พระประวัติ ของ อิงเงอบอร์กแห่งเดนมาร์ก_ดัชเชสแห่งเมคเลินบวร์ค

เจ้าหญิงอิงเงอบอร์กทรงหมั้นกับไฮน์ริชแห่งเมคเลินบวร์ค โอรสในอัลเบร็คท์ที่ 2 ดยุกแห่งเมคเลินบวร์ค หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงมาร์เกรเธอ พระเชษฐภคินีในค.ศ. 1350 ซึ่งเคยหมั้นหมายกับบุตรชายของดยุก เจ้าหญิงทรงมีพระขนิษฐาอีกพระองค์หนึ่งชื่อ เจ้าหญิงมาร์เกรเธอ เหมือนกัน สนธิสัญญาการเสกสมรสระหว่างไฮน์ริชกับเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กได้ลงนามที่เมืองดอร์นบวร์ค วันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1350 เจ้าหญิงอิงเงอบอร์กและไฮน์ริชเสกสมรสกันใน ค.ศ. 1362 ทั้งสองมีโอรสธิดาดังนี้

เจ้าหญิงอิงเงอบอร์กทรงกลายเป็นรัชทายาทผู้มีสิทธิสืบราชบัลลังก์เดนมาร์กใน ค.ศ. 1363 หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายคริสตอฟเฟอร์ ดยุกแห่งลอลันด์ พระเชษฐาซึ่งเป็นรัชทายาทฝ่ายชายเพียงพระองค์เดียว แต่ถึงกระนั้นเดนมาร์กเป็นระบอบราชาธิปไตยโดยเลือกตั้ง และเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กก็สิ้นพระชนม์ก่อนกษัตริย์วัลเดมาร์ พระราชบิดา และกษัตริย์เดนมาร์กก็เสด็จสวรรคต ค.ศ. 1375 โดยไม่ทรงสถาปนารัชทายาท การสืบราชสันตติวงศ์เดนมาร์กกลายเป็นที่ถกเถียง สภาฐานันดรเดนมาร์กประชุมกันที่โอเดนเซเพื่อเลือกพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ เหล่าขุนนางแตกแยกกันโดยฝ่ายหนึ่งเลือกอัลเบร็คท์แห่งเมคเลินบวร์ค โอรสองค์ใหญ่ในเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กกับไฮน์ริชแห่งเมคเลินบวร์ค โดยสืบวงศ์ผ่านทางปู่ของอัลเบร็คท์ คือ อัลเบร็คท์ที่ 2 ดยุกแห่งเมคเลินบวร์ค กับอีกฝ่ายหนึ่งเลือกเจ้าชายโอลาฟ รัชทายาทแห่งนอร์เวย์และเป็นพระราชโอรสของเจ้าหญิงมาร์เกรเธอ สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์กับพระเจ้าโฮกุนที่ 6 แห่งนอร์เวย์ กับขุนนางอีกฝ่ายหนึ่งให้เลือกราชวงศ์ใหม่ สุดท้ายสภาฐานันดรก็ถูกจูงใจโดยเสน่ห์ ความนิยมและวาทศิลป์ของสมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอแห่งนอร์เวย์ และด้วยทรงเป็นพระราชธิดาองค์สุดท้ายของพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อนที่ยังทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ และเพิ่มความเป็นไปได้ในการรวมราชอาณาจักรกับนอร์เวย์และความรู้สึกต่อต้านชาวเยอรมัน ทำให้เจ้าชายโอลาฟทรงได้รับเลือกเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กใน ค.ศ. 1376 โดยมีสมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอแห่งนอร์เวย์ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์[3] โดยน้องชายของพระสวามีในเจ้าหญิงอิงเงอบอร์ก คือ อัลเบร็คท์ที่ 3 ดยุกแห่งเมคเลินบวร์ค ได้รับเลือกให้ครองราชบัลลังก์สวีเดน เนื่องจากชาวเดนมาร์กไม่ต้องการให้ชาวเยอรมันจากเมคเลินบวร์คปกครองสแกนดิเนเวีย

พระนัดดาของเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กคือ อีริคแห่งพอเมอเรเนีย ได้สืบราชบัลลังก์ตามสิทธิของสมเด็จยายและได้เป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กในค.ศ. 1396 โดยพระนางมาร์เกรเธอ พระขนิษฐาของสมเด็จยาย เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทำให้พระองค์กลายเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของสหภาพคาลมาร์ระหว่างเดนมาร์ก นอร์เวย์และสวีเดน ทายาทคนสุดท้ายของเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กคือ คริสตอฟแห่งบาวาเรียซึ่งสืบราชบัลลังก์สหภาพคาลมาร์ต่อจากกษัตริย์อีริค

ใกล้เคียง

อิงเงอบอร์ก มักนุสด็อทเทอร์แห่งสวีเดน อิงเงอบอร์กแห่งเดนมาร์ก ดัชเชสแห่งเมคเลินบวร์ค อิงเงอบอร์กแห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ อิงเงอเกิร์ดแห่งนอร์เวย์ อิงเงอ ไมเซิล อิงเงอริดแห่งเดนมาร์ก อิงเง ลีแมน อิงเงอเกิร์ด คนุตสแด็ทเทอร์ อิงเงินโบล อังเกลา แมร์เคิล