เนื้อเรื่อง ของ เด็กเก็บว่าว

ตอนที่ 1

อาเมียร์เป็นเด็กชายชาวพาชทุนผู้มีฐานะดี และ ฮะซันเด็กชายชาวฮาซาราเป็นลูกของผู้รับใช้ของบิดาของอาเมียร์ใช้เวลาวัยเด็กเติบโตขึ้นในคาบูลด้วยกันในช่วงเวลาที่บ้านเมืองยังสงบสุข -- วิ่งเล่นกันตามถนนซอกซอย บิดาของอาเมียร์ (ในเรื่องกล่าวถึงในเรื่องว่า “บาบา” ตลอดเรื่อง) รักเด็กชายทั้งสองคนแต่ดูเหมือนมักจะติเตียนอาเมียร์ว่าเป็นเด็กที่ไม่มีความแข็งแกร่งหรือความเป็นชายพอ อาเมียร์หวั่นกลัวในใจว่าบิดาอาจจะโทษตนเองว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของมารดาขณะที่ให้กำเนิดอาเมียร์ แต่อาเมียร์ก็มีบุคคลที่เป็นเสมือนบิดาชื่อราฮีม ข่าน (เพื่อนของบาบา) ผู้ที่มีความเข้าใจในตัวของอาเมียร์มากกว่าบิดา และเป็นผู้สนับสนุนความชอบเขียนหนังสือของอาเมียร์ อาเมียร์เล่าให้ผู้อ่านฟังว่าคำแรกของตนคือ 'บาบา' และคำแรกของฮะซันคือ 'อาเมียร์' ที่เป็นนัยยะว่าอาเมียร์มีความนิยมและชื่นชมในตัว 'บาบา' เป็นที่สุด ขณะที่ฮะซันชื่นชมในตัว 'อาเมียร์'

อะเซฟ (Assef) เด็กชายผู้มีอายุมากกว่าและผู้มีนิสัยชอบรังแกและทำร้ายเด็กอื่นดูถูกอาเมียร์ว่าไปสุงสิงกับเด็กชาวฮาซารา ซึ่งตามความเห็นของอะเซฟแล้วเป็นชาติพันธุ์ที่ด้อยกว่าและควรจะจำกัดอยู่แต่ในบริเวณฮะซารจัท เมื่ออะเซฟพยายามทำร้ายอาเมียร์ด้วยกำปั้นทองเหลือง (Brass knuckles) ฮะซันก็ป้องกันโดยขู่ว่าจะยิงอะเซฟที่ตาด้วยหนังสติ๊ก อะเซฟและเพื่อนจึงต้องถอยแต่ก็ขู่ไว้ว่าจะหาทางแก้แค้นในวันข้างหน้า

