อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย (
อังกฤษ: RMS Lusitania) คือชื่อเรือเดินสมุทรสัญชาติอังกฤษที่ครอบครองรางวัล
บลูริบบันด์ (Blue Riband) ซึ่งมอบให้กับเรือที่เป็นเจ้าของสถิติเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกด้วยเวลาน้อยที่สุด และเป็น
เรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนียเดินสมุทรครั้งแรกโดยบริษัทสายการเดินเรือคูนาร์ดในปี ค.ศ. 1906 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การค้าขายระหว่างสองฝากฝั่งของ
มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นไปอย่างคึกคักและมีการแข่งขันที่รุนแรง ต่อมาในปี ค.ศ. 1915 อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย
ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดและอัปปางลงโดย
เรือดำน้ำของเยอรมัน คร่าชีวิตลูกเรือและผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 1,198 คนในขณะนั้น สายการเดินเรือสมุทรของเยอรมันมีแน้วโน้มที่จะผูกขาดเส้นทางเดินเรือสำราญอันมั่งคั่งจากการอพยพย้ายถิ่นข้ามทวีป สายการเดินเรือคูนาร์ดจึงตอบโต้คู่แข่งของตนด้วยความพยายามสร้างเรือที่เหนือกว่าในเชิงของความเร็ว ความจุผู้โดยสาร และความหรูหรา ลูซิเทเนีย และเรือคู่แฝด
อาร์เอ็มเอส มอริเตเนีย จึงถูกสร้างขึ้นจากเครื่องยนต์ใบพัดแบบใหม่ที่ปฏิวัติวงการเดินเรือสมุทร ทำให้เรือสามารถแล่นด้วยความเร็วสูงสุด 25 น็อตต่อชั่วโมง ภายในมีการติดตั้งลิฟต์
โทรเลขไร้สาย และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง อีกทั้งยังมีพื้นที่รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 มากกว่าเรือเดินสมุทรลำอื่น ๆ อันรวมไปถึงพื้นที่ของผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขานถึงการตกแต่งที่หรูหราและโอ่อ่าในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1915 เรือได้แล่นออกจากท่าที่นคร
นิวยอร์กมุ่งหน้าสู่
ลิเวอร์พูล ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นการเดินทางเที่ยวสุดท้ายของเรือ ช่วงเวลานั้นเองที่การสู้รบด้วยเรือดำน้ำแบบไม่จำกัดขอบเขตในมหาสมุทรแอตแลนติกอันเป็นส่วนหนึ่งของการสู้รบใน
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ก่อนหน้านี้เยอรมนีได้ประกาศให้น่านน้ำรอบ
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เป็นเขตสู้รบ ส่วนสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีในสหรัฐอเมริกาเองก็ได้ลงโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ กล่าวเตือนประชาชนไม่ให้โดยสารไปกับเรือ ลูซิเทเนีย ต่อมา ณ บ่ายของวันที่ 7 พฤษภาคม อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย ถูกเรือดำน้ำ อูโบท (U-boat) ของเยอรมันยิงตอร์ปิโดเข้าใส่ภายในเขตน่านน้ำที่ถูกประกาศให้เป็นเขตสู้รบ ซึ่งห่างจากแนวชายฝั่งของไอร์แลนด์เป็นระยะทาง 11 mi (18 km) เกิดการระเบิดขึ้นจากภายในเรือสองครั้ง ทำให้เรืออัปปางลงภายในระยะเวลา 18 นาทีหลังจากการระเบิดครั้งที่สองจากการโจมตีเรือพลเรือนโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าในครั้งนี้ เยอรมนีได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่รู้จักกันในนาม กฎเรือเดินสมุทร (Cruiser Rules) แต่กระนั้นเองฝ่ายเยอรมันก็มีเหตุผลของตนที่จะพิจารณาลูซิเทเนียว่าเป็นเรือสู้รบของกองทัพ เพราะว่าภายในเรือบรรทุกยุทโธปกรณ์สงครามที่ซึ่งฝ่ายอังกฤษเองก็ได้ละเมิดกฎเรือเดินสมุทรด้วยเช่นกัน
[7][8][9][10][11] การอัปปางลงของเรือลูซิเทเนียจุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 128 คน เป็นชาวอเมริกัน นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้
สหรัฐอเมริกาประกาศเข้าร่วมสงครามในปี ค.ศ. 1917