พระกระโดดกำแพงหนี (ผู้ถูกลงโทษต้องดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษ โดยเครื่องดื่มสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาวและอาหารหวาน เช่น กล้วย น้ำพะโล้ ซุปหน่อไม้ ทุเรียน ขนมปัง น้ำแข็ง รวมเข้าไว้ด้วยกันและปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เมื่อผู้ถูกลงโทษดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)
เกมพระกระโดดกำแพงหนี ได้แนวความคิดจากการฉันอาหารของพระสงฆ์ มิได้มาจากเมนูอาหารพระกระโดดกำแพงแต่อย่างใด

สะบัดร้อน สะบัดหนาว (ผู้ถูกลงโทษผู้ติดกับผนังโดยมีลูกโป่งผูกติดอยู่รอบร่างกายของผู้ถูกลงโทษ ทีมงาน, พิธีกรและแขกรับเชิญทำการสะบัดผ้าร้อนและผ้าเย็นใส่ผู้ถูกลงโทษ โดยผ้าที่สะบัดไปนั้นให้โดนลูกโป่งจนลูกโป่งแตก เมื่อลูกโป่งแตกทั้งหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

จุมพิตน้องกิ๊พจัง (ผู้ถูกลงโทษจะถูกกิ๊พหนีบผ้า หนีบตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยที่ปลายกิ๊พหนีบผ้าจะมีเชือกติดคล้องกับประตูสีสีแดงที่เปิดอยู่ โดยติดกิ๊พครบทุกชิ้นทีมงานและพิธีกรจะทำการปิดประตูไม้อย่างรุนแรงทำให้ กิ๊พที่หนีบไว้หลุดออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ถูกลงโทษมีอาการคล้ายกับทานวาซาบิ เมื่อประตูปิดและกิ๊พหลุดจากร่างกาย จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ตีท้ายครัว (ผู้ถูกลงโทษจะถูกรับบทเป็นขโมยโดยพิธีกรได้นำทีมงานมาเป็นคนในบ้านจากนั้นผู้ลงโทษให้เข้าประตูในบ้านโดยทีมงานจะเป็นคนป้องกันบ้านซึ่งในบ้านมีหม้ออยู่ 4 หม้อต้องตีให้แตกครบทั้ง 4 จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

น้องหม่องลองจรวด (ผู้ถูกลงโทษจะไปอยู่บริเวณเป้า (คล้ายกับเป้ายิงปืน) และจะมีลูกโป่งติดอยู่ที่ผู้ถูกลงโทษประมาณ 10 ใบ แล้วจะมีจรวดที่ด้านปลายใส่ไม้จิ้มฟันเอาไว้ โดยให้พิธีกรปาจรวดใส่ลูกโป่งที่ติดอยู่กับผู้ถูกลงโทษ เมื่อลูกโป่งแตกหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ยุงชุมจัง (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดนักโทษ โดยมีตุ๊กตายุงเกาะตามร่างกาย ที่ส่วนก้นของตุ๊กตายุงจะมีน้ำหวานสีแดงบรรจุภายใน โดยพิธีกรจะทำการตีตุ๊กตายุงด้วยไม้ตียุงและค้อนพลาสติก เมื่อยุงที่เกาะบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษถูกกำจัดหมดทุกตัวจึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เหนอะหนะนะน้องแพนเค้ก (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดนักโทษ โดยให้เข้าไปอยู่เป้าโดยสามารถหมุนได้จากนั้นพิธีกรและแขกรับเชิญจะปาเค้กและครีมที่ใส่เค้กใส่ผู้ลงโทษ เมื่อเค้กและครีมหมดลงแล้วจึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

มวยตับแตก (ผู้ถูกลงโทษจะขึ้นบนเวทีมวยจำลองซึ่งประยุกต์มาจากเวทีของมวยตับจาก และมีคู่ชกเป็นนักมวยเด็ก 2 คน มาทำการต่อยผู้ที่ถูกลงโทษ ทั้ง 2 ฝ่ายจะทำการปิดตาตามกติกาของมวยตับจาก (แต่ภายหลังฝ่ายคู่ชกจะไม่มีสวมผ้าปิด ตา เนื่องจากพิธีกรช่วยดึงผ้าปิดตาออก) ผู้ถูกลงโทษจะถูกคู่ชกต่อยไปเรื่อย ๆ จนเมื่อครบ 3 นาที (เสียงระฆังดังขึ้น) จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

กล่องเครื่องมือหรรษา (ผู้ถูกลงโทษจะถูกแขวนบนราวเหล็กโดยมีกุญแจมือทำการล็อกมือผู้ลงโทษเพื่อไม่ให้ทำการหลบหนี จากนั้นจะมีเหล่าอสูรกายซึ่งมาจากผู้ชมในห้องส่งสามารถทำการทุบตีหรือกลั่นแกล้งผู้ถูกลงโทษได้อย่างอิสระผ่านทางรูที่ทางทีมงานจัดเตรียมขึ้นมา โดยเหล่าอสูรกายจะลงโทษไปเรื่อย ๆ จนกว่าดารารับเชิญพอใจ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

สแลมดังค์ (ผู้ถูกลงโทษจะอยู่ใต้แป้นบาสโดยสวมหมวกช้างที่มีเข็มจำนวน5แท่งติดอยู่ พิธีกรและแขกรับเชิญจะทำการโยนลูกโป่งน้ำจำนวนมากที่ถูกบรรจุไว้ในถังพลาสติก ให้ลงห่วงที่แป้นบาสเพื่อให้โดนเข็มที่อยู่บนหมวกของผู้ถูกลงโทษและแตกกระเซ็น เมื่อลูกโป่งน้ำที่บรรจุในถังไม่เหลือแม้แต่ใบเดียวและแตกครบทุกใบ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เครื่องอบโป่งแป้ง (ผู้ถูกลงโทษจะอยู่ในตู้คล้ายตู้อบสมุนไพร โดยภายในจะมีลูกโป่งบรรจุแป้งพร้อมต่อกับท่อลมออกมาด้านนอก พิธีกรจะปล่อยลมใส่ลูกโป่งจนแตกหมดทุกลูก จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ดูหนัง3มิติ (ผู้ถูกลงโทษจะต้องดูหนังรูปแบบสามมิติโดยการให้ผู้ถูกลงโทษสวมแว่นตาสามมิติซึ่งพิธีกรจะให้ชมภาพยนตร์สามมิติซึ่งผู้แสดงก็คือพิธีกรโดยพิธีกรจะรับบทหนังซึ่งพิธีกรที่แสดงหนังสามมิติจะนำสิ่งของต่าง ๆ ขว้างปาใส่ผู้ถูกลงโทษ รวมทั้งการฉีดน้ำ เทแป้ง เพื่อเพิ่มความเลอะเทอะให้ดูน่าขบขัน ในขณะที่ผู้ถูกลงโทษสวมแว่นตาสามมิติ เมื่อการแสดงหนังสามมิติจบลงแล้ว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

