ผลงานทางโทรทัศน์ ของ ฮิลารี_ดัฟ

เริ่มเข้าสู่วงการโทรทัศน์

เธอเข้าสู่อาชีพการแสดงเริ่มจากบทเล็กๆ และบทตัวประกอบในมินิซีรีส์ทางโทรทัศน์ True Women ในปี 1997 ของ Hallmark Entertainment แล้วเธอยังแสดงบทเล็กใน Playing by Heart (1998) ก่อนที่จะได้รับแสดงในบทนำในปี 1998 กับหนัง Casper Meets Wendy ที่สร้างออกมาเป็นแผ่นวางจำหน่าย หนังประสบความสำเร็จมาก ทั้งเรื่องรายได้และคำวิจารณ์[5][6] จนมีภาคต่อออกมา แต่บทนำในภาคต่อต้องอายุน้อยกว่าเธอในขณะนั้น จึงไม่ได้รับบทนำในภาคต่อในปี 1999 เธอได้รับบทสมทบในหนังทางโทรทัศน์เรื่อง The Soul Collector ที่สร้างมาจากนิยายของ คาร์ทลีน เคน แสดงคู่กับบรูซ กรีนวู้ด และ เมลลิซา กิลเบิร์ท เธอยังได้รับรางวัล Young Artist Awards มาครองจากสาขารางวัลการแสดงผลงานหนังทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม จากบทบาทในหนังเรื่องนี้อีกด้วย[7] ต่อมาเธอแสดงในละครทางโทรทัศน์เรื่อง Daddio ทางสถานีโทรทัศน์ NBC ร่วมกับ ไมเคิล ชิคลิส ก่อนที่จะถอนตัวออกจากละคร ก่อนที่จะมารับบทนำในละครทางโทรทัศน์ที่ทำให้เธอแจ้งเกิดเต็มตัว

Lizzie McGuire

หลังจากที่ถอนตัวออกจาก Daddio เพียงหนึ่งอาทิตย์ต่อมา แม่ของเธอได้รับข่าวดีให้เธอไปคัดตัวแสดงในละครโทรทัศน์เรื่องใหม่ และเธอก็ได้รับบทนำมาในที่สุดในเรื่อง Lizzie McGuire เรื่องราวชีวิตของเด็กสาววัยรุ่นที่มีเรื่องต่างๆ เข้ามาในชีวิตช่วงมัธยมของเธอ เธอร่วมแสดงกับ ลาลีนน์, อดัมส์ แลมเบิร์ก, เจค โทมัส, เคย์ตัน ไซน์เดอร์, โรเบิร์ต คาร์ราดีน และ ฮัลลีย์ ทอดด์Lizzie McGuire ออกอากาศครั้งแรกที่ช่อง Disney Channel ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2001 กลายเป็นละครโทรทัศน์ดังระเบิดทันนี้ โดยมีผู้ชมชมกว่า 2.3 ล้านคนต่อตอน โดยได้ผู้ชมเด็กสาวอายุ 7-14 ปีเป็นแฟนประจำของละครเรื่องนี้[8] หลังจากที่ฉายไปได้ 65 ตอน ช่อง ABC ก็ติดต่ออยากจะให้เธอไปร่วมแสดงในรายการของตน แต่ท้ายที่สุดก็ยกเลิกไป เพราะเธอยังคงไม่ว่างที่ปลีกตัวไปจากละครฮิตเรื่องนี้ได้ จนในที่สุดในปี 2003 ตัวละครสร้างชื่อของเธอ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ใน The Lizzie McGuire Movie

