รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในแต่ละปี ของ เกมวัดดวง

ในแต่ละปี รายการเกมวัดดวง ที่ทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมวัดดวงให้มีความสนุกสนานและความบันเทิงต่อผู้ชมทางบ้าน รวมไปถึง การปรับปรุงรูปแบบต่าง ๆ ในการเล่น ซึ่งในแต่ละปีจะมีรูปแบบการเล่นดังนี้

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในช่วงแรก (พ.ศ. 2545 - 2550)

ในช่วงแรกเกมวัดดวงจะทำการแข่งขันให้ผู้เข้าแข่งขันไม่เกิน 50 คนมาเล่นเกมวัดดวง และคัดเข้ารอบ ตกรอบไปเรื่อย ๆ จนเหลือคนเดียว ซึ่งจะวัดดวงสัปดาห์ละ 5-6 รอบ ต่อมา ราว ๆ ปี พ.ศ. 2548 ถูกลดเกมลงมาเหลือ 4 รอบ และได้มีการกำหนดเทปในแต่ละสัปดาห์ว่าเป็นตอนอย่างไรบ้าง และในปี พ.ศ. 2550 ทางรายการได้รับสมัครผู้เข้าแข่งขันแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 25 คน

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี พ.ศ. 2551

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี 2551 นั้นมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงไปมากจากปีก่อน ๆ คือ ระบบการรับสมัครเป็นทีมจะเหลือ 15 คน มีดารารับเชิญมาร่วมสนุกโดยการเป็นหัวหน้าทีม หลังจากนั้น เมื่อแข่งขันจนได้ผู้ชนะมาแล้ว จะได้เป็นแชมป์ประจำสัปดาห์ เพื่อรอผู้ท้าชิงกับอีกคนในสัปดาห์ถัดไป ในรอบชิงแชมป์นั้น จะมีการเล่นเกมวัดดวง 1 เกม สำหรับผู้ที่เป็นแชมป์และผู้ท้าชิง ผู้ที่ชนะจะได้เป็นแชมป์ และเข้าสู่รอบแจ๊กพอตต่อไป โดยผู้ที่เป็นแชมป์จะสะสมรางวัลจากรอบแจ๊กพอตอย่างต่อเนื่อง ถ้าแชมป์ดวงดี สามารถป้องกันได้ถึง 10 สมัย จะได้รับทองคำหนักมูลค่า 10 บาท

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี พ.ศ. 2552

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี 2552 จะเป็นแบบแรลลี่ โดยมีผู้เข้าแข่งขัน 2 ทีม ทีมละ 4 คนมีดารารับเชิญมาร่วมสนุกโดยการเป็นหัวหน้าทีม ลักษณะการเล่นคือ ในแต่ละรอบจะต้องวัดดวงกันให้ชนะทีมฝ่ายตรงข้ามด้วยการวัดดวง ทีมที่ชนะ จะได้รับลูกบอลเก็บคะแนน 2 ลูก ในขณะที่ทีมที่แพ้ได้รับลูกบอลเก็บคะแนน 1 ลูก ในระหว่างเกมจะมีภารกิจให้ทำ โดยการมุ่งหน้าไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จก่อน ทีมใดที่ทำภารกิจแพ้จะโดนทำโทษต่าง ๆ เช่น หัก 2 คะแนน, ยึดลูกบอลคะแนน เป็นต้น

หลังจากที่วัดดวงกันมาถึงรอบที่ 3 จะมีการสรุปคะแนนจากลูกบอลคะแนน โดยข้างในลูกบอลคะแนนแต่ละลูกจะมีเลข 0 ถึง 9 อยู่ในลูกบอลซึ่งเป็นคะแนนของทีมที่ได้ ทีมใดได้คะแนนมากกว่าจะเป็นทีมที่ชนะและเข้ารอบสุดท้าย และรอบสุดท้ายจะคัดเข้ารอบเพียง 1 คนเท่านั้น และชิงแชมป์กับแชมป์ประจำสัปดาห์ เหมือนรูปแบบในปี 2551

