ข้อมูลทั่วไปภายในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา ของ เขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา

การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์

ประวัติการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์

คณะนักเรียนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดป่ากล้วย ครั้งแรกก่อตั้ง

ก่อนที่จะมีการแยกเขตการปกครองคณะสงฆ์จากตำบลท่าเสามาตั้งเป็นเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลใหม่นั้น คณะสงฆ์ในตำบลคุ้งตะเภามีการศึกษาพระปริยัติธรรมมาก่อนแล้ว โดยในปี พ.ศ. 2500 วัดป่ากล้วยได้เคยเป็นสถานที่ตั้งของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแห่งแรกของตำบลคุ้งตะเภา โดยได้ก่อตั้งขึ้นตามดำริของพระมหาจรูญ คุตฺตจิตฺโต (พรหมน้อย) ซึ่งทำให้หลังจากนั้นไม่นาน พระมหาปรีชา ปริญฺญาโณ (คืนประคอง) ลูกศิษย์ของพระมหาจรูญที่เป็นคนบ้านป่ากล้วย ได้เข้าอุปสมบทและศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้เป็นพระภิกษุเปรียญธรรม ๙ ประโยค เป็นรูปแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์[1]

กุฎิสงฆ์วัดป่ากล้วย สถานที่ทำการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแห่งแรกในตำบลคุ้งตะเภา (ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2499)

และหลังจากนั้นได้มีชาวตำบลคุ้งตะเภาได้เข้ามาอุปสมบทเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมและสอบได้เป็นเปรียญหลายคน จนในปี พ.ศ. 2539 สามเณรสัญญา โปร่งใจ (พระมหาสัญญา ปญฺญาวิจิตฺโต) คนบ้านป่ากล้วย ได้สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยคในขณะเป็นสามเณร (ประโยค ๙ นาคหลวง) ขณะอายุได้ 21 ปี (สำนักเรียนวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร) ทำให้ท่านเป็นสามเณรชาวอุตรดิตถ์รูปแรกและรูปเดียวในปัจจุบัน (2552) ที่ได้รับพระบรมราชานุเคราะห์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นนาคหลวง อุปสมบทในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

อย่างไรก็ตามการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งบาลีและนักธรรมสำนักวัดป่ากล้วยได้ล้มเลิกไปเมื่อพระมหาจรูญได้ลาสิกขาบท ทำให้พระสงฆ์และสามเณรที่สนใจศึกษาภาษาบาลีต้องไปศึกษาในสำนักเรียนนอกตำบล โดยส่วนใหญ่จะเข้าศึกษาที่วัดคลองโพธิ์หรือวัดอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร ส่วนการศึกษานักธรรมนั้นคงเรียนกันตามวัดตามปกติ โดยจะมีการอบรมก่อนสอบบ้างในวัดเจ้าคณะตำบลท่าเสา ซึ่งจะตั้งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำน่านและต่างตำบลกัน แต่อยู่ในสังกัดเขตปกครองคณะสงฆ์เดียวกัน (เขตการปกครองคณะสงฆ์ตำบลท่าเสา) ซึ่งเมื่อได้มีการแยกเขตการปกครองคณะสงฆ์มาตั้งเป็นตำบลใหม่ในภายหลังแล้ว พระสงฆ์ก็ยังคงทำการเรียนการสอนนักธรรมอยู่ตามวัดของตนตามปกติ โดยไม่มีสำนักเรียนอย่างเป็นทางการที่พระสงฆ์ต้องมารวมตัวกันเรียนในห้องเรียนแต่อย่างใด

ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 สมัยเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภารูปที่ 4 ได้มีมติที่ประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสในตำบลคุ้งตะเภา โดยดำริของพระครูสุจิตพัฒนพิธาน (สมพงษ์ สมจิตฺโต) ตกลงให้ยกวัดใหม่เจริญธรรมในฐานะวัดเจ้าคณะตำบล เปิดทำการสอนห้องเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นในแผนกนักธรรมและบาลี (พ.ศ. 2552) ป็นครั้งแรกหลังจากได้แยกเขตการปกครองคณะสงฆ์มาตั้งเป็นเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลใหม่