ต่อมาในปี 2019 เธอได้ปรากฏตัวภายในงาน D23 ประจำปี พร้อมกับผู้บริหาร วอลต์ ดิสนีย์ เพื่อประกาศสร้างซีรีส์ฉบับใหม่ของ Lizzie McGuire ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นภาคต่อเรื่องราวของอดีตสาววัยรุ่น ที่บัดนี้ได้เติบใหญ่เป็นสาววัยทำงาน และพาผู้ชมไปติดตามดูชีวิตของเธอในปัจจุบันได้เป็นตามความฝันที่เคยตั้งเอาไว้ในวัยเด็กหรือไม่ โดยซีรีส์เรื่องนี้วางแผนจะฉายผ่านบริการ ดิสนีย์พลัส จนกระทั่งในช่วงกลางปี 2020 ทางดิสนีย์ได้ออกมาประกาศปลดซีรีส์เรื่องดังกล่าวออกจากแผนงาน โดยระบุว่าเนื้อหาของซีรีส์ไม่เหมาะสมที่จะถูกใส่เข้ามาเป็นคอนเทนท์ของดิสนีย์พลัส ทำให้ซีรีส์ตกอยู่ในสถานะคลุมเครือ โดยที่นักแสดงได้เริ่มถ่ายทำงานไปแล้วบางส่วน และในช่วงปลายเดียวกันนั้น ฮิลารี ดัฟ ได้ออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่า ซีรีส์เรื่องนี้ได้จอดนิ่งสนิทและไม่สามารถพัฒนาใดๆ ได้อีกอย่างน่าเสียดาย

Gossip Girl

เธอถูกทาบทามให้รับบท Olivia Burke ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาให้ซีรีส์ชุด Gossip Girl ในฤดูกาลที่ 3 ที่จะเริ่มออกอากาศฤดูใบไม้ร่วงปี 2009 นี้ โดยส่วนของตัวละครนี้จะเป็นดาราสาวที่มาที่เมืองใหญ่อย่าง มหานครนิวยอร์ก เพื่อมาหาประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัยและพัฒนาฝีมือการแสดงของเธอ โดยเธอเป็นรูมเมทคนใหม่ของ วาเนสซ่า (Jessica Szohr)[9]

Younger

เดือนมกราคม 2014 เธอร่วมเป็นนักแสดงทีวีซีรีส์ชุดใหม่ทางช่อง TV Land สร้างจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ พาเมลา เรดมอนด์ ซึ่งได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดี ดาร์เรน สตาร์ จากทีวีซีรีส์ชุด Sex and the City มาร่วมอำนวยการสร้าง โดยทีวีซีรีส์ชุดนี้นำแสดงโดย ซัตตัน ฟอสเตอร์, มิเรียม ชอร์, เดบี มาซาร์ ส่วนเธอรับบทเป็น เคลซีย์ อีกหนึ่งตัวละครสำคัญในทีวีซีรีส์ชุดเรื่องนี้[10] นับเป็นการกลับไปแสดงทีวีซีรีส์อีกครั้งในรอบ 5 ปี ต่อมาทางผู้บริหาร TV Land ประกาศเดินหน้าสร้างทีวีซีรีส์ชุดนี้แบบเต็มฤดูกาล จำนวน 12 ตอน โดยมีกำหนดอากาศช่วงฤดูหนาว 2014-2015[11] และซีรีส์ยังคงได้รับอนุมัติให้สร้างฤดูกาลอื่นๆ ตามมาอีก กระทั่งมาถึงฤดูกาลที่ 7 ที่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเรื่อง ที่ออกอากาศในปี 2021 นอกจากนี้ ทีมผู้สร้างยังมีแผนที่จะสร้างซีรีส์ภาคแยกที่โฟกัสที่ตัวละคร เคลซีย์ พีเตอร์ส โดยเฉพาะอีกด้วย

รายการโทรทัศน์อื่นๆ

ในขณะที่ Lizzie McGurie กำลังโด่งดัง เธอยังมาแสดงนำให้หนังทางโทรทัศน์ของ Disney ใน Cadet Kelly ร่วมกับ คริสตี้ คาร์ลสัน โรมาโน่ และ แกรี่ โคลล์ ก่อนที่จะสร้างสถิติผู้ชมชมมากที่สุดในรอบ 19 ปีที่ผ่านมา ในหนังเป็นรับบทเป็นเด็กสาวที่ถูกส่งตัวไปในโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อที่จะได้เรียนรู้ถึงความอดทนและสามัคคีในชีวิตเธอยังได้เป็นแขกรับเชิญตามรายการโทรทัศน์ต่างๆ เธอปรากฏใน Chicago Hope ในปีเดือนมีนาคม 2003 ก่อนจะไปรับเชิญใน George Lopez ปีเดียวกันนั้น และไปแสดงรับเชิญคู่กับพี่สาวเธอใน American Dreams ในปี 2005 เธอกลับไปร่วมรับเชิญใน George Lopez อีกครั้ง และแสดงเป็นเพื่อนร่วมชั้นเห็นแก่ตัวใน Joan of Arcadia ในขณะที่เธอทัวร์ Most Wanted กัวดาลาจารา ในเม็กซิโก เธอยังไปรับเชิญในโชว์ของศิลปินท้องถิ่น Rebelde ต่อมาในปี 2007 เธอรับเชิญเปิดตอนใหม่ของโชว์ The Andy Milonakis Show

