เส้นทางการเดินทางในเพชรพระอุมาภาคแรก ของ เส้นทางการเดินทางในเพชรพระอุมา

การเดินทางในช่วงที่ 1

การเดินทางในเพชรพระอุมาเริ่มต้นจากรพินทร์ ไพรวัลย์ได้พบกับคณะนายจ้างจากพระนคร ที่สถานีกักสัตว์ของบริษัทไทยไวล์ดไลฟ์ (Thai Wild Life) โดยนายประเสริฐ ซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัทและนายอำพล พลการ ผู้อำนวยการบริษัทไทยไวล์ดไลฟ์ ได้แนะนำคณะนายจ้างให้รพินทร์ได้รู้จัก และบอกกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการมาพบ รพินทร์ตกลงรับจ้างเป็นพรานนำทาง พร้อมกับเล่าเรื่องราวของขุมทรัพย์เพชรพระอุมา รวมทั้งข่าวคราวล่าสุดของพรานชดที่ได้พบเจอแก่คณะนายจ้าง

เมื่อตกลงทำสัญญาระหว่างรพินทร์และคณะนายจ้าง ที่มีพันโทหม่อมราชวงศ์เชษฐา วราฤทธิ์ เป็นหัวหน้าคณะในการเดินทาง ทางคณะนายจ้างได้จัดเตรียมสัมภาระในการเดินทางมายังหมู่บ้านหนองน้ำแห้งภายหลังจากวันที่ตกลงทำสัญญา เป็นระยะเวลาประมาณ 20 วัน ก่อนออกเดินทางในกลางเดือนมีนาคม จากจุดแรกของเส้นทางการเดินทาง รพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางมุ่งหน้าสู่เขาโล้น เป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร[1] ก่อนที่จะบ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งสู่โป่งกระทิง หุบชะมด ห้วยยายทอง ทุ่งช้าง ป่าหวาย [2] และหล่มช้างตามลำดับ

แต่ในขณะของการเดินทางตั้งแต่หุบชะมดไปสู่ป่าหวายนั้น คณะเดินทางได้แยกเป็นสองขบวนคือขบวนเกวียนที่นำโดยบุญคำ จัน และเส่ย และขบวนล่าพญาช้างไอ้แหว่ง ซึ่งแยกตัวออกมาจากขบวนเกวียน ประกอบด้วยนายจ้างทั้งสาม รพินทร์ แงซาย และเกิด ในช่วงจากหุบชะมดนี้ คณะล่าไอ้แหว่งได้เดินทางผ่านห้วยยายทอง ห้วยแม่เลิง สันเขาหุบหมาหอน เขานางนอน และลงไปสมทบกับขบวนเกวียนที่ป่าหวาย

การเดินทางในช่วงที่ 2

ก่อนออกเดินทางจากโป่งกระทิง คณะเดินทางได้ถูกผีโขมดดงทำร้าย ลูกหาบเสียชีวิตก่อนเดินทางต่อมายังโป่งน้ำร้อน[3] และจะเดินทางถึงหุบชมดในตอนเที่ยง ห้วยยายทองในตอนพลบค่ำและถึงโป่งผีสิงในวันรุ่งขึ้น ก่อนจะออกเดินทางจากห้วยแม่เลิง ยึดสันเขามุ่งหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตลอดระยะเวลาในการเดินทาง[4] และพักในหุบเขากลางดงกล้วย[5] ไต่ขี้นสันเขาดอยนาง และไต่ถึงร่องอกของเต้าถันสองข้างของดอยนางนอนในช่วงระยะเวลาก่อนเที่ยง[6]และเริ่มมองเห็นพื้นที่บริเวณป่าหวายอยู่เบื้องล่างก่อนถึงป่าหวายในช่วงพลบค่ำ

