อิทธิพลต่อแนวเพลง ของ เรนอินบลัด

สเลเยอร์ ขณะบรรเล่นเพลงอัลบั้ม เรนอินบลัด

เรนอินบลัด ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์หลายคนให้เป็นหนึ่งในอัลบั้มแทรชเมทัลที่มีอิทธิพลและสุดขีดที่สุดเท่าที่เคยมีมา[8] ในผลโหวต "วงดนตรีเมทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" จากเอ็มทีวี (MTV) ยกย่องสเลเยอร์ว่าเป็น "การพลิกโฉมจังหวะ การฝังเชื้อโรคร้ายกับกีตาร์ เนื้อหาโหดเหี้ยมและหน้าปกอันน่าสยดสยอง" ซึ่งพวกเขาอธิบายว่า "เป็นมาตราฐานของวงแทรชเมทัลเกิดใหม่อีกมากมาย" ในขณะที่ "ดนตรีของสเลเยอร์ส่งผลโดยตรงต่อแนวเดทเมทัล" เอ็มทีวีกล่าวต่ออีกว่า เรนอินบลัด เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าถึงการฟังแนวเพลงนี้[3] และอัลบั้มได้ถูกจัดให้อยู่อันดับ 7 ในหัวข้อ "25 อัลบั้มเมทัลที่มีอิทธิพลมากที่สุด" จากไอจีเอ็น (IGN)[29]

ในปี ค.ศ. 2006 ดอน เคย์ (Don Kaye) แห่งเว็บไซต์แบล็บเบอร์เมาท์ (Blabbermouth) ได้เปรียบเทียบถึงอัลบั้มล่าสุดของเขาในปี ค.ศ. 2006 คริสต์อิลลูชัน (Christ Illusion) กับ เรนอินบลัด โดยกล่าวว่า "สเลเยอร์อาจจะไม่สามารถทำอัลบั้มที่บูมขึ้นมาดั่งเช่น เรนอินบลัดได้อีก"[30]

เนโคร (Necro) แรปเปอร์ชาวอเมริกันก็ได้กล่าวว่าได้รับอิทธิพลจากอัลบั้มนี้ ทำให้ผลักดันเขากลับมารุ่งในช่วงทศวรรษที่ 1980[31] ซอลตัน ฟาร์คาส นักร้องนำแห่งเอคโตมอร์ฟ (Ektomorf) วงกรูฟเมทัลจากฮังการี ก็ได้พูดถึงอัลบั้มว่า "เรนอินบลัด เป็นหนึ่งในอิทธิพลหลักต่องานดนตรีของเขา"[32] พอล มาซูร์ไกวิชซ์ (Paul Mazurkiewicz) มือกลองแห่งแคนนิเบิลคอปส์ วงเดทเมทัลชื่อดังจากบัฟฟาโล กล่าวว่า "การเล่นกลองของลอมบาร์โดในอัลบั้มนี้เป็นผลให้เขาพัฒนาด้วยการเล่นให้เร็วกว่าในชีวิตมือกลองของเขา"[33] เคลลี เซเฟอร์ (Kelly Shaefer) แห่งเอธีอิสท์กล่าวว่า "เมื่อเรนอินบลัดถูกปล่อยออกมา มันเปลี่ยนทุกอย่าง! มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเป็นเอกซ์ตรีมเมทัลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา"[34]

แฮนนีแมน กล่าวว่าอัลบั้ม เรนอินบลัด เป็นงานโปรดในชีวิตเขา ด้วยเหตุผลที่ว่า "สั้น เร็วและเข้าถึงจุดสุดยอด"[35] อารายาได้เอ่ยถึงอัลบั้ม คริสต์อิลลูชัน (Christ Illusion) ในปี ค.ศ. 2006 ว่า "เข้ามาใกล้ แต่ก็ยังไม่อาจเทียบเรนอินบลัดในเรื่องของความหนัก รุนแรงและมีอิทธิพลได้ ตั้งแต่ออกอัลบั้มออกมา 20 ปีแฟนเพลงเริ่มคุ้นเคยแล้วว่า อัลบั้มที่จะมาแทนที่อาจจะเป็นไปไม่ได้แล้ว"[36] พอล บอสทาฟ (Paul Bostaph) สมาชิกที่มารับตำแหน่งมือกลองของสเลเยอร์ในปี ค.ศ. 1992 - 2001 (และ ค.ศ. 2013 - ปัจจุบัน) เขาได้ฟังการบันทึกเสียงนี้ครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในวงฟอร์บิดเดน ซึ่งเขาได้ยินโดยบังเอิญจากอีกห้องหนึ่ง จึงได้ไปถามเครก โลซิเซโร (Craig Locicero) มือกีตาร์ของฟอร์บิดเดน ว่ามันคืองานดนตรีของใคร โลซิเซโร จึงตอบไปว่า "มันคืองานบันทึกเสียงใหม่ของสเลเยอร์" ภายหลังเข้าไปฟังให้ลึกขึ้น เขามองไปที่โลซิเซโร แล้วกลับมามองวงตัวเอง ที่ดู "กระจอก" ไปเลย[7]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เรนอินบลัด http://www.abc.net.au/triplej/racket/listen/audio_... http://heavymetal.about.com/od/heavymetal101/a/101... http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=reign-in-... http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=reign-in-... http://www.allmusic.com/album/reign-in-blood-mw000... http://www.atpfestival.com/events/ibymlondon2012.p... http://www.moreorless.au.com/killers/mengele.html http://www.billboard.com/artist/279575/Slayer/char... http://www.billboard.com/artist/279575/slayer/char... http://www.billboard.com/bbcom/esearch/searchResul...