ฮะซันเป็นเด็กที่มีความสามารถในการวิ่งเก็บว่าวที่ถูกตัดให้อาเมียร์ มีสัญชาตญาณว่าว่าวจะตกลงตรงที่ใดโดยไม่ต้องแม้จะมองดูทิศทางของว่าว ในวันที่อาเมียร์ชนะการแข่งขันตัดว่าวและได้รับการชื่นชมจากบาบา ฮะซันก็ออกวิ่งไปเก็บว่าวตัวสุดท้ายที่อาเมียร์ตัดขาดมาให้ ซึ่งถือเป็นรางวัลอันสำคัญของชัยชนะสำหรับอาเมียร์โดยตะโกนออกก่อนวิ่งว่า “สำหรับคุณ, ผมทำให้มากกว่านี้ได้พันเท่า” หลังจากฮะซันเก็บว่าวได้ขณะที่วิ่งกลับก็ไปปะกับอะเซฟและเพื่อนอีกสองคนผู้เรียกร้องจะเอาว่าวที่ฮะซันเก็บได้ แต่ฮะซันไม่ยอมยกว่าวของอาเมียร์ให้ อะเซฟจึงทำการแก้แค้นโดยการทุบตีและข่มขืนฮะซัน ฮะซันไม่ต้องการที่จะยกว่าวให้อะเซฟเพราะความต้องการที่จะให้อาเมียร์มีความนับถือตน ขณะเดียวกันหลังจากที่ฮะซันวิ่งหายไปนานอาเมียร์ก็วิ่งไปตาม เมื่อได้ยินเสียงอะเซฟอาเมียร์ก็ซ่อนตัวและเห็นเหตุการณ์การข่มขืนแต่มีความขลาดกลัวเกินกว่าที่จะเข้าไปทำการหยุดยั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาเมียร์มีความรู้สึกว่าความขลาดของตนในการไม่ยอมเผชิญหน้ากับการข่มขืนฮะซันจะทำลายความรักความภูมิใจของพ่อที่มีต่อตนอาเมียร์จึงเก็บเรื่องไว้โดยไม่ได้บอกผู้ใด หลังจากนั้นอาเมียร์และฮะซันก็เริ่มห่างเหินกัน อาเมียร์เริ่มแสดงความไม่ยินดียินร้ายต่อฮะซันเพราะความละอายใจ และมีความรู้สึกอึดอัดใจต่อความเป็นคนดีของฮะซัน นอกจากนั้นอาเมียร์มีความรู้สึกอิจฉาในความเอ็นดูของพ่อที่มีต่อฮะซันเสมอ อาเมียร์มีความหวาดกลัวว่าวันหนึ่งบาบาจะทราบว่าฮะซันมีความกล้าหาญในการพิทักษ์ว่าวตัวเอก และ ทราบถึงความขลาดเขลาของตนเองที่อาจจะทำให้บาบายิ่งเพิ่มความรักต่อฮะซันมากขึ้นไปอีก

อาเมียร์จึงพยายามหาช่องทางไล่ฮะซันออกจากบ้านโดยเอานาฬิกาและเงินไปซ่อนไว้ในที่นอนของฮะซัน และกลับไปฟ้องบิดา ฮะซันยอมรับผิดแต่บาบายกโทษให้แม้ว่าบาบาจะเคยพูดว่า “ไม่มีพฤติกรรมใดที่เลวร้ายไปกว่าการขโมย” แต่ฮะซันและอาลีผู้เป็นบิดาก็ยืนยันที่จะลาออกแม้ว่าบาบาจะไม่เต็มใจ การจากไปของฮะซันทำให้อาเมียร์ไม่ต้องเห็นผู้ที่ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับความขลาดและความทรยศต่อเพื่อนของตนเองอยู่ทุกวัน แต่กระนั้นอาเมียร์ก็ยังดำรงชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกผิดตลอดมา

ตอนที่ 2

ห้าปีต่อมาเมื่อสหภาพโซเวียตรุกรานอัฟกานิสถาน อาเมียร์และบาบาก็หนีไปยังเปศวาร์ในปากีสถานและต่อไปยังเฟรมอนต์, แคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา อาเมียร์และบาบาผู้เคยมีฐานะดีมีบ้านช่องใหญ่โตหรูหราเมื่ออยู่ในอัฟกานิสถานต้องไปพำนักอาศัยอยู่ในห้องเช่าซอมซ่อในสหรัฐอเมริกา บาบาเริ่มทำงานที่ปัมพ์น้ำมัน ในที่สุดอาเมียร์ก็เข้าเรียนในวิทยาลัยประจำท้องถิ่นเพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนหนังสือ ทุกวันอาทิตย์อาเมียร์และบาบาก็หารายได้พิเศษโดยการขายของใช้แล้วในตลาดขายของเก่าที่แซนโฮเซ เมื่ออาเมียร์ได้ทำความรู้จักกับโซรายา ทาเฮรีและครอบครัวที่เป็นเพื่อนผู้ลี้ภัยด้วยกัน โซรายาเป็นลูกสาวของนายพลผู้เคยมีตำแหน่งสูงในกองทัพของอัฟกานิสถานเดิมผู้เหยียดหยามความทะเยอทะยานในการเป็นนักเขียนของอาเมียร์ บาบาล้มเจ็บลงด้วย small cell carcinoma แต่ก็ยังแข็งแรงพอที่จะทำตามความประสงค์สุดท้ายของอาเมียร์ในการไปทำการสู่ขอโซโรยาจากบิดา นายพลทาเฮรียอมตกลง หลังจากนั้นไม่นานบาบาก็เสียชีวิต หลังจากนั้นอาเมียร์และโซโรยาก็ร่วมชีวิตกันอย่างมีความสุขแต่ทั้งสองคนไม่อาจมีบุตรได้