กุญแจมหาภัย (ผู้ถูกลงโทษทำการนั่งบนเก้าอี้โดยที่โซ่ล็อกไว้ที่ขา ผู้ถูกลงโทษต้องล้วงเข้าไปหาลูกกุญแจที่สามารถปลดล็อกโซ่ ผ่านทางรูที่ทางทีมงานสร้างขึ้นโดยในระหว่างการค้นหากุญแจจะมีอุปสรรคต่าง ๆ เช่นพัดกระดาษ ท่อยาง เทียนไข เป็นต้น เมื่อค้นหาลูกกุญแจและสามารถปลดล็อกโซ่ที่ขาได้ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

แซนด์วิชคิดไว้แล้ว (ผู้ถูกลงโทษจะต้องนอนอยู่บนเบาะซึ่งทำเป็นรูปขนมปัง หลังจากนั้น พิธีกรคนอื่น ๆ จะนำขนมเค้กมาวางบนเบาะบริเวณหน้าของผู้ถูกลงโทษพร้อมราดซอสมะเขือเทศและมายองเนส และนำเบาะรูปอื่น ๆ ซึ่งเป็นเครื่องในแซนด์วิช เช่น ผักกาดหอม, มะเขือเทศ, ไข่ดาว เป็นต้น เมื่อวางเบาะรูปขนมปังแผ่นสุดท้ายด้านบนแล้ว พิธีกรจะกระโดดลงมาทับ ทำให้หน้าของผู้ถูกลงโทษลงมาทับบนขนมเค้ก จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปิดตาตีหม้อ (ผู้ลงโทษจะถูกนั่งลงและหม้อจะวางในส่วนบนหัวและจากนั้นพิธีกรได้ปิดตาและไป ตีหม้อที่อยู่ส่วนบนหัว)

โบว์รุ่งริ่ง (ผู้ถูกลงโทษจะทำการสไลด์บนกระดานที่แปรสภาพเป็นลานโบว์ลิ่งและต้องทำการสไตร์คพินโบว์ลิ่งที่ทำขึ้นจากลูกโป่งจำนวนหลายใบ โดยกระดานนั้นจะชุ่มไปด้วยน้ำประปา, น้ำยาล้างจานเพื่อทำให้กระดานลื่นเหมือนกับลานโบว์ลื่ง ผู้ถูกลงโทษจะถูกพิธีกรและทีมงานทำการสไลด์บนลานโบว์ลิ่งพร้อมกับสวมหมวกที่บรรจุเข็ม1เล่ม เมื่อผู้ถูกลงโทษสไลด์ไปหาพินลูกโป่งจะต้องแทงพินลูกโป่งให้หมด เมื่อแทงพินลูกโป่งทั้งหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

พระกระโดดกำแพงหนี (ผู้ถูกลงโทษต้องดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษ 1 แก้วแชมเปญ โดยเครื่องดื่มสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาวและอาหารหวาน เช่น น้ำพริกปลาทู ส้มตำ ผลไม้ต่าง ๆ น้ำแข็ง ฯลฯ รวมเข้าไว้ด้วยกันและปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เมื่อผู้ถูกลงโทษดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ทายภาพหน้าตาชา (ผู้ถูกลงโทษจะทำการนั่งบนโต๊ะที่มีพัดลมรูปเท้า ผู้ถูกลงโทษต้องทายภาพปริศนาจากแผ่นป้ายทั้งหมด9แผ่นป้าย โดยในระหว่างที่พิธีกรเปิดแผ่นป้ายอยู่นั้นพัดลมรูปเท้าจะทำการหมุนรอบใบหน้าของผู้ถูกลงโทษ เมื่อผู้ถูกลงโทษทายภาพผิดพัดลมรูปเท้าจะหมุนเร็วขึ้นจนกว่าผู้ถูกลงโทษจะทายภาพถูก เมื่อแผ่นป้ายทั้ง9แผ่นป้ายถูกเปิดทั้งหมดและผู้ถูกลงโทษทายภาพถูก พัดลมรูปเท้า จะหยุดหมุนลงทันที จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ดักตุ่นจอมขโมย (ผู้ลงโทษทำหน้าที่เป็นตัวตุ่นในเกมตีตุ่น ขึ้นมารับประทานขนมและจำเป็นโดนค้อนพลาสติกจากผู้ลงโทษในระหว่างการหยิบขนม พร้อมกับรับประทานขนมทั้งหมด 8 ชิ้นให้ครบ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ฤทธิ์ธูปสั้น (ผู้ถูกลงโทษนั่งบนเก้าอี้โดยที่มอาหารคาวและอาหารหวานวางอยู่บนโต๊ะโดยด้านข้างจะมีธูปยักษ์ที่เชื่อมต่อกับสายประทัดเอาไว้พร้อมกับพัดลมที่ตั้งกระดับไว้ เมื่อพิธีกรทำการจุดไฟบนธูปยักษ์ ผู้ถูกลงโทษต้องรับประทานอาหารบนโต๊ะให้หมดภายในธูปดอกเดียวและต้องทานให้หมดก่อนที่ประทัดจะระเบิด เมื่อรับประทานหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ศึกตานีปลายหวีเหี่ยว (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดต้นกล้วย โดยมีกล้วยจำนวน1หวี ผูกไว้ที่ปลายต้น ผู้ถูกลงโทษต้องกินกล้วย1หวีให้หมดโดยจะมีนักมวยเด็กจะทำการเตะไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ถูกลงโทษจะกินกล้วยหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ทายภาพหน้าตาชา (ผู้ถูกลงโทษจะทำการนั่งบนโต๊ะที่มีพัดลมรูปเท้า ผู้ถูกลงโทษต้องทายภาพปริศนาให้ถูกต้องทีละภาพไปเรื่อย ๆ โดยวิธีการใบ้คำ โดยในระหว่างที่ใบ้คำอยู่นั้นพัดลมรูปเท้าจะทำการหมุนรอบใบหน้าของผู้ถูกลงโทษ เมื่อผู้ถูกลงโทษทายภาพผิดพัดลมรูปเท้าจะหมุนเร็วขึ้นจนกว่าผู้ถูกลงโทษจะทายภาพถูก เมื่อทายภาพถูกหมดทุกภาพ พัดลมรูปเท้า จะหยุดหมุนลงทันที จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ฝ่าฝนเทียน (ผู้ถูกลงโทษเลือกปลั๊กยาวตัวใดตัวหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด5 ตัว นำไปเสียบเข้ากับพัดลมยักษ์เพื่อให้พัดลมเป่าเทียนให้ดับ โดยระหว่างทางผู้ถูกลงโทษจะทำการคลานลอดซุ้มรูปทรงบ้าน โดยบนซุ้มและข้างซุ้มจะมีเทียนใขล้อมรอบอยู่ ในระหว่างลอดซุ้ม ทีมงานและพิธีกรจะทำการลนน้ำตาเทียนใส่หลังของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพ้นออกจากซุ้มไปแล้วจะต้องเสียบปลั๊กเข้ากับพัดลม ถ้าพัดลมไม่ติดต้องคลานกลับไปยังจุดเริ่มต้นและหาปลั๊กตัวจริงที่สามารถเสียบเข้ากับพัดลมได้ เมื่อพัดลมติด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ยุงชุมจัง (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดนักโทษ โดยมีตุ๊กตายุงเกาะตามร่างกาย ที่ส่วนก้นของตุ๊กตายุงจะมีน้ำหวานสีแดงบรรจุภายใน โดยพิธีกรจะทำการตีตุ๊กตายุงด้วยไม้ตียุงและค้อนพลาสติก เมื่อยุงที่เกาะบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษถูกกำจัดหมดทุกตัว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