แต่ต่อมา รูปแบบการเล่นนี้ ทำให้เสียเวลา และเกิดความลำบากในการเล่น อีกทั้งยังมีผู้เข้าแข่งขันน้อย (8 คน) จึงทำให้ยกเลิกการเล่นรูปแบบนี้ และเปลี่ยนกลับมาเล่นในรูปแบบเดิมคือ เล่น 30-50 คน และคัดเข้ารอบ-ตกรอบเหมือนเดิม (เหมือนกับรูปแบบการเล่นในปีพ.ศ. 2545ถึงปีพ.ศ. 2549) [3] [4]

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี พ.ศ. 2553 (วัดดวง วัดโดน)

ดารารับเชิญทั้ง 3 คนจะมาวัดดวงกันตามสถานที่ต่าง ๆ โดยก่อนเริ่มเกม น้าเน็คจะทำการเชิญหมอดูออกมา (ช่วงเช็คดวงก่อนโดน) เพื่อทำนายทายทักในเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งบอกว่าใครน่าจะเป็นคนที่ดวงตกที่สุด (ทั้งนี้ อาจจะมีช่วงกติกาเล่นทีเผลอซ่อนอยู่ โดนคนที่เผลอทำจะโดนทันที) หลังจากนั้นน้าเน็คจะพาดารารับเชิญไปเล่นเกมเพื่อหาคนที่ดวงดี, ดวงปกติและดวงอ่อน คนที่ดวงอ่อนจะโดนไปในแต่ละเกม เมื่อเล่นครบ 3 เกมจะทำการสรุป โดยผู้ที่ดวงดีที่สุดจะได้รับรางวัล 30,000 บาท ส่วนผู้ที่ดวงอ่อนที่สุดจะถูกทำโทษโดยการเพนท์ (เฮนน่า) อัปยศคำว่า "คนดวงตก" อีกด้วย

ในระหว่างรายการ น้าเน็คและดารารับเชิญจะพักรับประทานอาหารในช่วงกินตามดวง โดยน้าเน็คและดารารับเชิญจะไปรับประทานอาหารกับร้านอาหารในละแวกนั้น และร่วมวัดดวงกับทางร้านโดยมีกติกาคือ ทางรายการจะมีไม้จิ้มฟันอยู่ 8 ก้านอยู่ในเครื่องกดไม้จิ้มฟัน หนึ่งในนั้นจะมีปลายสีแดง ถ้าหากทางร้านหยิบได้ไม้แดง น้าเน็คและดารารับเชิญจะได้รับประทานอาหารในมื้อนั้นฟรี แต่ถ้าน้าเน็คและดารารับเชิญหยิบได้ไม้แดง ทางรายการจะต้องจ่ายค่าอาหารทั้งหมดเอง

เมื่อแข่งขันครบ 3 เกมแล้ว จะทำการเล่นช่วงพลิกดวง ซึ่งจะมีตุ๊กตาน้าเน็คอยู่ 5 ตัว หนึ่งในนั้นจะมีเครื่องหมายของรายการอยู่ ผู้ที่เลือกเจอเครื่องหมายของรายการ จะได้รับเงินโบนัส 10,000 บาท โดยลำดับในการเล่นจะเรียงจากผู้ที่ดวงดี, ดวงปกติ และดวงอ่อนตามลำดับ และถ้าหากคนดวงอ่อนเลือกได้เครื่องหมายของรายการ นอกจากจะได้รับเงินโบนัส 10,000บาท แล้ว จะได้รับยกเว้นในการถูกเฮนน่าอีกด้วย (ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นการเลือกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก SVOA แทนตุ๊กตาน้าเน็ค และถ้าคนดวงอ่อนได้รับโบนัส คนดวงปกติจะถูกเฮนน่าแทน)

