จอมพลแห่งกองทัพสหรัฐ (
อังกฤษ: General of the Armies of the United States) เป็นยศทหารระดับสูงสุดของ
กองทัพสหรัฐ เคยมีการมอบยศนี้เพียงสองครั้งในประวัติศาสตร์ บุคคลแรกคือ
จอห์น เจ. เพอร์ชิง ผู้บัญชาการกำลังรบนอกประเทศสหรัฐใน
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้รับแต่งตั้งใน พ.ศ. 2462 บุคคลที่สองคือ
จอร์จ วอชิงตัน ได้รับแต่งตั้งย้อนหลังใน พ.ศ. 2519 ในมหกรรมฉลองสองศตวรรษการก่อตั้งสหรัฐยศจอมพลแห่งกองทัพสหรัฐถูกบัญญัติขึ้นโดยรัฐบัญญัติคองเกรส (Act of Congress) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2252 กฎหมายฉบับดังกล่าวตราขึ้นเพื่อหมายจะมอบยศนี้ให้แก่พลโทจอร์จ วอชิงตัน แต่ประธานาธิบดี
จอห์น แอดัมส์ ปฏิเสธการแต่งตั้ง แอดัมส์เชื่อว่าการตั้งวอชิงตันเป็นจอมพลจะเป็นการละเมิดกฎไกทางรัฐธรรมนูญ
[1]จอมพลแห่งกองทัพสหรัฐได้รับสิทธิพิเศษหลายประการที่นายพลคนอื่นไม่ได้รับ อาทิ ได้รับค่าตอบแทนสูงกว่า เมื่อเกษียณแล้วก็ยังได้รับค่าตอบแทนจำนวนนั้นตลอดชีวิต จอมพลเพอร์ชิงหลังเกษียณ ถือเป็นบุคคลที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศรองจาก
ประธานาธิบดีสหรัฐ[2]ใน
สงครามโลกครั้งที่สอง เคยมีความพยายามมอบยศนี้ให้แก่พลเอก
จอร์จ มาร์แชลล์ และพลเอก
เฮนรี อาร์โนลด์ แต่ถูกทั้งคู่ปฏิเสธ
กระทรวงการสงครามสหรัฐจึงสถาปนายศพลเอกแห่งกองทัพ (นายพลห้าดาว) ขึ้นมาเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2487 ทางกระทรวงยืนยันว่ายศพลเอกแห่งกองทัพนี้เป็นยศ
พลเอกอาวุโส ไม่ใช่ยศจอมพล ทั้งคู่จึงยอมรับยศในอดีต นายพลในกองทัพสหรัฐมีจำนวนดาวได้สูงสุดเพียงสี่ดวง ตัวของเพอร์ชิงเองแม้มียศจอมพล แต่ก็ไม่เคยติดดาวเกินสี่ดวง ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่ายศจอมพลควรจะมีห้าดาวสี่ดวงหรือห้าดวง ข้อถกเถียงนี้เป็นอันยุติลงใน พ.ศ. 2487
[3] เมื่อกองทัพสหรัฐกำหนดให้ยศ
พลเอกอาวุโสมีดาวห้าดวง จึงได้ข้อสรุปว่ายศจอมพลควรมีดาวหกดวง