การศึกษาแผนกบาลีของคณะสงฆ์ภายในตำบล

การเรียนการสอนนักธรรมของคณะสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภาในวัดใหม่เจริญธรรม

ตามมติที่ประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสในตำบลคุ้งตะเภา พ.ศ. 2552 โดยดำริของพระครูสุจิตพัฒนพิธาน (สมพงษ์ สมจิตฺโต) ตกลงให้วัดใหม่เจริญธรรมในฐานะวัดเจ้าคณะตำบล เปิดทำการสอนห้องเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี โดยยกให้เป็นห้องเรียนแผนกบาลีของคณะสงฆ์ประจำตำบล ทำการเรียนการสอนในระดับชั้นบาลีไวยากรณ์ในระดับพื้นฐาน เนื่องด้วยความขาดแคลนบุคลากร และขาดการสนับสนุนบุคลากรเพิ่มเติมจากวัดคลองโพธิ์ พระอารามหลวง สำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีอันดับ 1 ของเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 5 ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้ในปีแรกห้องเรียนแผนกบาลีของคณะสงฆ์ประจำตำบลคุ้งตะเภา จะอยู่ในฐานะของห้องเรียนทดลอง เพราะมีครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำทำการสอนเพียง 1 รูป (พระมหาสมาน อคฺคปญฺโญ) เท่านั้น[2]

การศึกษาแผนกธรรมของคณะสงฆ์และคฤหัสถ์ภายในตำบล

การศึกษานักธรรมสำหรับพระสงฆ์ในตำบลคุ้งตะเภา

ตามมติที่ประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสในตำบลคุ้งตะเภา พ.ศ. 2550 พระสงฆ์จากทุกวัดในเขตตำบลคุ้งตะเภาผู้ที่ยังสอบไม่ได้นักธรรมชั้นเอกทุกรูป ต้องเรียนนักธรรมจนกว่าจะสอบไล่ชั้นเอกได้ โดยพระสงฆ์ในเขตตำบลจะศึกษาวิชานักธรรมในช่วงก่อนและในระหว่างพรรษากาล โดยรวมมาเรียนนักธรรมทุกชั้นที่วัดใหม่เจริญธรรมซึ่งเป็นวัดเจ้าคณะตำบล เมื่อพระสงฆ์รูปใดสอบสนามหลวงไล่ได้ชั้นเอกแล้ว เจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์จะขึ้นทะเบียนพระสงฆ์รูปนั้นเป็นผู้ทรงคุณวุฒิประจำอำเภอฯ (ตามมติเจ้าคณะภาค 5) ให้เป็นครูสอนปริยัติธรรม ช่วยเหลืองานคณะสงฆ์ในด้านการศึกษาและช่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป

การศึกษาธรรมศึกษาสำหรับคฤหัสถ์ในตำบลคุ้งตะเภา
สนามสอบธรรมศึกษาหอประชุมโรงเรียนป่าขนุนเจริญวิทยานักเรียนธรรมศึกษาในสำนักศาสนาศึกษาวัดคุ้งตะเภา

