ประวัติ ของ อีเอสพีเอ็น

ยุคแรก

เดิมทีนั้น ESPN เกิดขึ้นมาจากความคิดของ Bill Rasmussen[1] นักข่าวกีฬาสถานีโทรทัศน์ช่อง WWLP ซึ่งเป็นสถานีในเครือ NBC ที่เมืองสปริงฟีลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ในช่วงยุค 1970 Rasmussen ทำงานกับทีมฮอกกี้ New England Whalers ของสมาคมฮอกกี้โลก เป็นคนขายเวลาโฆษณาในการออกอากาศให้กับทีม ลูกชายของเขา Scott ซึ่งเคยเป็นผู้รักษาประตูฮอกกี้น้ำแข็งในสมัยเรียนไฮสคูล เป็นผู้ประกาศให้กับทีม ทั้งคู่ถูกไล่ออกในปี พ.ศ. 2520 และ Rasmussen จึงมองหาช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ ความคิดเดิมเริ่มแรกของเขาก็คือ สถานีเคเบิลทีวี (ซึ่งสมัยนั้นถือเป็นสื่อชนิดใหม่) ที่เน้นการรายงานข่าวกีฬาในรัฐคอนเนตทิคัต (เช่น ทีมฮอกกี้น้ำแข็ง Hartford Whalers และ Connecticut Huskies) แต่เมื่อ Rasmussen ทราบว่า การซื้อเวลาการออกอากาศผ่านดาวเทียมตลอด 24 ชั่วโมงราคาถูกกว่าการซื้อเวลาเป็นช่วง ๆ ที่ได้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงต่อคืน เขาจึงได้เวลาออกอากาศเป็น 24 ชั่วโมงและออกอากาศทั่วประเทศ ชื่อเดิมของช่องคือ ESP ย่อมาจาก Entertainment and Sports Programming แต่ชื่อนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะได้ออกอากาศ[2]

ESPN เริ่มออกอากาศครั้งแรกด้วยการเปิดตัวรายการ SportsCenter ซึ่งมีผู้ดำเนินรายการคือ Lee Leonard และ George Grande ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2522 คะแนนแรกที่ผ่านรายการ SportsCenter มาจากเทนนิสหญิง

เพื่อให้สามารถออกอากาศได้ครบ 24 ชั่วโมงต่อวัน ESPN จึงมีรายการกีฬาหลากหลายประเภทที่สถานีอื่น ๆ ไม่ได้นำมาออกอากาศช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เช่น Australian Rules Football, รายการเทนนิสเดวิสคัพ, มวยปล้ำอาชีพ, มวย รวมไปถึงอเมริกันฟุตบอลและบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัย เทศกาลโอลิมปิคของอเมริกา (U.S. Olympic Festival) ซึ่งปัจจุบันถูกยกเลิกไปแล้ว จัดขึ้นโดย United States Olympic Committee เพื่อเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนสำหรับนักกีฬา ก็เป็นรายการหลักของ EPSN ในช่วงนั้นด้วย

การเข้ามาของ Professional sports

ESPN (และเน็ตเวิร์คของอเมริกา) อยู่ในกลุ่มหุ้นส่วนที่ใช้เคเบิลแทนการส่งสัญญาณทางอากาศในช่วงแรก ๆ ให้กับลีกบาสเกตบอลอาชีพ: National Basketball Association (NBA) ความสัมพันธ์ของเน็ตเวิร์คกับสมาคมได้พยายามเข้าไปเกี่ยวข้องกับภาคกีฬาอาชีพในอเมริกาซึ่งยืนยาวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525-2527 หลังจากช่องโหว่ที่มีมา 18 ปีด้วยกัน ESPN (ภายใต้ความอุปถัมภ์ของ ABC network) ได้ทำสัญญาการแพร่ภาพออกอากาศ เป็นจำนวนเงิน 2.6 พันล้านดอลลาร์ต่อหกปี กับ NBA ด้วยเหตุนี้ ESPN กับบาสเก็ตบอลอาชีพในอเมริกา จึงถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์