อาเมียร์ประสบกับความสำเร็จในการเป็นนักเขียนนวนิยาย สิบห้าปีต่อมาอาเมียร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากราฮีม ข่าน (เพื่อนของบาบา) จากปากีสถานผู้ใกล้จะเสียชีวิต ราฮีมขอร้องให้อาเมียร์เดินทางไปยังปากีสถาน โดยทิ้งท้ายว่า “[การเดินทางมายังปากีสถาน]ของ[อาเมียร์]จะเป็นวิธีที่จะทำความดีได้อีกครั้งหนึ่ง”

ตอนที่ 3

อาเมียร์เรียนรู้จากราฮีม ข่านถึงชะตาของฮะซัน อาลีเสียชีวิตจากทุ่นระเบิดที่ฝังดิน ฮะซันมีภรรยาชื่อฟาร์ซานาและลูกชายชื่อโซห์รับ ฮะซันกลับไปดูแลบ้านของบาบาที่ทิ้งไว้ที่คาบูลตามคำขอของราฮีม วันหนึ่งเมื่อทาลิบานสั่งให้ยกบ้านให้แต่ฮะซันปฏิเสธ ฮะซันจึงถูกสังหารโดยทาลิบานพร้อมกับฟาร์ซานา ราฮีมเปิดเผยต่อไปว่าอันที่จริงแล้วฮะซันไม่ใช่บุตรของอาลีแต่เป็นบุตรชายของบาบากับสาวใช้ ฉะนั้นฮะซันจึงเป็นน้องร่วมพ่อของอาเมียร์ ในที่สุดราฮีมก็บอกถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ราฮีมขอให้อาเมียร์เดินทางมายังปากีสถาน คือความต้องการที่จะให้อาเมียร์เดินทางต่อไปยังคาบูลเพื่อไปช่วยโซห์รับลูกชายของฮะซันจากโรงเลี้ยงเด็กกำพร้า

อาเมียร์จึงเดินทางกลับไปยังคาบูลที่ขณะนั้นปกครองโดยรัฐบาลทาลิบานพร้อมกับฟาริดผู้นำทาง และพยายามหาตัวโซห์รับในโรงเลี้ยงเด็กกำพร้า เพื่อที่จะเข้าไปในดินแดนของทาลิบานอาเมียร์ผู้ที่ตามปกติแล้วไม่มีหนวดเคราก็ต้องใส่หนวดเคราปลอมไม่เช่นนั้นก็จะถูกลงโทษตามกฎหมายชาริอะห์ แต่อาเมียร์ก็หาโซห์รับไม่พบในโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คาดว่าจะได้พบ ผู้ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบอกอาเมียร์และฟาริดว่าเจ้าหน้าที่ทาลิบานมักจะมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเอาเงินมาให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับส่วนใหญ่จะเป็นเด็กผู้หญิง แต่บางครั้งก็จะเอาเด็กผู้ชายไป และครั้งสุดท้ายก็นำตัวโซห์รับกลับไปด้วย ผู้ดูแลบอกให้อาเมียร์ไปยังสนามฟุตบอล และกล่าวว่าบุคคลที่ทำการปราศัยระหว่างครึ่งเวลาคือผู้ที่เอาตัวโซห์รับไป ฟาริดจึงทำการนัดหมายให้อาเมียร์ได้ไปพบกับชายคนนั้น

