เจ้าหญิงมาเรีย อเมเลียแห่งบราซิล (
1 ธันวาคม ค.ศ. 1831 -
4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1853) ทรงเป็นเจ้าหญิงแห่ง
จักรวรรดิบราซิลและเป็นพระนางจึงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์บราซิลสาย
ราชวงศ์บราแกนซา พระราชบิดาของพระนางคือ
จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล พระประมุขพระองค์แรกแห่งบราซิล และพระราชมารดาคือ
เจ้าหญิงอเมลีแห่งเลาช์เทนเบิร์ก เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในการอภิเษกสมรสครั้งที่สองของพระราชบิดา เจ้าหยิงมาเรีย อเมเลียประสูติใน
ฝรั่งเศสหลังจากการสละราชบัลลังก์ของจักรพรรดิเปดรูที่ 1 ให้แก่พระราชโอรสคือ
จักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล ก่อนที่เจ้าหญิงมาเรีย อเมเลียจะมีพระชนมายุได้หนึ่งเดือน จักรพรรดิเปดรูที่ 1 เสด็จไปที่โปรตุเกสเพื่อฟื้นฟูราชบัลลังก์ให้แก่พระราชธิดาพระองต์โตในการอภิเษกสมรสครั้งแรกของพระองค์คือ
สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2 แห่งโปรตุเกส พระองค์ทรงทำสงครามและประสบความสำเร็จในการขับไล่พระอนุชาของพระองค์คือ
พระเจ้ามิเกลแห่งโปรตุเกส ผู้ทำการช่วงชิงราชบัลลังก์ของพระนางมาเรียที่ 2เพียงไม่กี่เดือนหลังจากได้รับชัยชนะ จักรพรรดิเปดรูที่ 1 เสด็จสวรรคตด้วย
วัณโรค พระราชมารดาของเจ้าหญิงมาเรีย อเมเลียนำพระนางไปที่โปรตุเกส ที่ที่ทรงดำรงพระชนม์ชีพส่วนใหญ่โดยไม่ทรงเคยเสด็จไปยังบราซิลเลย รัฐบาลบราซิลปฏิเสธที่จะสถาปนาให้เจ้าหญิงมาเรีย อเมเลียเป็นพระบรมวงศานุวงศ์บราซิลเนื่องมาจากทรงประสูติในต่างประเทศ แต่เมื่อพระเชษฐาต่างพระมารดาของพระนางคือ จักรพรรดิเปดรูที่ 2 ทรงบรรลุนิติภาวะในปีพ.ศ. 2383 พระองค์ก็เข้าแทรกแซงให้เจ้าหญิงได้รับสิทธินี้สำเร็จเจ้าหญิงมาเรีย อเมเลียทรงหมั้นกับ
อาร์คดยุกแม็กซีมีเลียนแห่งออสเตรียในต้นปีค.ศ. 1852 แต่ก่อนการอภิเษกสมรส เจ้าหญิงทรงพระประชวรด้วยวัณโรคและทรงถูกนำพระองค์ไปที่
ฟุงชาลเมืองหลวงของหมู่เกาะ
มาเดราของโปรตุเกส แม้ว่าสภาพภูมิอากาศจะดีต่อสุขภาพ แต่พระพลานามัยของเจ้าหญิงยังคงทรุดลง และเจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1853 พระศพของเจ้าหญิงถูกนำกลับมายังแผ่นดินใหญ่โปรตุเกสและฝังที่
พระอารามเซา วิเซนเต เดอ ฟอรา เกือบ 130 ปีต่อมา พระศพของพระนางถูกนำมายังบราซิล เพื่อเป็นพระเกียรติของพระราชธิดา พระราชมารดาของเจ้าหญิงทรงให้ทุนก่อสร้างโรงพยาบาล ปรินเซซา ดี. มาเรีย อเมเลีย ในฟุงชาล พระคู่หมั้นของเจ้าหญิง อาร์คดยุกแม็กซีมีเลียนทรงจาริกแสวงบุญที่บราซิลและมาเดรา การเดินทางของพระองค์ครั้งนี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินพระทัยรับราชบัลลังก์
เม็กซิโกของพระองค์ในปีค.ศ. 1864