เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (
อังกฤษ: allergic rhinitis) เป็นภาวะที่มี
การอักเสบของเยื่อจมูก ซึ่งเกิดจากการที่
ระบบภูมิคุ้มกันมี
ปฏิกิริยาไวเกินกับ
สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ
[6] ผู้ป่วยอาจมีอาการน้ำมูกไหล คัดจมูก
จาม ตาแดง คันตา น้ำตาไหล และตาบวม
[1] น้ำมูกของผู้ป่วยมักเป็นน้ำมูกใส
[2] อาการมักเริ่มกำเริบภายในไม่กี่นาทีหลังสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ อาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อการนอน การทำงาน และการเรียนได้
[2] ผู้ป่วยที่แพ้
ละอองเกสรมักมีอาการในช่วงใดช่วงหนึ่งของปี
[3] ผู้ป่วยโรคนี้หลายรายจะมีโรคอื่น ๆ ในกลุ่มภูมิแพ้ร่วมด้วย ได้แก่
โรคหืด เยื่อตาอักเสบจากภูมิแพ้ และ
ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้[2]ผู้ป่วยมักถูกกระตุ้นให้มีอาการเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสร ขนสัตว์เลี้ยง ฝุ่น หรือเชื้อรา
[3] การเกิดภูมิแพ้เหล่านี้เป็นผลจากทั้ง
พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมประกอบกันทำให้เกิดโรค
[3] ปัจจัยบางอย่างช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ เช่น การใช้ชีวิตวัยเด็กในฟาร์ม การมีพี่น้องหลายคน เป็นต้น
[2] กลไกของการเกิดโรคที่สำคัญอยู่ที่
สารภูมิคุ้มกันชนิดไอจีอี ซึ่งสามารถจับกับสารก่อภูมิแพ้และกระตุ้นให้เกิดการปล่อยสารการอักเสบหลาย ๆ อย่างออกมาภายในร่างกาย เช่นมีการปล่อย
ฮิสตามีนออกมาจากเม็ดเลือดขาวชนิด
แมสท์เซลล์[2] การวินิจฉัยทำได้โดยดูจาก
ประวัติผู้ป่วย ร่วมกับ
การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง หรือตรวจเลือดหาไอจีอีที่จำเพาะต่อการก่อภูมิแพ้ชนิดต่างๆ
[4] การทดสอบเหล่านี้บางครั้งอาจให้
ผลบวกลวง (ผลการทดสอบบ่งชี้ว่าเป็นโรค แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นโรค) ได้
[4] อาการของเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จะคล้ายคลึงกับ
โรคหวัด แต่ต่างกันตรงนี้ภูมิแพ้จะเป็นนานกว่าคือเป็นมากกว่า 2 สัปดาห์ และมักจะไม่มี
ไข้[3]การได้มีโอกาสสัมผัสสัตว์ในวัยเด็กอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงของการป่วยโรคนี้ในตอนโตได้
[3] ยาที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคได้มีหลายอย่าง เช่น
สเตอรอยด์ ยาต้านฮิสตามีน เช่น
ไดเฟนไฮดรามีน โครโมลินโซเดียม และ
ยาต้านลิวโคไทรอีน เช่น
มอนทีลูคาสท์[5] ผู้ป่วยบางรายอาจใช้ยาแล้วลดอาการได้ไม่ดีนัก หรือใช้แล้วมีผลข้างเคียง
[2] การทำ
ภูมิคุ้มกันบำบัดต่อสารก่อภูมิแพ้เป็นวิธีหนึ่งที่อาจได้ผล ทำโดยค่อย ๆ ให้สารก่อภูมิแพ้ในขนาดน้อยแก่ผู้ป่วย แล้วค่อย ๆ เพิ่มขนาดขึ้นไปตามแนวทางที่กำหนด
[6] อาจให้ด้วยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง หรือเป็นเม็ดอมใต้ลิ้นก็ได้
[6] ผลการรักษามักคงอยู่ได้ 3-5 ปี และอาจมีประโยชน์อื่นคงอยู่นานกว่านั้น
[6]เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้เป็น
โรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุด
[9] ในประเทศตะวันตกพบว่าปีหนึ่ง ๆ จะมีผู้ป่วยถึง 10-30% ในประชากร
[2][7] ส่วนในไทยพบ 23-30%
[8] พบบ่อยที่สุดในคนอายุ 20-40 ปี
[2] โรคนี้ถูกบรรยายไว้อย่างถูกต้องเป็นครั้งแรกเมื่อคริสตศตวรรษที่ 10 โดยแพทย์และปราชญ์ชาวเปอร์เซียชื่อ
มุฮัมหมัด อัล-รอสี[10] ต่อมา ค.ศ. 1859 นายแพทย์
ชาร์ลส์ แบล็คลีย์ชาวอังกฤษจึงได้พบว่าละอองเกสรเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการในโรคไข้ละอองฟางเมื่อ ค.ศ. 1859
[11] ส่วนกลไกที่ทำให้เกิดอาการของโรคนั้นค้นพบโดยแพทย์
เคลเมนส์ ฟอน เปอร์เกต์ ชาวออสเตรีย
[9] ชื่อโรค "ไข้ละอองฟาง" (Hay Fever) มีที่มาจากทฤษฎีเก่าที่เคยเชื่อว่าอาการของโรคนี้เกิดจากการสูดดมกลิ่นของฟางใหม่เข้าไป ซึ่งทฤษฎีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง
[12][13]