หวดให้เขียว เฟี้ยวฟ้าว (ผู้ถูกลงโทษจะถูกล็อกเข้ากับผนังโดยมีตุ๊กตาและแป็นบาสล้อมรอบตัวผู้ถูกลงโทษ พิธีกรและแขกรับเชิญทำการหวดลูกบอลพลาสติกด้วยไม้เทนนิส โดยให้โดนตุ๊กตาที่อยู่ล้อมรอบผู้ถูกลงโทษ เมื่อตุ๊กตาที่อยู่รอบตัวผู้ถูกลงโทษล้มหมดทุกตัว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เงาะป่าปาเป้า (ผู้ถูกลงโทษจะถูกล็อกเข้ากับผนังโดยมีลูกโป่งจำนวนมากล้อมรอบตัวผู้ถูกลงโทษ พิธีกรและแขกรับเชิญทำการเป่าลูกดอกที่ทำขึ้นจากไม้จิ้มฟัน โดยไม้จิ้มฟันได้ทำการเหลาให้มนกลมเพื่อลดอันตราย พิธีกรและแขกรับเชิญต้องเป่าลูกดอกหรือจิ้มลูกดอกให้โดนลูกโป่งที่อยู่ล้อมรอบผู้ถูกลงโทษแตกให้หมดทุกใบ เมื่อลูกโป่งที่อยุ่ล้อมรอบตัวผู้ถูกลงโทษแตกหมดทุกใบ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง
เกมเงาะป่าปาเป้า มีรูปแบบเดียวกับเกม หวดให้เขียว เฟี้ยวฟ้าว แต่มีจุดต่างที่อุปกรณ์ที่ใช้ในการลงโทษเท่านั้น)

ตู้ซ่อนไข่ (ผู้ถูกลงโทษขึ้นบนเบาะนวมยาวโดยสวมหมวกกันน็อกที่มีถ้วยวางไข่ติดไว้อยู่ ผู้ถูกลงโทษต้องนำไข่ไก่ที่อยู่บนศีรษะของตนไปส่งยังตู้เซฟซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยในระหว่างทางจะมีผู้ชมในห้องส่งจะสวมนวมและต่อยผู้ถูกลงโทษตลอดเวลา ผู้ถูกลงโทษต้องรักษาไข่ไก่ไม่ให้ไข่แตกพร้อมกับไม่ให้ตนเองล้มลง เมื่อล้มลงและไข่แตกจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เมื่อฝ่าฝันอุปสรรคมาได้จะต้องค้นหากุญแจที่จะไขตู้เซฟออกมาและนำไข่ไปวางไว้ในตู้เซฟ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปิดตาตีหม้อ (ผู้ถูกลงโทษจะนั่งลงและหม้อจะถูกวางไว้บนหัวและหน้าตักของผู้ถูกลงโทษ จากนั้นพิธีกรคนอื่น ๆ และดารารับเชิญจะปิดตาและหมุนตัว จากนั้นจะเดินไปตีหม้อที่อยู่กับผู้ถูกลงโทษ เมื่อตีหม้อทุกใบจนแตกแล้ว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

สะบัดร้อน สะบัดหนาว (ผู้ถูกลงโทษผู้ติดกับผนังโดยมีลูกโป่งผูกติดอยู่รอบร่างกายของผู้ถูกลงโทษ ทีมงาน, พิธีกรและแขกรับเชิญทำการสะบัดผ้าร้อนและผ้าเย็นใส่ผู้ถูกลงโทษ โดยผ้าที่สะบัดไปนั้นให้โดนลูกโป่งจนลูกโป่งแตก เมื่อลูกโป่งแตกทั้งหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

อย่าทำหนู (ผู้ถูกลงโทษแต่งหน้าเป็นหนูพร้อมกับเดินย่องเบาเพื่อนำเอาก้อนชีสยักษ์ที่วางไว้บนพื้นโดยจะมีกับดักหนูวางไว้กระจัดกระจายเต็มพื้น ในระหว่างการย่องเบาผู้ถูกลงโทษต้องเดินให้ไม่โดนกับดักหนู เมื่อเก็บก้อนชีสยักษ์ได้หมดทุกชิ้น จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

อึ่งทายไชโย (ผู้ถูกลงโทษจะถูกนั่งติดกับเก้าอี้ ภายในเสื้อผ้าจะมีลูกโป่งติดอยู่ที่ใต้ราวนมทั้ง 2 ข้าง หน้าท้อง และด้านหลัง โดยจะมีสายวาล์วเชื่อมต่อกับลูกโป่งไว้โดยผู้ลงโทษจะต้องเล่นเกมทายชื่อและทายตัวอักษรเมื่อตอบผิดหรือว่าไม่มีตัวอักษรในคำตอบ พิธีกรจะทำการเปิดวาล์วแก๊สเพื่อให้ลูกโป่งในเสื้อผ้าพองตัวคล้ายกับอึ่งอ่าง เมื่อลูกโป่งทั้ง 4 ใบขยายใหญ่และแตกออก จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ดักตุ่นจอมขโมย (ผู้ลงโทษทำหน้าที่เป็นตัวตุ่นในเกมตีตุ่น ขึ้นมารับประทานขนมและจำเป็นโดนค้อนพลาสติกจากผู้ลงโทษในระหว่างการหยิบขนม พร้อมกับรับประทานขนมทั้งหมด 8 ชิ้นให้ครบและกินปลาหมึกที่อยู่ด้านบน จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ไอ้หมึก ป้าบ ป้าบ (ผู้ถูกลงโทษนั่งลงเก้าอี้รถเข็นและถูกขามัดไว้กับเก้าอี้ ผู้ถูกลงโทษรับประทานอาหารโดยที่พิธีกรหรือแขกรับเชิญเข็นรถเข้าไปใกล้กับพัดลมปลาหมึก เมื่อถึงพัดลมปลาหมึก ผู้ถูกลงโทษต้องรีบรับประทานอาหารให้หมดก่อนที่จะถูกยางใบพัดปั่นตีศีรษะ เมื่อรับประทานอาหารจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

บันจี้จัมพ์ จำฝังใจ (ผู้ถูกลงโทษทำการยืนบนแท่นกระโดด โดยบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษจะถูกไม้หนีบซึ่งติดอยู่กับสายบันจี้จัมพ์ที่ทีมงานถือไว้ติดตามร่างกาย ผู้ถูกลงโทษทำการกระโดดลงมาจนไม้หนีบหลุดออกจากร่างกายจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ขบวนการชัคเกอร์เด้อ (ผู้ถูกลงโทษนอนลงบนเตียงคนไข้โดยมีทีมงานทำการล็อกแขนเอาไว้ จากนั้น พิธีกรและแขกรับเชิญจะใช้เครื่องดูดต่าง ๆ เช่น ไม้ดูดส้วม ตัวดูดกระจก เครื่องดูดฝุ่น ทำการดูดตามร่างกายของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพิธีกรและแขกรับเชิญทำการดูด (กลั่นแกล้ง) ผู้ถูกลงโทษจนพอใจ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