การศึกษาแผนกธรรมศึกษาหรือการศึกษาวิชาธรรมของคฤหัสถ์ (ผู้ไม่ใช่นักบวช) ในตำบลคุ้งตะเภานั้น เริ่มจัดการเรียนการสอนในปี พ.ศ. 2540 อันเป็นช่วงแรก ๆ ที่แม่กองธรรมสนามหลวงเปิดโอกาสให้มีการสอบไล่ธรรมศึกษาสำหรับคฤหัสถ์ในต่างจังหวัดขึ้น โดยในช่วงแรก พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ (แสงสิน) รองเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา และพระนักเผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินการประสานงานไปยังโรงเรียนในเขตตำบลคุ้งตะเภาขอนำพระสงฆ์เข้าสอนจริยธรรมและธรรมศึกษาในโรงเรียน ซึ่งการจัดการเรียนการสอนในครั้งนั้นประสบผลสำเร็จไปด้วยดี มีนักเรียนและผู้สนใจสอบไล่ได้ธรรมศึกษาเป็นจำนวนมาก ต่อมาเจ้าคณะตำบลในขณะนั้นคือ เจ้าอธิการธง ฐิติธมฺโม (อิ่มชม) วัดคุ้งตะเภา เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาธรรมของคฤหัสถ์ดังกล่าว จึงได้ดำเนินการขอจัดตั้ง สำนักศาสนศึกษาประจำตำบลคุ้งตะเภา ขึ้นที่วัดคุ้งตะเภา และต่อมามีการเปลี่ยนเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภาในปี พ.ศ. 2543 จึงเกิดการลักลั่นในการบริหารงานสำนักศาสนศึกษาในระยะหนึ่ง แต่วัดคุ้งตะเภาโดยการนำของพระสมุห์สมชาย ก็ได้จัดการสอนธรรมศึกษาเช่นเดิม โดยดำเนินการและออกทุนดำเนินการเองทั้งหมด และมีผู้สอบไล่ได้ธรรมศึกษาเป็นจำนวนมากทุกปี และในปี พ.ศ. 2549 พระครูสุจิตพัฒนพิธาน (สมพงษ์ สมจิตฺโต) วัดใหม่เจริญธรรม ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา จึงได้จัดเปิดสนามสอบธรรมศึกษาแห่งที่ 5 ของอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ที่โรงเรียนป่าขนุนเจริญวิทยา เพื่อเป็นสนามสอบสำหรับนักเรียนในสังกัดสำนักศาสนศึกษาวัดคุ้งตะเภา ซึ่งเป็นการเปิดสนามสอบธรรมศึกษาที่ตำบลคุ้งตะเภาเป็นครั้งแรก[3]

การเผยแผ่และสำนักปฏิบัติธรรมประจำตำบล

การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ในตำบลคุ้งตะเภา

การจัดอบรมคุณธรรมจริยธรรมในโรงเรียนของคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา

ปัจจุบันวัดในเขตตำบลคุ้งตะเภา (วัดใหม่เจริญธรรม) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ศูนย์พัฒนาคุณธรรมจริยธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ในความรับผิดชอบของ พระครูสุจิตพัฒนพิธาน (สมพงษ์ สมจิตฺโต) เจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา ซึ่งมีการจัดโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรมตลอดทั้งปี เช่น การบรรพชาสามเณรเฉลิมพระเกียรติ การอบรมบำบัดผู้ติดยาเสพติด การอบรมปรับสภาพนักเรียน การเข้าค่ายพุทธบุตร ฯลฯ รวมทั้งมีการนำคณะพระสงฆ์ไปให้การอบรมคุณธรรมแก่นักเรียนในสถานศึกษาต่าง ๆ ทั้งในและนอกจังหวัดอุตรดิตถ์

สำนักปฏิบัติธรรมประจำตำบลคุ้งตะเภา

บรรยากาศสำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ากล้วย

ตำบลคุ้งตะเภามีสำนักปฏิบัติธรรมประจำตำบล ตามนโยบายของมหาเถรสมาคม จำนวน 1 แห่ง คือ สำนักปฏิบัติธรรมวัดใหม่เจริญธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 แต่ไม่ปรากฏว่ามีการปฏิบัติกิจกรรมด้านการส่งเสริมการปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปี โดยคงเป็นสำนักปฏิบัติในนามประจำตำบลเท่านั้น

ปัจจุบันโดยพฤตินัย สำนักปฏิบัติธรรมในเขตตำบลคุ้งตะเภาที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปคือ สำนักปฏิบัติธรรมวัดป่ากล้วย ตั้งอยู่ที่วัดป่ากล้วย มีสำนักปฏิบัติธรรมแยกเป็นเอกเทศจัดภูมิทัศน์แบบวัดป่า โดยมีพระอาจารย์เฉลิมโชค ฉนฺทชาโต เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาอุปสมบทและศึกษาปฏิบัติสมาธิภาวนาตลอดทั้งปี สำนักปฏิบัติธรรมนี้มีสำนักอุบาสิกา รับสตรีผู้สนใจเข้ามาบวชถือศีล 8 ด้วย ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้สตรีได้เข้ามาปฏิบัติธรรมได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน

สถานที่ลงอุโบสถสังฆกรรมตามพระวินัยของคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา

