อันนาศิรียะฮ์ (
อาหรับ: الناصرية) เป็นนครใน
ประเทศอิรัก ตั้งอยู่บนลุ่ม
แม่น้ำยูเฟรทีส ตั้งห่างจากกรุง
แบกแดดทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 225 ไมล์ (370 กม.) อยู่ใกล้กับโบราณสถานเมือง
อูร์ เป็นเมืองหลวงของ
เขตผู้ว่าการษีกอร ในปี ค.ศ. 2003 มีประชากรราว 560,000 คน ทำให้เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศอิรัก
[1] ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ประชากรนับถือหลากหลายศาสนา คือ เป็นชาว
มุสลิม ยิว มันดาอี แต่ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม นิกาย
ชีอะฮ์เมืองก่อตั้งโดยเผ่าอัลมุนตะฟิก (Al-Muntafiq) ช่วง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อังกฤษเข้ายึดเมืองในช่วงจักรวรรดิออตโตมัน ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1915 มีทหารอังกฤษตาย 400 นาย และทหารอินเดียและตุรกีตายมากกว่า 2,000 นาย ในสงครามที่เมืองอันนาศิรียะฮ์ในวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1915
[2]ในปลายศตวรรษที่ 19 ในช่วง
จักรวรรดิออตโตมัน[3] ได้กลายมาจุดสัญจรที่สำคัญ
[1] เป็นศูนย์กลางพื้นที่ปลูก
อินทผลัม มีอุตสาหกรรมครัวเรือนอย่างเช่น การสร้างเรือ งานไม้และเครื่องเงิน
[4] พิพิธภัณฑ์ของเมืองมีวัตถุโบราณจากยุค
ซูเมอร์ อัสซีเรีย บาบิโลเนีย และจาก
ราชวงศ์อับบาซียะฮ์ เมืองยังอยู่ใกล้โบราณสถานเมืองอูร์และ
ลาร์ซาในปี ค.ศ. 1991 ช่วง
สงครามอ่าวเปอร์เซีย อันนาศิรียะฮ์ถือเป็นจุดไกลสุดที่กองพลพลร่มที่ 82 และกองพลพลร่มที่ 101 ได้เข้าไปถึงอิรัก โดยเข้าไปถึงถนนหลักนอกเมือง ต่อมาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1991 หลังจากที่สงครามจบลง ผู้นับถือศาสนาอิสลาม นิกายชีอะฮ์ ได้ร่วมปฏิวัติโค่นล้มประธานาธิบดี
ซัดดัม ฮุสเซน การปฏิวัติที่ให้เกิดความสูญเสีย กองทัพอิรักสังหารประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมีการสังหารหมู่โดยรัฐบาลอิรัก
[5]จนกระทั่งถึงสงครามปี ค.ศ. 2003 อันนาศิรียะฮ์ถือเป็นเมืองที่มีชุมชนชาวมันดาอี มากที่สุดในอิรัก
[6]