พระกระโดดกำแพงหนี (ผู้ถูกลงโทษต้องดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษ 1 แก้ว โดยเครื่องดื่มสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาวและอาหารหวาน เช่น แกงไตปลา น้ำยา ขนมหวาน ผลไม้ต่าง ๆ น้ำแข็ง ฯลฯ รวมเข้าไว้ด้วยกันและปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เมื่อผู้ถูกลงโทษดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ตุ๊กตาล้มลุก (ผู้ถูกลงโทษถูกล็อกเข้ากับทุ่นล้มลุกขนาดยักษ์ เมื่อพิธีกร แขกรับเชิญ และทีมงาน หมุนทุ่นไปแทงทิศใดต้องทานขนมเค้กในทิศนั้น เมื่อทานขนมเค้กจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ตุ๊กตาล้มลุก (ผู้ถูกลงโทษถูกล็อกเข้ากับทุ่นล้มลุกขนาดยักษ์ เมื่อพิธีกร แขกรับเชิญ และทีมงาน หมุนทุ่นไปแทงทิศใดต้องทานขนมเค้กในทิศนั้น เมื่อทานขนมเค้กจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ขบวนการชัคเกอร์เด้อ (ผู้ถูกลงโทษนอนลงบนเตียงคนไข้โดยมีทีมงานทำการล็อกแขนเอาไว้ จากนั้น พิธีกรและแขกรับเชิญจะใช้เครื่องดูดต่าง ๆ เช่น ไม้ดูดส้วม ตัวดูดกระจก เครื่องดูดฝุ่น ทำการดูดตามร่างกายของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพิธีกรและแขกรับเชิญทำการดูด (กลั่นแกล้ง) ผู้ถูกลงโทษจนพอใจ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

บันจี้จัมพ์ จำฝังใจ (ผู้ถูกลงโทษทำการยืนบนแท่นกระโดด โดยบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษจะถูกไม้หนีบซึ่งติดอยู่กับสายบันจี้จัมพ์ที่ทีมงานถือไว้ติดตามร่างกาย ผู้ถูกลงโทษทำการกระโดดลงมาจนไม้หนีบหลุดออกจากร่างกายจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ตุ๊กตาล้มลุก (ผู้ถูกลงโทษถูกล็อกเข้ากับทุ่นล้มลุกขนาดยักษ์ เมื่อพิธีกร แขกรับเชิญ และทีมงาน หมุนทุ่นไปแทงทิศใดต้องทานขนมเค้กในทิศนั้น เมื่อทานขนมเค้กจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ฝ่าฝนเทียน (ผู้ถูกลงโทษเลือกปลั๊กยาวตัวใดตัวหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด5 ตัว นำไปเสียบเข้ากับพัดลมยักษ์เพื่อให้พัดลมเป่าเทียนให้ดับ โดยระหว่างทางผู้ถูกลงโทษจะทำการคลานลอดซุ้มรูปทรงบ้าน โดยบนซุ้มและข้างซุ้มจะมีเทียนใขล้อมรอบอยู่ ในระหว่างลอดซุ้ม ทีมงานและพิธีกรจะทำการลนน้ำตาเทียนใส่หลังของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพ้นออกจากซุ้มไปแล้วจะต้องเสียบปลั๊กเข้ากับพัดลม ถ้าพัดลมไม่ติดต้องคลานกลับไปยังจุดเริ่มต้นและหาปลั๊กตัวจริงที่สามารถ เสียบเข้ากับพัดลมได้ เมื่อพัดลมติด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ศึกตานีปลายหวีเหี่ยว (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดต้นกล้วย โดยมีกล้วยจำนวน1หวี ผูกไว้ที่ปลายต้น ผู้ถูกลงโทษต้องกินกล้วย1หวีให้หมดโดยจะมีนักมวยเด็กจะทำการเตะไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ถูกลงโทษจะกินกล้วยหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ทายภาพหน้าตาชา (ผู้ถูกลงโทษจะทำการนั่งบนโต๊ะที่มีพัดลมรูปเท้า ผู้ถูกลงโทษต้องทายภาพปริศนาให้ถูกต้องทีละภาพไปเรื่อย ๆ โดยวิธีการใบ้คำ โดยในระหว่างที่ใบ้คำอยู่นั้นพัดลมรูปเท้าจะทำการหมุนรอบใบหน้าของผู้ถูกลงโทษ เมื่อผู้ถูกลงโทษทายภาพผิดพัดลมรูปเท้าจะหมุนเร็วขึ้นจนกว่าผู้ถูกลงโทษจะทายภาพถูก เมื่อทายภาพถูกหมดทุกภาพ พัดลมรูปเท้า จะหยุดหมุนลงทันที จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เปิดปั้ม ปั้มลม (ผู้ถูกลงโทษจะทำการนั่งบนเก้าอี้พิเศษโดยส่วนขาของเก้าอี้จะกางเป็นรูปV และล็อกขาทั้ง2ข้างเอาไว้โดยที่ผู้ถูกลงโทษจะต้องเล่นเกมทายภาพไปพร้อม ๆ กัน ผู้ถูกลงโทษต้องหาจุดต่างของภาพทั้ง4จุดภายในระยะเวลา1นาที เมื่อหาจุดต่างของภาพได้จะไม่โดนลงโทษ แต่เมื่อไม่สามารถหาจุดต่างของภาพในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกนวมยาวอัดที่ภายในบรรจุด้วยแป้งฝุ่นเข้าที่ใบหน้าพร้อมกับบั้นท้ายของพิธีกรที่ละเลงไปด้วยวิปครีม เมื่อถูกลงโทษในกรณีที่ไม่สามารถหาภาพได้หรือหาภาพได้ในระยะเวลาที่กำหนด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปริศนามีปัญหามั้ย (ผู้ถูกลงโทษจะถูกนั่งบนเก้าอี้โดยส่วนแขนและขาจะถูกมัดเข้ากับเก้าอี้ พิธ๊กรจะถามปัญหาเชาว์แด่ผู้ถูกลงโทษภายในเวลาที่กำหนด ในระหว่างการตอบคำถามผู้ถูกลงโทษจะถูกลากเก้าอี้ไปมาและถูกทีมงานรวมไปถึงแขกรับเชิญและผู้ชมทางห้องส่ง ใช้ค้อนพลาสติกหรือท่อยางทุบตีผู้ถูกลงโทษอย่างต่อเนื่อง เมื่อตอบคำถามครบ5ข้อเสร็จสิ้นจะยุติการลงโทษ แต่เมื่อไม่สามารถตอบคำถามได้ครบ5ข้อ ผู้ถูกลงโทษจะโดนเค้กโปะที่ใบหน้า จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

แหนมเมือง สะเทือนไต (ผู้ถูกลงโทษจะต้องรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษ โดยแหนมเมืองสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาว, อาหารหวาน และ ผลไม้ เช่น แหนมเมือง บอระเพ็ด วาซาบิ พริก หมู ทุเรียน ขนม ฯลฯ เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อผู้ถูกลงโทษรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)
เกมแหนมเมือง สะเทือนไต เป็นการดัดแปลงรูปแบบเกมพระกระโดดกำแพงหนี โดยเปลี่ยนจากการปั่นเครื่องดื่มเป็นการรับประทานแทน