และในปี 2009 เธอจะกลับไปสู่สื่อที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในอาชีพของเธอ นั่นคือโทรทัศน์นั่นเอง เธอจะแสดงในซีรีส์ใหม่ให้กับช่องสถานีโทรทัศน์ NBC เรื่อง Barely Legal ซึ่งแสดงเป็นนักกฎหมายอายุน้อย ที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ คาห์เลียน ฮอร์ทซ[12] นอกจากนั้นเธอจะไปแสดงรับเชิญในกับซีรีส์ Ghost Whisperer ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง CBS โดยเธอจะแสดงในตอนที่ชื่อว่า Thrilled to Death ออกอากาศวันที่ 10 เมษายน 2009 โดยเธอจะแสดงเป็น เมแกน เจฟฟรี่ย์ส หญิงสาวที่เห็นชายที่ถูกฆ่าตายอย่างประหลาด[13]และเธอได้แสดงในซีรีส์ Law & Order: SVU ทางสถานีโทรทัศน์ของ NBC โดยเธอแสดงในตอนที่ชื่อว่า Selfish ที่เป็นเรื่องราวของแม่กับลูก และการลักพาตัว โดยมีกำลังออกอากาศวันที่ 28 เมษายน 2009[14]

ในช่วงปลายปี 2010 เธอแสดงในบทรับเชิญให้แก่ซีรีส์ตลก Communtiy ทางช่อง NBC ในตอนที่มีชื่อว่า Aerodynamics of Gender โดยรับบทเป็น เมแกนห์ นักเรียนสาวร้ายเงียบ! โดยจะออกอากาศในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2010[15]

เดือนสิงหาคม 2012 เธอได้ประกาศเซ็นสัญญาร่วมผลิตและแสดงโชว์ทีวี ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ เทเลวิชั่น ซึ่งกำลังมองหาโปรเจกต์ทีวีซีรีส์ ความยาวตอนละ 30 นาที เพื่อให้เธอได้รับบทบาทการแสดงทางหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง[16]

เดือนมกราคม 2013 มีรายงานข่าวระบุว่า เธอจะร่วมแสดงให้ซีรีส์ตลก Raising Hope ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ เทเลวิชั่น ในตอนที่มีชื่อว่า The Old Girl โดยรับบทเป็น ราเชลล์ แฟนเก่าของ จิมมี่ ตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งจะกลับมาสร้างความปั่นป่วนให้สัมพันธ์ของ 2 พระนางคู่เอก ออกอากาศในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2013[17]

เดือนเมษายน 2013 เธอได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่าจะร่วมแสดงเป็นดารารับเชิญให้ซีรีส์ตลกยอดนิยม Two and A Half Men ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ในตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่ 10 โดยรับบทเป็น สเตซีย์ แฟนสาวของ วอลเดน (แอชตัน คุชเชอร์) ออกอากาศในวันที่ 9 พฤษภาคม 2013[18]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฮิลารี_ดัฟ http://www.accessallareas.net.au/data/EEZkuVFpEAaG... http://www.avclub.com/content/node/837 http://bauergriffinonline.com/2010/02/hilary-duff-... http://www.cinemablend.com/new/Hilary-Duff-And-Tob... http://www.deadline.com/2012/08/hilary-duff-signs-... http://www.empireonline.com/news/feed.asp?NID=2929... http://www.eonline.com/news/381091/casting-scoop-h... http://www.eonline.com/news/497532/hilary-duff-spl... http://www.eonline.com/news/hilary_duff_going_be_m... http://ausiellofiles.ew.com/2009/07/hilary-duff-jo...