ปัจจุบัน คณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภาจะลงฟังพระปาฏิโมกข์ตามพระวินัยทุกกึ่งเดือนในช่วงเข้าพรรษา โดยเวียนสถานที่ไปในแต่ละวัดที่มีวิสุงคามสีมา เป็นช่วงที่พระสงฆ์ทั้งตำบลมาลงกระทำสังฆกรรมร่วมกัน ซึ่งเรียงลำดับการลงฟังพระปาฏิโมกข์ตามลำดับจำนวน 6 ลำดับวัดตามรอบกึ่งเดือนตามปฏิทินในช่วงฤดูกาลเข้าพรรษาดังนี้

ครั้งที่ภาพวิสุงคามสีมาวัดวันหมายเหตุ
1วัดป่ากล้วยวันอาสาฬหบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
2วัดใหม่เจริญธรรม (ครั้งที่ 1)แรม 15 ค่ำ เดือน 8วัดเจ้าคณะตำบล
3วัดคุ้งตะเภาขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9
4วัดป่าสักเรไรแรม 15 ค่ำ เดือน 9
5วัดหาดเสือเต้นขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10
6วัดใหม่เจริญธรรม (ครั้งที่ 2)แรม 15 ค่ำ เดือน 10วัดเจ้าคณะตำบล

อุปัชฌาย์ผู้มีสิทธิทำการบรรพชาอุปสมบทในตำบลคุ้งตะเภา

ปัจจุบัน พระครูสุจิตพัฒนพิธาน (สมพงษ์ สมจิตฺโต) วัดใหม่เจริญธรรม (อุตรดิตถ์) ได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปัชฌาย์ประจำตำบลคุ้งตะเภา มีสิทธิที่จะทำการบรรพชาอุปสมบทกุลบุตรได้ภายในวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา

นอกจากอุปัชฌาย์ประจำตำบลคุ้งตะเภา และเจ้าคณะเหนือขึ้นไปแล้ว พระภิกษุรูปอื่นแม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปัชฌาย์โดยชอบตามกฎมหาเถรสมาคม ไม่มีสิทธิทำการบรรพชาอุปสมบทกุลบุตรผู้จะบวชภายในวัด (วิสุงคามสีมา) ในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภาได้

การบรรพชาอุปสมบทพระสงฆ์ในอุโบสถวัดคุ้งตะเภา

โดยพระสังฆาธิการเจ้าคณะเหนือกว่าเจ้าคณะตำบลที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ที่สามารถให้การอุปสมบทพระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภาได้โดยถูกต้องตามกฎมหาเถรสมาคมนั้นคือ พระครูเกษมธรรมาลังการ (อุดร) วัดหมอนไม้ ในตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์, พระเทพปริยัติวิธาน (อำนวย จนฺทสโร) วัดคลองโพธิ์ พระอารามหลวง ในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์, พระธรรมปัญญาภรณ์ (สุชาติ ธมฺมรตโน) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ในตำแหน่งเจ้าคณะภาค 5, สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำภาษีเจริญ ในตำแหน่งเจ้าคณะหนเหนือ และสมเด็จพระสังฆราช หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช โดยพระสังฆาธิการเจ้าคณะเหนือกว่าในระดับใดจะมาทำการอุปสมบทได้ เจ้าคณะในระดับรองกว่าเจ้าคณะผู้จะมาเป็นอุปัชฌาย์นั้นต้องทำหนังสือนิมนต์มาเท่านั้น หากทำผิดขั้นตอนจะเป็นการละเมิดจรรยาพระสังฆาธิการ อาจถูกสอบสวนและถูกถอดจากตำแหน่งพระสังฆาธิการได้

ใกล้เคียง

เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เขตปกครองตนเองทิเบต เขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดสุโขทัย เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน เขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา เขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดปราจีนบุรี เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย เขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ เขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดราชบุรี

แหล่งที่มา

WikiPedia: เขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลคุ้งตะเภา http://maps.google.com/maps?ll=17.65679,100.14849&... http://www.multimap.com/map/browse.cgi?lat=17.6567... http://www.terraserver.com/imagery/image_gx.asp?cp... http://www.gongtham.dyndns.org/pass_exam/2550m2.ht... http://www.globalguide.org?lat=17.65679&long=100.1... http://www.wikimapia.org/maps?ll=17.65679,100.1484... //tools.wmflabs.org/geohack/geohack.php?pagename=%... http://www.watkungtaphao.ob.tc/