ไอ้หมึก ป้าบ ป้าบ (ผู้ถูกลงโทษนั่งลงเก้าอี้รถเข็นและถูกขามัดไว้กับเก้าอี้ ผู้ถูกลงโทษรับประทานอาหารโดยที่พิธีกรหรือแขกรับเชิญเข็นรถเข้าไปใกล้กับพัดลมปลาหมึก เมื่อถึงพัดลมปลาหมึก ผู้ถูกลงโทษต้องรีบรับประทานอาหารให้หมดก่อนที่จะถูกยางใบพัดปั่นตีศีรษะ เมื่อรับประทานอาหารจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

สะบัดร้อน สะบัดหนาว (ผู้ถูกลงโทษผู้ติดกับผนังโดยมีลูกโป่งผูกติดอยู่รอบร่างกายของผู้ถูกลงโทษ ทีมงาน, พิธีกรและแขกรับเชิญทำการสะบัดผ้าร้อนและผ้าเย็นใส่ผู้ถูกลงโทษ โดยผ้าที่สะบัดไปนั้นให้โดนลูกโป่งจนลูกโป่งแตก เมื่อลูกโป่งแตกทั้งหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เค้กปาช่อง (ผู้ถูกลงโทษ จะต้องลอดศีรษะผ่านตามทางเดินของเครื่องเล่นที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องเล่นขดลวดไฟฟ้า ในระหว่างจะถูกพิธีกรและแขกรับเชิญปาเค้กใส่หน้า เมื่อผู้ถูกลงโทษหลุดออกจากเครื่องเล่นจะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง เมื่อผู้ถูกลงโทษสามารถเดินทางไปตามทางเดินจนถึงจุดเส้นชัย จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

กิโยตีน (ผู้ถูกลงโทษจะถูกล็อกไว้กับเครื่องแท่นกิโยติน โดยมีอุปกรณ์รูปเท้าซ้ายทำหน้าที่เป็นใบมีดกิโยตินพร้อมกับวางขนมหรือเค้กบนตัวผู้ถูกลงโทษ ผู้ถูกลงโทษจะต้องตอบปัญหาเชาวน์จากพิธีกรจำนวน 10 ข้อ ข้อไหนที่ตอบไม่ได้ทีมงานจะปล่อยอุปกรณ์รูปเท้าซ้ายลงทับขนม ข้อไหนที่ตอบถูกจะไม่โดนลงโทษ เมื่อตอบคำถามครบ 10 ข้อ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ตีนตุ๊กแกจอมเขมือบ (ผู้ถูกลงโทษจะแต่งตัวเป็นตุ๊กแกแล้วให้ปีนขึ้นไปเนินด้วยแขนตุ๊กแก ในระหว่างที่ปีนจะถูกคนปาดลูกบอลใส่ผู้ถูกลงโทษ พอปีนถึงแล้วให้ตีผึ้งใหญ่ที่ทีมงานจัดเอาไว้ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

แหนมเนืองสะเทือนไต (ผู้ถูกลงโทษจะต้องรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษ โดยแหนมเมืองสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาว, อาหารหวาน และ ผลไม้ เช่น แหนมเมือง บอระเพ็ด วาซาบิ พริก หมู ทุเรียน ขนม ฯลฯ เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อผู้ถูกลงโทษรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)
เกมแหนมเมือง สะเทือนไต เป็นการดัดแปลงรูปแบบเกมพระกระโดดกำแพงหนี โดยเปลี่ยนจากการปั่นเครื่องดื่มเป็นการรับประทานแทน

ไอ้หมึก ป้าบ ป้าบ (ผู้ถูกลงโทษนั่งลงเก้าอี้รถเข็นและถูกขามัดไว้กับเก้าอี้ ผู้ถูกลงโทษรับประทานอาหารโดยที่พิธีกรหรือแขกรับเชิญเข็นรถเข้าไปใกล้กับพัดลมปลาหมึก เมื่อถึงพัดลมปลาหมึก ผู้ถูกลงโทษต้องรีบรับประทานอาหารให้หมดก่อนที่จะถูกยางใบพัดปั่นตีศีรษะ เมื่อรับประทานอาหารจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

อึ่งไทยใชโย (ผู้ถูกลงโทษจะถูกนั่งติดกับเก้าอี้ ภายในเสื้อผ้าจะมีลูกโป่งติดอยู่ที่ใต้ราวนมทั้ง 2 ข้าง หน้าท้อง และด้านหลัง โดยจะมีสายวาล์วเชื่อมต่อกับลูกโป่งไว้โดยผู้ลงโทษจะต้องเล่นเกมทายชื่อและทายตัวอักษรเมื่อตอบผิดหรือว่าไม่มีตัวอักษรในคำตอบ พิธีกรจะทำการเปิดวาล์วแก๊สเพื่อให้ลูกโป่งในเสื้อผ้าพองตัวคล้ายกับอึ่งอ่าง เมื่อลูกโป่งทั้ง 4 ใบขยายใหญ่และแตกออก จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ต๊ากกระโดด (ผู้ถูกลงโทษสวมชุดนักเรียนชาย ทำการนั่งบนม้ากระดกโดยที่ขาถูกมัดเข้าไว้กับม้ากระดก อีกฝั่งโดยมีทีมงานที่แต่งกายเป็นนักเรียนหญิงจะเป็นผู้กระดกเครื่องเล่น ผู้ถูกลงโทษต้องนั่งเล่นม้ากระดกโดยต้องนั่งกระดกและทับลูกโป่งเป็นจำนวน 3 ลูก เมื่อลูกโป่ง 3 ลูก แตกทั้งหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปิดตาตีหม้อ (ผู้ถูกลงโทษจะนั่งลงและหม้อจะถูกวางไว้บนหัวและหน้าตักของผู้ถูกลงโทษ จากนั้นพิธีกรคนอื่น ๆ และดารารับเชิญจะปิดตาและหมุนตัว จากนั้นจะเดินไปตีหม้อที่อยู่กับผู้ถูกลงโทษ เมื่อตีหม้อทุกใบจนแตกแล้ว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ยุงชุมจัง (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดนักโทษ โดยมีตุ๊กตายุงเกาะตามร่างกาย ที่ส่วนก้นของตุ๊กตายุงจะมีน้ำหวานสีแดงบรรจุภายใน โดยพิธีกรหรือแขกรับเชิญจะทำการตีตุ๊กตายุงด้วยไม้ตียุงและค้อนพลาสติก เมื่อยุงที่เกาะบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษถูกกำจัดหมดทุกตัวจึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ดักตุ่นจอมขโมย (ผู้ลงโทษทำหน้าที่เป็นตัวตุ่นในเกมตีตุ่น ขึ้นมารับประทานขนมและจำเป็นโดนค้อนพลาสติกจากผู้ลงโทษในระหว่างการหยิบขนม พร้อมกับรับประทานขนมทั้งหมด 8 ชิ้นให้ครบ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ขบวนการชัคเกอร์เด้อ (ผู้ถูกลงโทษนอนลงบนเตียงคนไข้โดยมีทีมงานทำการล็อกแขนเอาไว้ จากนั้น พิธีกรและแขกรับเชิญจะใช้เครื่องดูดต่าง ๆ เช่น ไม้ดูดส้วม ตัวดูดกระจก เครื่องดูดฝุ่น ทำการดูดตามร่างกายของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพิธีกรและแขกรับเชิญทำการดูด (กลั่นแกล้ง) ผู้ถูกลงโทษจนพอใจ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

