อาหารยุโรปหรือ
อาหารตะวันตก เป็นคำที่ใช้อ้างถึงอาหารในทวีปยุโรป
[1] และประเทศตะวันตกอื่นๆ
[2] รวมทั้ง (ขึ้นกับคำจำกัดความ)
รัสเซีย,
[2] เช่นเดียวกับอาหารที่ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองในออสเตรเลีย ทวีปอเมริกา แอฟริกาใต้และโอเชียเนีย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากยุโรป นิยามนี้ใช้โดยชาวเอเชียตะวันออกเพื่อให้ต่างจากอาหารแบบเอเชีย
[3] (นี่เป็นแบบเดียวกับที่ชาวตะวันตกให้นิยามอาหารของประเทศในเอเชียตะวันออก่ว่าเป็นอาหารเอเชีย) ในขณะที่ชาวตะวันตก คำนี้ในบางครั้งจะหมายถึงเฉพาะอาหารบนพื้นแผ่นดินของทวีปยุโรป และมีความหมายเช่นเดียวกับยุโรปภาคพื้นแผ่นดินโดยเฉพาะในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษอาหารของประเทศตะวันตกความหลากหลายภายในกลุ่ม แม้ว่าจะมีลักษณะเฉพาะที่มำให้แตกต่างจากอาหารเอเชีย
[4]และอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการปรุงอาหารในเอเชีย ตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์มีความโดดเด่นจะเสิร์ฟในขนาดที่รับประทาน
[5] สเต็กและเนื้อแล่เป็นแผ่นเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในประเทศตะวันตก นิยมใช้ไวน์องุ่นและซอสเป็นเครื่องเคียง ใช้ผลิตภัณฑ์จากนมหลายชนิดในกระบวนการปรุงอาหาร ยกเว้นในอาหาร nouvelle
[6]มีการผลิต
ชีส ในหลากหลายรูปแบบและ
ผลิตภัณฑ์นมหมัก มีให้เลือกใช้ได้หลายชนิดเช่นกัน ขนมปังจาก
แป้งสาลีเป็นแหล่งของแป้งที่สำคัญ เช่นเดียวกับ
พาสตา เกี๊ยว และ
แพสตรี มันฝรั่งก็เป็นแหล่งของแป้งที่สำคัญในอาหารยุโรป และแพร่หลายในอาณานิคมของยุโรปในทวีปอเมริกา
ข้าวโพดพบในอาหารยุโรปน้อยกว่าใน
ทวีปอเมริกา แม้ว่าอาหารที่ทำจากข้าวโพด (
polenta or
mămăligă) เป็นส่วนสำคัญในอาหารอิตาลีและในคาบสมุทรบอลข่าน ขนมปังแบน โดยเฉพาะที่มีการแต่งหน้า เช่น พิซซาหรือ
tarte flambée และข้าวมีรับประทานในยุโรปตะวันออกแต่ไม่ใช่อาหารหลัก สลัดถือเป็นส่วนสำคัญของอาหารยุโรป อาหารเย็นแบบยุโรปที่เป็นทางการจะแยกเป็นจานต่างๆ โดยพัฒนามาจากการนำอาหารหลายจานมาวางบนโต๊ะพร้อมๆกัน ไปเป็นการเสิร์ฟอาหารตามลำดับ ในแบบที่เคร่งครัด อาหารที่เย็น ร้อม เผ็ด และหวานจะจัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยหรือซุป จากนั้นเป็นจานหลัก และสุดท้ายเป็นของหวาน อาหารที่ทั้งหวานและเผ็ดเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในสมัยจักรวรรดิโรมันโบราณ แต่ไม่ปกติในปัจจุบัน อาหารที่หวานจัดเป็นของหวานเท่านั้น การจัดเสิร์ฟที่ผู้รับประทานออกไปตักอาหารอย่างเป็นอิสระด้วยตนเองเรียกว่าบุฟเฟต์ พบได้เฉพาะในงานเลี้ยงหรือวันหยุด