ในปี พ.ศ. 2546 ลีกอเมริกันฟุตบอล (USFL) ได้เปิดตัวผ่าน ESPN และ ABC ลีกอเมริกันฟุตบอล (มี 3 ฤดูกาลด้วยกัน) ก็ได้ฉลองชัยกับความสำเร็จในช่วงระยะเวลาสั้นๆ บางส่วนของความสำเร็จเป็นผลพลอยได้ที่ได้รับจากการรายงานข่าวของ ESPN

ในปี พ.ศ. 2550 ESPN ได้รับสิทธิ์บางส่วนจากลีกอเมริกันฟุตบอลระดับอาชีพ (National Football League) โดยที่ลีกอเมริกันฟุตบอลได้ตกลงให้สิทธิ์กับ ESPN ตราบเท่าที่ ESPN ตกลงที่จะให้ถ่ายทอดเกมผ่านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นทั้งในรูปแบบวิทยุและโทรทัศน์ การถ่ายทอด ESPN Sunday Night Football จะยังคงมีต่อไปอีก 19 ปี และเป็นการกระตุ้น ESPN ในเรื่องการมีสิทธิ์ตามกฎหมายให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ใน NFL ฤดูกาลปี 2006 ESPN เริ่มออกอากาศ Monday Night Football ซึ่งก่อนหน้านี้จะได้รับชมผ่าน ABC

ในปี พ.ศ. 2533 ESPN ได้เพิ่ม Major League Baseball เข้าไปในการออกอากาศด้วยสัญญา 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3] และก็ได้มีการต่อสัญญาไปจนถึงปี พ.ศ. 2554 Jon Miller และ Joe Morgan เป็นนักพากย์ให้กับ Sunday Night Baseball มายาวนาน

ESPN ออกอากาศ Major Professional Sports Leagues ถึง 4 ลีกด้วยกันในแถบอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545-2547 เป็นช่วงที่ ESPN ได้งดการออกอากาศ National Hockey League ชั่วคราว เน็ตเวิร์คได้ออกอากาศเกม NHL มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526-2529 และอีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536

ESPN ได้ออกอากาศเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (Major League Soccer) ประมาณอาทิตย์ละครั้งผ่าน ESPN2 ตั้งแต่ที่มีการเริ่มลีกมาในปี พ.ศ. 2539 ในหลายๆ ปีส่วนใหญ่แล้วเกมการแข่งขัน AllStar Game ประจำปีและเกมการชิงแชมป์ MLS Cup รวมถึงในบางปีเกมการแข่งขัน Opening Night ก็จะออกอากาศผ่านสถานี ABC

ESPN ออกอากาศกีฬา 65 ประเภทด้วยกัน ใน 24 ชั่วโมงต่อวัน มีทั้งหมด 14 ภาษา และออกอากาศมากกว่า 15 ภาษาใน 150 ประเทศ [4]

การเติบโต

ในช่วงยุค พ.ศ. 2533 และต้นปี พ.ศ. 2543 จะได้เห็นการเติบโตที่ค่อนข้างมากภายในบริษัท ในปี พ.ศ. 2536 ได้มีการก่อตั้ง ESPN2 ขึ้นมา พร้อมกับ Keith Olbermann และ Suzy Kolber โดยได้มีการแพร่ภาพทางเน็ตเวิร์คกับ SportsNite อีก 3 ปีต่อมา ESPNEWS ก็ได้เกิดขึ้นมา พร้อมกับ Mike Tirico ที่ถือว่าเป็นผู้ประกาศข่าวคนแรกของช่อง ในปี พ.ศ. 2540 ESPN ได้ซื้อ Classic Sports Network และตั้งชื่อใหม่ว่า ESPN Classic เน็ตเวิร์คของ ESPN ล่าสุดในอเมริกาคือ ESPNU ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2548

