ประวัติ ของ อัตเลติโกเดมาดริด

ประวัติในการก่อตั้งสโมสร

สโมสรก่อตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1903[2] ในชื่อ แอทเลติกคลับเดมาดริด โดยนักศึกษาชาวบาสก์ที่อาศัยอยู่ในกรุงมาดริด ได้ลงเล่นนัดแรกอย่างเป็นทางการในนัดที่เจอกับอัตเลติกเดบิลบาโอ[2][3] ในชุดสีน้ำเงินและสีขาว แต่ต่อมาในปี 1911 สโมสรได้ใช้ชุดในสีแดงและขาวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ชุดเหย้าของสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน

สโมสรในยุคปัจจุบัน (2000-ปัจจุบัน)

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 อัตเลติโกเดมาดริดเริ่มกลับมาเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอลสเปนอีกครั้ง หลักจากที่ได้แชมป์เซกุนดาดิบิซิออน ในปี 2002 ในยุคที่ ลุยส์ อาราโกเนส ซึ่งทั้งเคยเป็นตำนานของสโมสรและเป็นผู้จัดการทืมคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จกับสโมสรซึ่งเคยคุมสโมสรตั้งแต่ปี 1974 และเขาก็ได้กลับมาคุมทีมอีกครั้งในปีเดียวกัน เขาได้นำอัตเลติโกเดมาดริดขึ้นมาอยู่ในดิวิชันแรก (ลาลิกาในปัจจุบัน) และเป็นคนที่ให้โอกาสเฟร์นันโด ตอร์เรสได้ลงเล่นในลาลิกาครั้งแรกในชีวิตของเขา ซึ่งเป็นนัดที่พบกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาที่กัมนอว์ และจบผลด้วยสกอร์ 2-2

ในปี 2006 สโมสรได้เซ็นสัญญากับกอชตินยาและมานีชีนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส รวมทั้งเซร์คีโอ อะกูเอโร กองหน้าชาวอาร์เจนตินา

ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2007 สโมสรได้ขายตอร์เรสให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลทีมยักษ์ใหญ่จากอังกฤษ แลกกับจำนวนเงิน 26 ล้านปอนด์ และได้ลุยส์ การ์ซีอาที่ย้ายจากลิเวอร์พูลมาอยู่กับสโมสรแทนโดยการย้ายแบบค่าตัวฟรี แลจากนั้นสโมสรได้เซ็นสัญญากับเดียโก ฟอร์ลัน นักเตะตำแหน่งกองหน้าชาวอุรุกวัย ด้วยจำนวนเงิน 21 ล้านปอนด์จาก สโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล พร้อมปล่อยตัวมาร์ติน เปตรอฟ นักเตะชาวบัลแกเรียให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีไป 7 ล้านปอนด์ และได้เซ็นสัญญากับนักเตะชื่อดังชาวโปรตุเกสอย่างซีเมา ซาบรอซา จากสปอร์ลิชบัวอีไบฟีกา และในวันที่ 29 มิถุนายน สโมสรได้เซ็นสัญญากับอันโตนีโอ เรเยส ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์

ในเดือน กรกฎาคม ปี ค.ศ. 2007 ทางคณะกรรมการบริหารของสโมสรได้พูดคุยกับเทศบาลกรุงมาดริดในการสร้างสนามเหย้าใหม่คือเอสตาดีโอลาเปย์เนตา ซึ่งจะเปิดใช้งานในปี 2016

ในฤดูกาล 2007-08 สโมสรได้เริ่มประสบความสำเร็จในการแข่งขันของยุโรปมากขึ้น โดยสามารถผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันยูฟ่าคัพ แต่ก็ต้องแพ้ให้กับสโมสรฟุตบอลโบลตันวันเดอเรอส์ การแข่งขันภายในประเทศในถ้วยโกปาเดลเรย์ก็เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายและแพ้ต่อสโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย และในฤดูกาลนี้สโมสรจบในอันดับที่ 4 และได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในรอบคัดเลือกฤดูกาลหน้า โดยมีนักเตะตัวหลักและสำคัญมากมายในฤดูกาลนี้ เช่น เซร์คีโอ อะกูเอโร, เดียโก ฟอร์ลัน, ซีเมา ซาบรอซา, มักซี โรดรีเกซ และผู้รักษาประตูอย่างเลโอ ฟรานโก

ต่อมาในฤดูกาล 2008-09 สโมสรได้ลงเล่นแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกหลังจากปี 1997 โดยในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 เจอกับสโมสรฟุตบอลชัลเคอ 04 จากเยอรมนี ซึ่งรวมผลทั้งสองนัด (เหย้า-เยือน) ชนะไป 4-1 หลังจากนั้นได้เข้ามาอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มซึ่งเจอกับสโมสรที่เป็นยักษ์ใหญ่ของแต่ละประเทศทั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล, พีเอสวี ไอน์โฮเฟน, ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ แต่สโมสรก็สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม แต่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย สโมสรได้แพ้ให้กับสโมสรฟุตบอลโปร์ตูด้วยกฎประตูทีมเยือน 2-2 จึงทำให้ตกรอบแชมเปียนส์ลีก หลังจากตกรอบแชมเปียนส์ลีก สโมสรได้เสริมทัพด้วยการซื้อนักเตะในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดในช่วงมกราคม ค.ศ. 2009 ด้วยการซื้อเกรกอรี กูแป ผู้รักษาประตูชาวฝรั่งเศส, จอห์น ไฮทิงกา กองหลังชาวดัตช์, โตมาช อุลฟาลูชี เซ็นเตอร์แบ็กตัวรับชาวเช็ก, เปาลู อาซุงเซา กองกลางตัวรับชาวบราซิล, เอเบร์ บาเนกา กองกลางตัวรับชาวอาร์เจนตินาซึ่งยืมตัวมาจากสโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย และกองหน้าชาวฝรั่งเศสอย่างฟลอร็อง ซีนามา ปงกอล

ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 คาเบียร์ อากีร์เร ได้ขอลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมของสโมสร หลังจากการเริ่มต้นในปี 2009 ด้วยการนำสโมสรชนะ 6 เกม โดยเขาอ้างว่าไม่ได้มีกรณีหรือเหตุการณ์ใด ๆ กับสโมสร ซึ่งในสื่อข่าวได้นำเสนอว่าเขาถูกยกเลิกสัญญามากกว่าการไล่ออก[4] หลังจากนั้นแฟนบอลของสโมสรได้ออกมาประท้วงและโต้แย้งจากการลาออกของอากีร์เร โดยพวกเขาเชื่อว่าอากีร์เรไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับสโมสรทั้งสิ้น

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: อัตเลติโกเดมาดริด http://www.atleticomadrid.azplayers.com/history.ht... http://clubatleticodemadrid.com/jugadores-primer-e... http://www.clubatleticodemadrid.com/ http://www.fifa.com/classicfootball/clubs/club=310... http://stadiumdb.com/constructions/esp/estadio_la_... http://theoriginalwinger.com/2009-02-03-javier-agu... http://www.uefa.com/teamsandplayers/teams/club=501... https://www.facebook.com/AtleticoThailand https://www.facebook.com/AtleticodeMadrid https://fr.uefa.com/uefachampionsleague/season=201...