เจมส์ มาร์เข้าสู่วงการบันเทิง เพราะศุภชัย ศรีวิจิตรไปพบที่ฮ่องกงขณะกำลังอยู่มัธยมปลาย และชวนมาเป็นนักแสดงในสังกัด โดยเจมส์ตอบตกลงเพราะมองว่าเป็นโอกาสอันดีประกอบกับต้องการที่จะกลับมาเล่าเรียนในไทย[16] เบื้องต้นศุภชัยเคยส่งเจมส์ไปประกวดเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปีที่ 7 เพื่อหาประสบการณ์ แต่สุดที่รอบตัวแทนภาคกลาง[12][22][23]

ช่วงเริ่มแรกได้งานถ่ายแบบและเดินแบบ ภายหลังจึงได้แสดงละครชุด "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" เป็นชุดแรกและทำให้มีชื่อเสียง แม้จะถูกวิจารณ์จากผู้ชมว่าเจมส์ไม่เหมาะควรกับบทดังกล่าว[24] โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่ต่างไปจากบทประพันธ์และนักแสดงคนอื่นที่เล่นเป็นพี่น้อง[25] ด้วยความที่เป็นตอนสุดท้ายของซีรีส์ที่มีความช้า ทำให้กระแสของเจมส์ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงนัก[26] จนเจ้าตัวก็คิดว่าเขาเป็น "จุดอ่อน" ของละครชุดดังกล่าวด้วย[27] แต่หลังจบละครได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าจำนวนมาก จนได้ฉายาว่าเป็น "เจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์"[28][29][30] ขณะที่นิตยสารสยามดารา จัดให้เจมส์เป็น "1 ใน 10 พระเอกที่น่าจับตามองในปี 2556"[31]

ในปี พ.ศ. 2558 เขาแสดงละครย้อนยุคเรื่อง ข้าบดินทร์ ซึ่งก่อนเข้าฉาย เขาเตรียมตัวด้วยการเข้าเรียนชกมวย ฟันดาบ และอ่านนิยายของละครเรื่องดังกล่าว[32] กระนั้นเข้ายังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะกับบทเช่นเดียวกับภีรนีย์ คงไทย นักแสดงอีกคนในเรื่องซึ่งเป็นลูกครึ่งเช่นกัน ที่รูปลักษณ์ต่างออกไปจากบทประพันธ์[18][33][34] แต่หลังการออกอากาศกลับมีกระแสดี[35] และได้รับคำชื่นชมด้านการแสดง[36] และเจมส์มีผลงานละครเรื่อง เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ ในปีถัดมา ประกบคู่กับคิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ ถือว่าพลิกบทบาทการแสดงของเขา เพราะเป็นละครที่นำเสนอสถานการณ์ร่วมสมัย ขณะที่เจมส์เคยแสดงแต่ละครย้อนยุคมาตลอด[18][37] แต่หลังละครออกอากาศเขาได้รับกระแสตอบรับที่ดี และการชื่นชมด้านฝีมือทางการแสดง[26] จนได้สมญาว่าเป็น "สามีแห่งชาติ" ในปีนั้น[9][38][39]

ใน พ.ศ. 2560 เจมส์มีผลงานภาพยนตร์เรื่อง Mind Memory 1.44 พื้นที่รัก ประกบคู่กับฮัม อึน-จ็อง นักร้องผู้เป็นสมาชิกวงที-อารา เกิร์ลกรุปจากประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา[40] เขากล่าวว่า "ตอนที่ตัดสินใจรับแสดงหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้รับงานชิ้นใหม่ หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของผม ก็ดีใจที่ได้แสดงเรื่องนี้ เพราะได้ใช้หลายภาษา รู้สึกว่าท้าทายดี บทที่แสดงก็ไม่เคยเล่นมาก่อน..."[41] แต่ภาพยนตร์นี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรหลังเข้าฉาย[42]