คลุมถุงชน (ผู้ถูกลงโทษต้องถูกเอาถุงที่มีคำข้างหน้าว่า "โชคดีนะ" และมีคำข้างหลังว่า "ซวยล่ะ" คลุมตัวเอาไว้ แล้วให้ผู้ถูกลงโทษวิ่งเข้าประตูทั้ง 3 ประตูให้ได้ ซึ่งจะเข้าประตูไหนก็ได้ ประตูไหนที่ทะลุออกไปได้จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง แต่บางประตูจะมีอุปสรรคอยู่ข้างในประตูทั้ง 3 อาทิ มีกำแพงอยู่ข้างใน, จะมีนักมวยเด็กจะทำการชกเตะผู้ถูกลงโทษ และมีคนทำการยิงปืนใส่ผู้ถูกลงโทษในระหว่างที่ผู้ถูกลงโทษหาทางออกไป ผู้ถูกลงโทษต้องเข้าประตูทั้ง 3 นี้ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ทายภาพหน้าตาชา (ผู้ถูกลงโทษจะทำการนั่งบนโต๊ะที่มีพัดลมรูปเท้า ผู้ถูกลงโทษต้องทายภาพปริศนาจากแผ่นป้ายทั้งหมด9แผ่นป้าย โดยในระหว่างที่พิธีกรเปิดแผ่นป้ายอยู่นั้นพัดลมรูปเท้าจะทำการหมุนรอบใบหน้าของผู้ถูกลงโทษ เมื่อผู้ถูกลงโทษทายภาพผิดพัดลมรูปเท้าจะหมุนเร็วขึ้นจนกว่าผู้ถูกลงโทษจะทายภาพถูก เมื่อแผ่นป้ายทั้ง9แผ่นป้ายถูกเปิดทั้งหมดและผู้ถูกลงโทษทายภาพถูก พัดลมรูปเท้า จะหยุดหมุนลงทันที จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

กิโยตีน (ผู้ถูกลงโทษจะถูกล็อกไว้กับเครื่องแท่นกิโยติน โดยมีอุปกรณ์รูปเท้าซ้ายทำหน้าที่เป็นใบมีดกิโยตินพร้อมกับวางขนมหรือเค้กบนตัวผู้ถูกลงโทษ ผู้ถูกลงโทษจะต้องตอบปัญหาเชาวน์จากพิธีกรจำนวน 10 ข้อ ข้อไหนที่ตอบไม่ได้ทีมงานจะปล่อยอุปกรณ์รูปเท้าซ้ายลงทับขนม ข้อไหนที่ตอบถูกจะไม่โดนลงโทษ เมื่อตอบคำถามครบ 10 ข้อ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ต๊ากกระโดด (ผู้ถูกลงโทษสวมชุดนักเรียนชาย ทำการนั่งบนม้ากระดกโดยที่ขาถูกมัดเข้าไว้กับม้ากระดก อีกฝั่งโดยมีทีมงานที่แต่งกายเป็นนักเรียนหญิงจะเป็นผู้กระดกเครื่องเล่น ผู้ถูกลงโทษต้องนั่งเล่นม้ากระดกโดยต้องนั่งกระดกและทับลูกโป่งเป็นจำนวน 3 ลูก เมื่อลูกโป่ง 3 ลูก แตกทั้งหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เค้กปาช่อง (ผู้ถูกลงโทษ จะต้องลอดศีรษะผ่านตามทางเดินของเครื่องเล่นที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องเล่นขดลวดไฟฟ้า ในระหว่างจะถูกพิธีกรและแขกรับเชิญปาเค้กใส่หน้า เมื่อผู้ถูกลงโทษหลุดออกจากเครื่องเล่นจะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง เมื่อผู้ถูกลงโทษสามารถเดินทางไปตามทางเดินจนถึงจุดเส้นชัย จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ฝ่าฝนเทียน (ผู้ถูกลงโทษเลือกปลั๊กยาวตัวใดตัวหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด5 ตัว นำไปเสียบเข้ากับพัดลมยักษ์เพื่อให้พัดลมเป่าเทียนให้ดับ โดยระหว่างทางผู้ถูกลงโทษจะทำการคลานลอดซุ้มรูปทรงบ้าน โดยบนซุ้มและข้างซุ้มจะมีเทียนใขล้อมรอบอยู่ ในระหว่างลอดซุ้ม ทีมงานและพิธีกรจะทำการลนน้ำตาเทียนใส่หลังของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพ้นออกจากซุ้มไปแล้วจะต้องเสียบปลั๊กเข้ากับพัดลม ถ้าพัดลมไม่ติดต้องคลานกลับไปยังจุดเริ่มต้นและหาปลั๊กตัวจริงที่สามารถเสียบเข้ากับพัดลมได้ เมื่อพัดลมติด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

มาเกี่ยวกันไหม (ผู้ถูกลงโทษจะนอนบนเตียง โดยบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษจะถูกไม้หนีบซึ่งติดอยู่เชื่อมกับตะกร้า พิธีกรคนอื่น ๆ และดารารับเชิญจะหนีบจนหมด แล้วเอาสิ่งของจากเล็กถึงใหญ่ใส่ในตะกร้าให้มันนวงลงไปเรื่อย ๆ จนไม้หนีบกระชากหลุดออกจากร่างกายจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ลาวกระทบไม้ (ผู้ถูกลงโทษจะต้องข้ามไม้เป็นจังหวะเพลง (เล่นลาวกระทบไม้) ซึ่งเล่นโดยพิธีกรและแขกรับเชิญ โดยข้ามให้ไปถึงฝั่ง พร้อมให้ผู้ถูกลงโทษจะต้องแบกกระเป๋ามา 4 ใบ โดยเอามาทีละอัน ซึ่งในระหว่างที่ข้ามไม้อยู๋นั้น พิธีกรและแขกรับเชิญจะกลั่นแกล้งผู้ถูกลงโทษ หากผู้ถูกทำโทษแบกกระเป๋าข้ามไม้ไปถึงฝั่งแล้ว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ขนมเพี๊ยะ (ผู้ถูกลงโทษจะถูกล็อกเข้ากับเตียง โดยปลายเตียงจะมีเค้กวางไว้ ด้านข้างมีถุงทรายจำนวนมากวางไว้ในถาด ด้านบนของศีรษะสวมหมวกที่มีกะละมังวางไว้ ทีมงานและพิธีกรจะทำการยิงลูกฟุตบอลใส่บั้นท้ายของผู้ถูกลงโทษด้วยหนังสติ๊กขนาดยักษ์ในเวลาจำกัด เมื่อลูกฟุตบอลถูกส่วนใดส่วนนึ่งของผู้ถูกลงโทษจะได้รับถุงทรายจำนวน 1 ถุง เพื่อใส่ไว้บนกะละมัง โดยผู้ถูกลงโทษจะต้องพยายามไม่ให้ใบหน้าโดนเค้ก เมื่อใบหน้าของผู้ถูกลงโทษโดนเค้ก หรือ ยิงลูกฟุตบอลจนหมดเวลา จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ไอ้หมึก ป้าบ ป้าบ (ผู้ถูกลงโทษนั่งลงเก้าอี้รถเข็นและถูกขามัดไว้กับเก้าอี้ ผู้ถูกลงโทษรับประทานอาหารโดยที่พิธีกรหรือแขกรับเชิญเข็นรถเข้าไปใกล้กับพัดลมปลาหมึก เมื่อถึงพัดลมปลาหมึก ผู้ถูกลงโทษต้องรีบรับประทานอาหารให้หมดก่อนที่จะถูกยางใบพัดปั่นตีศีรษะ เมื่อรับประทานอาหารจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปีปีโป่ง ปะปะ ปีปีโป่ง (ผู้ถูกลงโทษจะต้องมีลูกโป่งติดเต็มตัว แล้วให้ลอดช่องแคบโดยมีตะปูที่เตรียมไว้ให้ ระหว่างลอดนั้นลูกโป่งจะไปโดนกับตะปูแล้วลูกโป่งก็จะแตกแล้วทำให้ผู้ถูกลงโทษเจ็บปวดไปด้วย หากผู้ถูกลงโทษลอดผ่านมาได้จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ศึกตานีปลายหวีเหี่ยว (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดต้นกล้วย โดยมีกล้วยจำนวน1หวี ผูกไว้ที่ปลายต้น ผู้ถูกลงโทษต้องกินกล้วย1หวีให้หมดโดยจะมีนักมวยเด็กจะทำการเตะไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ถูกลงโทษจะกินกล้วยหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

