สิ้นพระชนม์ ของ อานแห่งเบรอตาญ

ผอบหัวใจของอานแห่งเบรอตาญ

อานสิ้นพระชนม์กลางฤดูหนาวของปี ค.ศ. 1513-ค.ศ. 1514 เมื่อวันที่ 9 มกราคม ด้วยพระโรคนิ่วที่พระราชวังบลัว พระร่างถูกบรรจุที่มหาวิหารแซงต์เดอนีส์ พระราชพิธีศพของพระองค์เป็นพิธีที่ยาวนานเป็นพิเศษถึง 40 วันและมีอิทธิพลต่อพระราชพิธีศพต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 เรควีเอ็มของอานเขียนโดยโยฮันเนส พริโอริส (Johannes Prioris) คีตกวีคนสำคัญ[2].ตามคำสั่งในพระพินัยกรรมอานบ่งว่าให้ใส่หัวใจของพระองค์ในผอบทองเคลือบ (enamel gold) ที่ตั้งลอยและนำไปไว้ที่น็องต์ (Nantes) ในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1514 ภาพในห้องเก็บของนักบวชคาร์เมไลท์ในที่บรรจุศพที่สร้างสำหรับพระบิดามารดาของพระองค์ ต่อมาผอบทองนี้ก็ถูกย้ายไปไว้ที่มหาวิหารแซงต์ปิแยร์ หัวใจของอานอยู่ในผอบรูปไข่เปิดเป็นสองด้านที่ทำด้วยแผ่นทองที่ประดับด้วยลวดลายและมีบานพับตกแต่ง ด้านบนเป็นมงกุฎลิลลีและดอกจิก และมีคำจารึกว่า “En ce petit vaisseau De fin or pur et munde Repose ung plus grand cueur Que oncque dame eut au munde Anne fut le nom delle En France deux fois royne Duchesse des Bretons Royale et Souveraine.” ผอบสร้างโดยช่างทองที่ไม่ทราบนามของราชสำนักที่บลัวที่อาจจะวาดโดยฌอง แปเรอาล (Jean Perréal) ในปี ค.ศ. 1792 National Convention ก็สั่งให้นำผอบของพระองค์ออกจากที่บรรจุ, เอาสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในทิ้ง และนำผอบไปรักษาไว้เป็นส่วนหนึ่งของสมบัติมีค่าของวัดและส่งไปยังน็องต์เพื่อนำไปหลอม แต่แทนที่จะถูกส่งไปผอบก็ถูนำไปเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติและถูกนำกลับไปน็องต์ในปี ค.ศ. 1819 ไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และในที่สุดก็ได้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์โดเบร (Dobrée Museum) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896

นอกจากนั้นพินัยกรรมของอานยังระบุให้เรเนพระธิดาองค์รองเป็นทายาทแห่งอาณาจักรเบรอตาญต่อจากพระองค์ แต่พระสวามีไม่ทรงทำตามและระบุให้พระโคลดพระธิดาองค์โตให้เป็นดัชเชสแห่งเบรอตาญแทนที่ และจับโคลดแต่งงานกับฟรองซัวส์