ESPN International เกิดขึ้นในช่วงต้นยุค พ.ศ. 2533 เพื่อหาโอกาสจากตลาดดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นในแถบเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ในประเทศแคนาดาบริษัท ESPN Inc. ได้ซื้อหุ้นส่วนน้อยจาก TSN และ RDS (อันที่จริงแล้ว โลโก้ปัจจุบันของทั้ง 2 องค์กรดูเหมือนกับโลโก้ของ ESPN) ในปี พ.ศ. 2547 ในที่สุด ESPN ก็ได้เข้าสู่ตลาดยุโรปโดยการออกอากาศ ESPN Classic และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 ESPN ได้ตกลงที่จะซื้อ North American Sports Network ในตอนแรกนั้น การออกอากาศของ SportsCenter มี 3 ช่วงต่อวัน คือ 01.00 น. (ซึ่งจะออกอากาศซ้ำจนถึง 09.00 น.) 18.00 น. และ 23.00 น.

ในปี พ.ศ. 2537 ESPN ตั้งมาตรฐานเพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทของกีฬาในอเมริกาผ่าน The ESPN Sports Poll โดย Dr. Richard Luker สำหรับ Sports Poll นั้น เป็นการศึกษาถึงสิ่งที่สนใจและกิจกรรมของเหล่าแฟนกีฬาในแต่ละวันทั่วทั้งประเทศที่ทำอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรกในอเมริกา Sporting News ได้รับรู้ถึงความสำเร็จของ The ESPN Sports Poll และ Dr. Luker ในปี พ.ศ. 2549

เนื่องจากการเพิ่มสูงขึ้นของค่าครองชีพในตลาด Sports Entertainment เช่น สิทธิ์การออกอากาศอเมริกันฟุตบอล NFL ที่มีมูลค่า 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลา 8 ปี “สคริปต์ได้กลายมาเป็นของฟุ่มเฟือยให้กับ ESPN” David Carter ผู้อำนวยการ Sports Business Institute ของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) กล่าว

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป ESPN ก็ได้ถูกรวมเข้ากับ ABC Sports ในปีนั้นเอง Steve Bornstein ประธานของ ESPN ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ก็ได้กลายมาเป็นประธานของ ABC Sports ด้วยเหมือนกัน การรวมตัวกันนี้ส่งผลให้ในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการตัดสินใจที่จะรวมการดำเนินงานของ ABC Sports เข้ากับ ESPN เนื่องด้วยเหตุนี้นี่เอง ทำให้ในตอนนี้รายการกีฬาของ ABC ทุกรายการใช้ชื่อว่า ESPN on ABC อย่างไรก็ตาม ABC Sports ก็ยังคงแยกจาก ESPN อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ปัจจุบันนี้ ESPN กำลังสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ในการผลิตรายการ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง Los Angeles สิ่งอำนวยความสะดวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของ L.A. Live complex ที่อยู่ตรงข้าม Staples Center สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้าชั้นนี้จะจัดโซนร้านอาหารไว้ที่สองชั้นแรก และจะมีสตูดิโอสองห้องที่ใช้ในการผลิตโทรทัศน์ด้วยห้องควบคุมระบบดิจิทัลที่อยู่ชั้นบน โดยที่ทำการเปิดตัวไปแล้ว ในปี พ.ศ. 2552

ในปี พ.ศ. 2550 ESPN ได้เซ็นสัญญาลงนามกับ Arena Football League เพื่อออกอากาศอย่างน้อยหนึ่งเกมทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นช่วงคืนวันจันทร์

ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 ESPN ได้เซ็นสัญญาหลายล้านดอลลาร์สหรัฐกับสมาคมกีฬาระดับอาชีพ Major League Gaming หรือ MLG เป็นเวลาสั้นๆ ถึงแม้ว่าบางคนได้โต้แย้งว่า เกมระดับอาชีพไม่ใช่กีฬาที่แท้จริง แต่ ESPN ก็ยังคงมีการร่วมมืออยู่

ใกล้เคียง