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา ทางได้การได้ยกเลิกช่วงกินตามดวง และช่วงพลิกดวงออกไป และได้ให้ผู้ชมทางบ้านได้ร่วมสนุกเล่นเกมวัดดวง ในเกมที่ 3 โดยมีกฎคือ เมื่อเกมจบ ทีมที่ตกรอบ หัวหน้าทีมจะต้องโดนทำโทษ โดยผู้ชมทางบ้านที่ดวงดีที่สุด จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี พ.ศ. 2558 (แบบ Season แต่ตั้งแต่ เม.ย. ถึง มิ.ย. 2558)

รูปแบบในปี 2558 เป็นรูปแบบในการออกอากาศแบบ Season ละ 13 ตอน โดยแต่ละตอนแบ่งได้ดังนี้

  • EP.1 รวมภาพการแข่งขันเกมวัดดวงรอบคัดเลือก เพื่อคัดเลือกจากผู้สมัครมากว่า 1,000 คนให้เหลือ 600 คน ดังนี้
    • ภาคเหนือ ศูนย์การค้าเมญ่า ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ จ.เชียงใหม่
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี จ.อุดรธานี
    • ภาคใต้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ จ.สงขลา
    • ภาคกลาง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
  • EP.2-6 รอบ Audition ณ Moon Star Studio ได้มีการนำ 100 เกมในตำนานของรายการเกมวัดดวงมาแข่งขันคัดเลือกจาก 600 คน ให้เหลือเพียง 300 กว่าคนเท่านั้น
  • EP.7 รอบ The Master ผู้ที่ผ่านเข้ารอบจะต้องทำการดูดวงจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์ทั้ง 5 ศาสตร์ เพื่อคำนวณดวงในหน่วยดาว โดยผู้ที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทั้ง 65 คนจะต้องเป็นคนดวงดีในระดับตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป
  • EP.8-12 รอบ The Mission ผู้เข้าแข่งขันจะถูกแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 13 คน เพื่อแข่งขันในรอบ The Mission ในแต่ละ Stage ซึ่งแต่ละ Stage ล้วนเป็นสถานที่สำคัญระดับประเทศและมีเหตุผลของการเลือกสถานที่แข่งขัน ดังนี้
    • EP.8 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ศูนย์การค้าชั้นนำระดับเอเชียที่มีผู้หมุนเวียนกว่า 150,000 คนต่อวัน
    • EP.9 เกาะรัตนโกสินทร์ สถานที่ท่องเที่ยวที่รวมสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างมากมาย และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
    • EP.10 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานบริการดีเด่นเป็นอันดับ 5 ของโลก โดย Skytrax ที่มีผู้โดยสารกว่า 50 ล้านคนต่อปี
    • EP.11 เรือหลวงจักรีนฤเบศร์
    • EP.12 อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ อโศก
  • EP.13 รอบ The Final round นำผู้ชนะจากแต่ละ Stage มาแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี พ.ศ. 2558 (แบบปกติ)

หลังจากจบการแข่งขันแบบ Season เกมวัดดวงจะทำการแข่งขันให้ผู้เข้าแข่งขันไม่เกิน 20 คนมาเล่นเกมวัดดวง และคัดเข้ารอบ ตกรอบไปเรื่อย ๆ จนเหลือคนเดียว ซึ่งจะวัดดวงสัปดาห์ละ 4 รอบ โดยมีการกำหนดเทปในแต่ละสัปดาห์ว่าเป็นตอนอย่างไรบ้าง

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวง ฮอลิเดย์

ในเกมวัดดวง ฮอลิเดย์นั้น ทางรายการได้เปลี่ยนกลับมาเล่นเกมในรูปแบบ คัดคนเข้ารอบ-ตกรอบ เหมือนเดิม โดยในแต่ละครั้ง ผู้แข่งขันที่เป็นสุดยอดคนดวงดี (ผู้ชนะในแต่ละครั้ง) จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และมีสิทธิ์เล่นเกมเพื่อชิงรางวัลแจ๊คพ็อต แพ็คเก็จทัวร์ประเทศเกาหลีใต้ อีกด้วย (หรือในบางครั้ง สุดยอดคนดวงดีจะได้รับรางวัลแจ๊คพ็อต โดยไม่ต้องเล่นเกมรอบแจ๊คพ็อต)