พระกระโดดกำแพงหนี (ผู้ถูกลงโทษต้องดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษ 1 แก้วแชมเปญ โดยเครื่องดื่มสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาวและอาหารหวาน เช่น น้ำพริกปลาทู ส้มตำ ผลไม้ต่าง ๆ น้ำแข็ง ฯลฯ รวมเข้าไว้ด้วยกันและปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เมื่อผู้ถูกลงโทษดื่มเครื่องดื่มสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปิดตาตีหม้อ (ผู้ถูกลงโทษจะนั่งลงและหม้อจะถูกวางไว้บนหัวและหน้าตักของผู้ถูกลงโทษ จากนั้นพิธีกรคนอื่น ๆ และดารารับเชิญจะปิดตาและหมุนตัว จากนั้นจะเดินไปตีหม้อที่อยู่กับผู้ถูกลงโทษ เมื่อตีหม้อทุกใบจนแตกแล้ว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

มาเกี่ยวกันไหม (ผู้ถูกลงโทษจะนอนบนเตียง โดยบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษจะถูกไม้หนีบซึ่งติดอยู่เชื่อมกับตะกร้า พิธีกรคนอื่น ๆ และดารารับเชิญจะหนีบจนหมด แล้วเอาสิ่งของจากเล็กถึงใหญ่ใส่ในตะกร้าให้มันนวงลงไปเรื่อย ๆ จนไม้หนีบกระชากหลุดออกจากร่างกายจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

กิโยตีน (ผู้ถูกลงโทษจะถูกล็อกไว้กับเครื่องแท่นกิโยติน โดยมีอุปกรณ์รูปเท้าซ้ายทำหน้าที่เป็นใบมีดกิโยตินพร้อมกับวางขนมหรือเค้กบนตัวผู้ถูกลงโทษ ผู้ถูกลงโทษจะต้องตอบปัญหาเชาวน์จากพิธีกรจำนวน 10 ข้อ ข้อไหนที่ตอบไม่ได้ทีมงานจะปล่อยอุปกรณ์รูปเท้าซ้ายลงทับขนม ข้อไหนที่ตอบถูกจะไม่โดนลงโทษ เมื่อตอบคำถามครบ 10 ข้อ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ยุงชุมจัง (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดนักโทษ โดยมีตุ๊กตายุงเกาะตามร่างกาย ที่ส่วนก้นของตุ๊กตายุงจะมีน้ำหวานสีแดงบรรจุภายใน โดยพิธีกรหรือแขกรับเชิญจะทำการตีตุ๊กตายุงด้วยไม้ตียุงและค้อนพลาสติก เมื่อยุงที่เกาะบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษถูกกำจัดหมดทุกตัวจึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปีปีโป่ง ปะปะ ปีปีโป่ง (ผู้ถูกลงโทษจะต้องมีลูกโป่งติดเต็มตัว แล้วให้ลอดช่องแคบโดยมีตะปูที่เตรียมไว้ให้ ระหว่างลอดนั้นลูกโป่งจะไปโดนกับตะปูแล้วลูกโป่งก็จะแตกแล้วทำให้ผู้ถูกลงโทษเจ็บปวดไปด้วย หากผู้ถูกลงโทษลอดผ่านมาได้จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

แหนมเนืองสะเทือนไต (ผู้ถูกลงโทษจะต้องรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษ โดยแหนมเมืองสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาว, อาหารหวาน และ ผลไม้ เช่น แหนมเมือง บอระเพ็ด วาซาบิ พริก หมู ทุเรียน ขนม ฯลฯ เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อผู้ถูกลงโทษรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ฝ่าฝนเทียน (ผู้ถูกลงโทษเลือกปลั๊กยาวตัวใดตัวหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด5 ตัว นำไปเสียบเข้ากับพัดลมยักษ์เพื่อให้พัดลมเป่าเทียนให้ดับ โดยระหว่างทางผู้ถูกลงโทษจะทำการคลานลอดซุ้มรูปทรงบ้าน โดยบนซุ้มและข้างซุ้มจะมีเทียนใขล้อมรอบอยู่ ในระหว่างลอดซุ้ม ทีมงานและพิธีกรจะทำการลนน้ำตาเทียนใส่หลังของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพ้นออกจากซุ้มไปแล้วจะต้องเสียบปลั๊กเข้ากับพัดลม ถ้าพัดลมไม่ติดต้องคลานกลับไปยังจุดเริ่มต้นและหาปลั๊กตัวจริงที่สามารถเสียบเข้ากับพัดลมได้ เมื่อพัดลมติด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ตู้ซ่อนไข่ (ผู้ถูกลงโทษขึ้นบนเบาะนวมยาวโดยสวมหมวกกันน็อกที่มีถ้วยวางไข่ติดไว้อยู่ ผู้ถูกลงโทษต้องนำไข่ไก่ที่อยู่บนศีรษะของตนไปส่งยังตู้เซฟซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยในระหว่างทางจะมีผู้ชมในห้องส่งจะสวมนวมและต่อยผู้ถูกลงโทษตลอดเวลา ผู้ถูกลงโทษต้องรักษาไข่ไก่ไม่ให้ไข่แตกพร้อมกับไม่ให้ตนเองล้มลง เมื่อล้มลงและไข่แตกจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เมื่อฝ่าฝันอุปสรรคมาได้จะต้องค้นหากุญแจที่จะไขตู้เซฟออกมาและนำไข่ไปวางไว้ในตู้เซฟ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ไอ้หมึก ป้าบ ป้าบ (ผู้ถูกลงโทษนั่งลงเก้าอี้รถเข็นและถูกขามัดไว้กับเก้าอี้ ผู้ถูกลงโทษรับประทานอาหารโดยที่พิธีกรหรือแขกรับเชิญเข็นรถเข้าไปใกล้กับพัดลมปลาหมึก เมื่อถึงพัดลมปลาหมึก ผู้ถูกลงโทษต้องรีบรับประทานอาหารให้หมดก่อนที่จะถูกยางใบพัดปั่นตีศีรษะ เมื่อรับประทานอาหารจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

