เศรษฐศาสตร์การเกษตร ของ เกษตรกรรม

บทความหลัก:เศรษฐศาสตร์การเกษตร

ดูเพิ่มเติม:เงินอุดหนุนเกษตรกรรมและเศรษฐศาสตร์ชน

เศรษฐศาสตร์การเกษตรหมายถึงเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ "การผลิต การจัดจำหน่ายและการบริโภคสินค้าและบริการของการเกษตร"[99] เมื่อรวมกับการผลิตทางการเกษตรด้วยทฤษฎีทั่วไปของการตลาดและธุรกิจให้เป็นสาขาของการศึกษาได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายยุค 1800s และเติบโตอย่างมีนัยสำคัญผ่านศตวรรษที่ 20[100] ถึงแม้ว่าการศึกษาของเศรษฐกิจการเกษตรค่อนข้างใหม่ แนวโน้มที่สำคัญในเกษตรกรรมได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับเศรษฐกิจระดับชาติและนานาชาติตลอดประวัติศาสตร์ ตั้งแต่เกษตรกรผู้เช่าและเกษตรกรรมแบบแบ่งผลประโยชน์ในภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาช่วงหลังสงครามกลางเมือง[101] จนถึงระบบศักดินาขุนนางยุคกลางของยุโรป[102] ในสหรัฐอเมริกาและที่อื่นๆ ค่าใช้จ่ายอาหารมีส่วนอุดหนุนอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร การจัดจำหน่ายและการตลาดเกษตรกรรม บางครั้งเรียกว่าห่วงโซ่คุณค่า (อังกฤษ: value chain) ได้เกิดขึ้นในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรได้ลดลง นี่จะเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของการทำการเกษตร รวมกับระดับที่เพิ่มขึ้นของการเพิ่มมูลค่า (เช่นผลิตภัณฑ์แปรรูปขั้นสูงที่มีมากขึ้น) ที่ถูกจัดหามาให้โดยห่วงโซ่อุปทาน ความเข้มข้นของตลาดก็ได้เพิ่มขึ้นในภาคเกษตรกรรมเช่นกัน และแม้ว่าผลกระทบรวมของความเข้มข้นของตลาดที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงจะแจกจ่ายส่วนเกินทางเศรษฐกิจจากผู้ผลิต (เกษตรกร) และผู้บริโภค และอาจมีผลกระทบในเชิงลบต่อชุมชนชนบท[103]

นโยบายของรัฐบาลแห่งชาติสามารถเปลี่ยนตลาดทางเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรได้อย่างมีนัยสำคัญ ในรูปแบบของการจัดเก็บภาษี การอุดหนุน ค่าธรรมเนียมและมาตรการอื่นๆ[104] ตั้งแต่อย่างน้อยปี 1960s การรวมกันของข้อจำกัดด้านการนำเข้า/ส่งออก นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและเงินอุดหนุนได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาแล้ว ในช่วงปี 1980s มันเป็นที่ชัดเจนว่าเกษตรกรที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุนในประเทศกำลังพัฒนาได้ประสบผลกระทบที่ร้ายแรงจากนโยบายระดับชาติที่สร้างราคาต่ำเทียมทั่วโลกสำหรับสินค้าเกษตร ระหว่างช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 และต้นยุค 2000 ข้อตกลงระหว่างประเทศหลายอย่างถูกจัดทำขึ้นเพื่อจำกัดค่าธรรมเนียมการเกษตร การอุดหนุนและข้อจำกัดทางการค้าอื่นๆ[105]

อย่างไรก็ตาม ณ ปี 2009 ยังคงมีปริมาณจำนวนมากของการบิดเบือนนโยบายขับเคลื่อนของราคาสินค้าเกษตรทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีการบิดเบือนการค้ามากที่สุดมี 3 อย่างคือ น้ำตาล นมและข้าว ส่วนใหญ่เกิดจากการจัดเก็บภาษี ในบรรดาเมล็ดพืชน้ำมัน งามีการจัดเก็บภาษีมากที่สุด แต่โดยรวมแล้ว ธัญพืชอาหารสัตว์และเมล็ดพืชน้ำมันมีการจัดเก็บภาษีในระดับที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์มาก ตั้งแต่ปี 1980 การบิดเบือนนโยบายขับเคลื่อนได้เห็นการลดลงที่มากขึ้นในหมู่ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์มากกว่าพืชในช่วงการปฏิรูปทั่วโลกในนโยบายทางการเกษตร[106] แม้จะมีความคืบหน้าแบบนี้ พืชบางอย่าง เช่นฝ้าย ยังคงเห็นการอุดหนุนในประเทศที่พัฒนาแล้วที่ทำให้ราคาทั่วโลกลดหวบลงอย่างของเทียม ก่อให้เกิดความยากลำบากในประเทศกำลังพัฒนากับเกษตรกรที่ไม่ได้รับเงินอุดหนุน[107] สินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการ (เช่นข้าวโพด ถั่วเหลือง วัว) มักจะถูกแบ่งตามเกรดเพื่อระบุถึงคุณภาพ คุณภาพจะส่งผลกระทบต่อราคาที่ผู้ผลิตจะได้รับ สินค้าโภคภัณฑ์จะมีการรายงานโดยทั่วไปแบบปริมาณการผลิต เช่นเป็นปริมาณ ตัวเลขหรือน้ำหนัก[108]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เกษตรกรรม http://adl.brs.gov.au/data/warehouse/pe_abarebrs99... http://bs-agro.com/index.php/20152-pessimism-about... http://www.businessweek.com/bwdaily/dnflash/conten... http://www.csmonitor.com/2008/0118/p08s01-comv.htm... http://current.com/groups/news-blog/93975745_peru-... http://www.financialexpress.com/news/story/191279 http://books.google.com/books?id=GtBa6XIW_aQC&pg=P... http://books.google.com/books?id=_YjJc_c4BxsC&pg=P... http://www.heraldscotland.com/2008-the-year-of-glo... http://croplife.intraspin.com/pesticides/paper.asp...