ที่บ้านที่ไปพบกัน อาเมียร์พบกับชายที่สวมแว่นตาดำผู้เปิดเผยว่าตนคืออะเซฟศัตรูเก่าของอาเมียร์ อะเซฟรู้ว่าอาเมียร์เป็นใครมาตั้งแต่ต้น แต่อาเมียร์ไม่ทราบว่าอะเซฟเป็นใครจนกระทั่งอะเซฟเริ่มถามถึงอาลี, บาบา และ ฮะซัน โซห์รับถูกบังคับให้เป็น “Bacchá” หรือเด็กชายที่แต่งตัวเป็นสตรีและทำการเต้นรำให้แก่กลุ่มทาลิบาน และดูเหมือนว่าอะเซฟอาจจะข่มขืนโซห์รับด้วย (โซห์รับกล่าวในภายหลังว่า “ผมรู้สึกสกปรกและเต็มไปด้วยบาป ผู้ชายเลวร้ายกับอีกสองคนทำสิ่งไม่ดีกับผม”) อะเซฟตกลงที่จะคืนตัวโซห์รับให้แต่ต้องเป็นการแลกเปลี่ยน และทำการทำร้ายร่างกายอาเมียร์ แต่อาเมียร์ได้รับความช่วยเหลือเมื่อโซห์รับใช้หนังสติ๊กยิงตาซ้ายของอะเซฟสมตามที่พ่อของตนเคยขู่อะเซฟเอาไว้ครั้งหนึ่งก่อนหน้านั้น

อาเมียร์บอกโซห์รับถึงแผนการที่จะนำโซห์รับกลับไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยและอาจจะรับเลี้ยงเป็นลูก และสัญญาว่าจะไม่ส่งตัวโซห์รับกลับไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีก แต่ทางรัฐการสหรัฐต้องการหลักฐานแสดงฐานะเด็กกำพร้าของโซห์รับ หลังจากอยู่ในภาวะสงครามเป็นสิบสิบปีในอัฟกานิสถานเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เช่นที่อาเมียร์กล่าวว่าผู้เสียชีวิตไม่มีใบแจ้งตายเพราะแม้แต่ใบสูติบัตรก็ยังไม่มี อาเมียร์บอกโซห์รับว่าตนอาจจะต้องถอนคำสัญญาว่าจะไม่ส่งตัวโซห์รับกลับไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีก แต่ก็อธิบายว่าจะเป็นเพียงการชั่วคราวเพื่อที่จะให้ตนและโซโรยาทำการรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมได้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นโซห์รับก็พยายามฆ่าตัวตาย ในที่สุดอาเมียร์ก็สามารถนำตัวโซห์รับกลับไปยังสหรัฐอเมริกาได้โดยไม่ได้ส่งตัวโซห์รับกลับไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และสถานะภาพทางอารมณ์ของโซห์รับก็ได้รับความกระทบกระเทือนไปแล้วและถึงกับไม่ยอมพูดหรือแม้แต่มองโซโรยา จนกระทั่งเมื่ออาเมียร์เริ่มระลึกถึงความหลังเกี่ยวกับฮะซันขณะที่เล่นว่าว อาเมียร์แสดงกลเม็ดต่างๆ ที่ฮะซันเคยสอนให้เมื่อเติบโตขึ้นมาด้วยกัน โซห์รับจึงเริ่มมีความรู้สึกอ่อนลง ในที่สุดโซห์รับก็เพียงแต่ยิ้มที่มุมปากแต่กระนั้นก็ทำให้อาเมียร์มีความปลื้มใจเมื่ออาสาวิ่งไปเก็บว่าวให้โซห์รับ และตะโกนว่า “สำหรับลูก, พ่อทำให้มากกว่านี้ได้พันเท่า”

แหล่งที่มา

WikiPedia: เด็กเก็บว่าว http://news.ninemsn.com.au/article.aspx?id=80320#b... http://www.ereader.com/product/book/excerpt/20781?... http://online.fliphtml5.com/kmfb/xrnv/#p=1 http://www.khaledhosseini.com/ http://today.msnbc.msn.com/id/22214165/ http://media.www.thespartandaily.com/media/storage... http://www.ala.org/ala/issuesadvocacy/banned/frequ... http://www.litstudies.org/MemoirWriting/an_excerpt... http://www.bbc.co.uk/worldservice/specials/133_wbc... http://books.guardian.co.uk/news/articles/0,,18390...