดแล้ว โดยมีเสียงร่ำลือกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้ออกไปทำงานส่วนตัว และเป็นเลขานุการให้กับ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร [3] ส่วนอีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ได้เป็นบรรณาธิการให้กับนิตยสารท่องเที่ยว[4]

อัญชะลีเคยเป็นผู้จัดรายการ "ร้อยข่าวบลูสกาย" และ "ร้อยข่าวสุดสัปดาห์" ทางบลูสกายแชนแนล

หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 อัญชะลีได้ร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์นิวทีวี ในเครือหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยเป็นผู้ดำเนินรายการ "หมายข่าวนิวทีวี" (ภายหลังเปลี่ยนชื่อรายการเป็น "นิวหมายข่าว") ออกอากาศในช่วงเย็น โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557 [5] ซึ่งจัดมาต่อเนื่องจนกระทั่งอัญชะลีได้ลาออกจากนิวทีวี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561 เพื่อร่วมงานกับเนชั่นทีวี โดยร่วมดำเนินรายการ "เนชั่นทันข่าว" กับศุภโชค โอภาสะคุณ และ สถาปัตย์ แพทอง (ต่อมาเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการร่วมเป็น สันติสุข มะโรงศรี) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ขณะเดียวกัน อัญชะลีกลับมาจัดรายการที่ช่องฟ้าวันใหม่อีกครั้ง ในรายการ "ข่าวคาใจ" ซึ่งมีรายการเทปหนึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีการเข้าจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ (อดีตพระพุทธะอิสระ) และโจมตีบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลที่เห็นด้วยกับการจับกุม เช่น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย (เสก โลโซ) โดยใช้ถ้อยคำหยาบคายและรุนแรง [6] ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องไปยังองค์กรกำกับดูแลให้ดำเนินการทางปกครองกับสถานีที่ออกอากาศ

แหล่งที่มา

WikiPedia: อัญชะลี_ไพรีรัก http://onknow.blogspot.com/2011/02/19-2554.html http://paireerak.hi5.com http://www.positioningmag.com/magazine/details.asp... http://www.posttoday.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%... http://news.sanook.com/1394124/ http://www.thaiindexnews.com/2011/02/19.html http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?Ne... http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.as... http://www.thairath.co.th/content/422825 https://www.youtube.com/watch?v=RebKqBYxybI