สแลมดังค์ (ผู้ถูกลงโทษจะอยู่ใต้แป้นบาสโดยสวมหมวกช้างที่มีเข็มจำนวน5แท่งติดอยู่ พิธีกรและแขกรับเชิญจะทำการโยนลูกโป่งน้ำจำนวนมากที่ถูกบรรจุไว้ในถังพลาสติก ให้ลงห่วงที่แป้นบาสเพื่อให้โดนเข็มที่อยู่บนหมวกของผู้ถูกลงโทษและแตกกระเซ็น เมื่อลูกโป่งน้ำที่บรรจุในถังไม่เหลือแม้แต่ใบเดียวและแตกครบทุกใบ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

อย่าทำหนู (ผู้ถูกลงโทษแต่งหน้าเป็นหนูพร้อมกับเดินย่องเบาเพื่อนำเอาก้อนชีสยักษ์ที่วางไว้บนพื้นโดยจะมีกับดักหนูวางไว้กระจัดกระจายเต็มพื้น ในระหว่างการย่องเบาผู้ถูกลงโทษต้องเดินให้ไม่โดนกับดักหนู เมื่อเก็บก้อนชีสยักษ์ได้หมดทุกชิ้น จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ยุงชุมจัง (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดนักโทษ โดยมีตุ๊กตายุงเกาะตามร่างกาย ที่ส่วนก้นของตุ๊กตายุงจะมีน้ำหวานสีแดงบรรจุภายใน โดยพิธีกรหรือแขกรับเชิญจะทำการตีตุ๊กตายุงด้วยไม้ตียุงและค้อนพลาสติก เมื่อยุงที่เกาะบนร่างกายของผู้ถูกลงโทษถูกกำจัดหมดทุกตัวจึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ขบวนการซัคเกอร์เด้อ (ผู้ถูกลงโทษนอนลงบนเตียงคนไข้โดยมีทีมงานทำการล็อกแขนเอาไว้ จากนั้น พิธีกรและแขกรับเชิญจะใช้เครื่องดูดต่าง ๆ เช่น ไม้ดูดส้วม ตัวดูดกระจก เครื่องดูดฝุ่น ทำการดูดตามร่างกายของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพิธีกรและแขกรับเชิญทำการดูด (กลั่นแกล้ง) ผู้ถูกลงโทษจนพอใจ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

อึ่งไทยไชโย (ผู้ถูกลงโทษจะถูกนั่งติดกับเก้าอี้ ภายในเสื้อผ้าจะมีลูกโป่งติดอยู่ที่ใต้ราวนมทั้ง 2 ข้าง หน้าท้อง และด้านหลัง โดยจะมีสายวาล์วเชื่อมต่อกับลูกโป่งไว้แล้วพิธีกรจะทำการเปิดวาล์วแก๊สเพื่อให้ลูกโป่งในเสื้อผ้าพองตัวคล้ายกับอึ่งอ่าง เมื่อลูกโป่งทั้ง 4 ใบขยายใหญ่และแตกออก จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ฝ่าฝนเทียน (ผู้ถูกลงโทษเลือกปลั๊กยาวตัวใดตัวหนึ่งจากจำนวนทั้งหมด5 ตัว นำไปเสียบเข้ากับพัดลมยักษ์เพื่อให้พัดลมเป่าเทียนให้ดับ โดยระหว่างทางผู้ถูกลงโทษจะทำการคลานลอดซุ้มรูปทรงบ้าน โดยบนซุ้มและข้างซุ้มจะมีเทียนใขล้อมรอบอยู่ ในระหว่างลอดซุ้ม ทีมงานและพิธีกรจะทำการลนน้ำตาเทียนใส่หลังของผู้ถูกลงโทษ เมื่อพ้นออกจากซุ้มไปแล้วจะต้องเสียบปลั๊กเข้ากับพัดลม ถ้าพัดลมไม่ติดต้องคลานกลับไปยังจุดเริ่มต้นและหาปลั๊กตัวจริงที่สามารถเสียบเข้ากับพัดลมได้ เมื่อพัดลมติด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

แหนมเมือง สะเทือนไต (ผู้ถูกลงโทษจะต้องรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษ โดยแหนมเมืองสูตรพิเศษนั้นเป็นการผสมระหว่างอาหารคาว, อาหารหวาน และ ผลไม้ เช่น แหนมเมือง บอระเพ็ด วาซาบิ พริก หมู ทุเรียน ขนม ฯลฯ เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อผู้ถูกลงโทษรับประทานแหนมเมืองสูตรพิเศษจนหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)
เกมแหนมเมือง สะเทือนไต เป็นการดัดแปลงรูปแบบเกมพระกระโดดกำแพงหนี โดยเปลี่ยนจากการปั่นเครื่องดื่มเป็นการรับประทานแทน

ศึกตานีปลายหวีเหี่ยว (ผู้ถูกลงโทษจะสวมชุดต้นกล้วย โดยมีกล้วยจำนวน1หวี ผูกไว้ที่ปลายต้น ผู้ถูกลงโทษต้องกินกล้วย1หวีให้หมดโดยจะมีนักมวยเด็กจะทำการเตะไปเรื่อย ๆ จนกว่าผู้ถูกลงโทษจะกินกล้วยหมด จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ดักตุ่นจอมขโมย (ผู้ลงโทษทำหน้าที่เป็นตัวตุ่นในเกมตีตุ่น ขึ้นมารับประทานขนมและจำเป็นโดนค้อนพลาสติกจากผู้ลงโทษในระหว่างการหยิบขนม พร้อมกับรับประทานขนมทั้งหมด 8 ชิ้นให้ครบ จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

ปิดตาตีหม้อ (ผู้ถูกลงโทษจะนั่งลงและหม้อจะถูกวางไว้บนหัวและหน้าตักของผู้ถูกลงโทษ จากนั้นพิธีกรคนอื่น ๆ และดารารับเชิญจะปิดตาและหมุนตัว จากนั้นจะเดินไปตีหม้อที่อยู่กับผู้ถูกลงโทษ เมื่อตีหม้อทุกใบจนแตกแล้ว จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)

เค้กปาช่อง (ผู้ถูกลงโทษ จะต้องลอดศีรษะผ่านตามทางเดินของเครื่องเล่นที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องเล่นขดลวดไฟฟ้า ในระหว่างจะถูกพิธีกรและแขกรับเชิญปาเค้กใส่หน้า เมื่อผู้ถูกลงโทษหลุดออกจากเครื่องเล่นจะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง เมื่อผู้ถูกลงโทษสามารถเดินทางไปตามทางเดินจนถึงจุดเส้นชัย จึงถือว่าเกมสิ้นสุดลง)