ประวัติศาสตร์ ของ เบรดา

เบรดา เป็นดินแดนของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 ยกระดับเป็นเทศบาลตั้งแต่ ค.ศ. 1252 และมีการสร้างป้อมปราการและกำแพงเมือนด้วยอิฐและประตูแบบโรมัน

ราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 15 ทายาทของเคาน์ตีบราบันต์สมรสกับทายาทของตระกูลนัสเซา ดินแดนของเบรดากลายเป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลนัสเซานับตั้งแต่นั้น จนมาถึงความครอบครองของเจ้าชายวิลเลิมแห่งออเรนจ์ ผู้นำการปฏิวัติต่อต้านการปกครองของสเปนเหนือดินแดนเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐดัตช์ขึ้นและนำไปสู่สงครามประกาศเอกราชของเนเธอร์แลนด์ที่ยาวนานถึง 80 ปี ในช่วงสงคราม สเปนยึดเบรดาได้เป็นช่วง ค.ศ. 1581 ถึง 1590 และอีกครั้งในช่วง ค.ศ. 1625 ถึง 1637 ก่อนจะถูกกองทัพชาวดัตช์ยึดคืนได้ จนในที่สุด สเปนลงนามรับรองเอกราชของเนเธอร์แลนด์ในสนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลียเมื่อปี ค.ศ. 1648

ในช่วงที่พระเจ้าชาลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษเสด็จหนีไปยุโรปและประทับลี้ภัยนั้นได้ประทับอยู่ที่เบรดาเป็นเวลาหลายเดือน เนื่งจากอยู่ใกล้กับตำหนักของเจ้าหญิงแมรีแห่งออเรนจ์ พระขนิษฐาและพระมเหสีหม้ายของเจ้าชายวิลเลิมที่ 2 แห่งออเรนจ์

เบรดาเป็นจุดลงนามในสนธิสัญญาสำคัญต่างๆ ได้แก่ สนธิสัญญาเบรดายุติสงครามอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1667 และการประชุมใหญ่แห่งเบรดาอันเป็นการเจรจาระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส นำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาแอกซ์-ลา-ชาแปล ยุติสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย ค.ศ. 1748

ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เบรดาตกอยู่ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมนีเป็นเวลากว่า 4 ปี จนกองทัพโปแลนด์ในฝ่ายสัมพันธมิตรปลดแอกได้ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1944 จึงมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำกองทัพและทหารผู้สละชีพชาวโปแลนด์ในวีรกรรมครั้งนี้