จากจุดนี้คณะเดินทางของรพินทร์พบกับไอ้แหว่ง ช้างเกเรที่ปะทะกับคณะเดินทางในการบ่ายหน้าไปทางทิศเหนือ เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร คณะเดินทางถูกไอ้แหว่งถล่มที่พัก เชษฐาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องผ่าตัดช่วยชีวิตด่วน คณะเดินทางหยุดพักรักษาอาการของเชษฐาและมุ่งหน้าไปอีก 5 กิโลเมตร บนเนินแห่งหนึ่งเพื่อเป็นชัยภูมิในการพักแรม[7]และออกตามล่าไอ้แหว่งเป็นเวลาประมาณ 7 วัน ก่อนที่ดารินจะล้มไอ้แหว่งได้สำเร็จ[8] ออกเดินทางมุ่งหน้าหล่มช้างไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ[9] ในช่วงเวลาเย็น คณะเดินทางผ่านพุเตย ซึ่งเป็นหมู่บ้านร้างที่คนในหมู่บ้านเสียชีวิตทั้งหมดด้วยโรคอหิวาห์[10]และถึงหล่มช้างในเวลาประมาณเที่ยง หล่มช้างถูกงูยักษ์บุกมาอาละวาด รพินทร์และแงซายปราบงูยักษ์ด้วยธนูติดระเบิดไนโตรกลีเซอรีน คณะเดินทางพักอยู่ที่หล่มช้างประมาณหนึ่งเดือนก่อนออกเดินทางต่อ

การเดินทางในช่วงที่ 3

คณะเดินทางบ่ายหน้าไปยังเขาหัวแร้งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร และอีก 3 วันถึงจะเข้าเขตนรกดำ ในช่วงเวลาเย็นของการเดินทาง รพินทร์ค้นพบหลักฐานที่พักของพรานชด คือซองบุหรี่ลักกี้สไตรค์เก่า ๆ กับลูกปืน .450 ไนโตรเอ็กซเปรสส์[11]และพบร่องรอยของสางเขียว[12]และถึงปากทางเขาหัวแร้งในตอนเที่ยง พบเจอกับ ดร.ฮอฟมันที่ถูกสางเขียวฆ่าด้วยหอกที่ลำธารและมาเรีย ฮอฟมัน ภรรยาสาวที่ถูกสางเขียวจับตัวไป[13]

ภายหลังจากถล่มหมู่บ้านสางเขียวและแย่งชิงตัวมาเรียกลับคืนมา มุ่งหน้าขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ โดยเส้นทางถูกบีบบังคับให้แคบลง ตัดทิวเขาใหญ่มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขาหัวแร้งและขึ้นเหนือไปทุ่งมรณะ[14] ซึ่งในขณะนี้คณะเดินทางทั้งหมดอยู่เหนือรัฐกะยา[15]ซึ่งเป็นตอนใต้ของรัฐไทยใหญ่ ถ้าคณะเดินทางตั้งเข็มทิศไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ก็จะพบกับพรมแดนไทยส่วนใดส่วนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่[16]และพักที่เขาก็องกอยโดยตั้งใจจะลงจากเขาในวันมะรืน[17]โดยที่รพินทร์วางแผนจะพาคณะเดินทางบ่ายหน้าขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

แต่รพินทร์พาคณะเดินทางขึ้น ๆ ลง ๆ จนถึงพลบค่ำและมุ่งหน้ากลับลงทางทิศใต้ก่อนหยุดพักแรมและจับผีก็องกอยได้ในช่วงเวลาค่ำ โดยผีก็องกอยขอร้องให้ช่วยเหลือโดยการมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะเวลา 2 วัน 2 คืน จะพบกับปริศนาความลับที่ซ่อนอยู่กลางป่าลึก[18] คืนนั้นคณะเดินทางถูกรมยาด้วยหนังคางคกภูเขา รุ่งเช้าแงซายหายไปพร้อมกับแผนที่เดินทาง จึงต้องออกติดตามร่องรอยที่แงซายทิ้งไว้เป็นระยะๆ โดยเบี่ยงมาทางทิศตะวันตก 45 องศา[19]และมุ่งหน้าไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามเขาที่เป็นทิวต่ำลงไปเบื้องล่างสามยอดเรียงกันเป็นทุ่งโล่งที่มีชื่อว่าทุ่งมรณะ พบเจออาณาจักรนิทรานครที่ล่มสลายและจอมผีผีดิบมันตรัย ช่วยปลดปล่อยวิญญาที่ถูกจองจำในคัมภีร์มายาวิน ปราบมันตรัยได้สำเร็จและได้ตัวแงซายกลับคืนมา

คณะเดินทางได้นำแผนที่จากแงซายมาพิจารณาปริศนา "ปิ่นพระศิวะฉายแสงเรืองรองเมื่อใด ถันพระอุมาจะปรากฏ ในคืน 5 ค่ำเดือน 12" ซึ่งขณะนั้นเป็นวันที่ 11 ตุลาคม (ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11) และวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 คือวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน[20] และรพินทร์บอกกล่าวแก่คณะเดินทางถึงตำแหน่งที่พักคือเขตเหนือสุดของรัฐว้า ก่อนออกเดินทางต่อมุ่งเขาเกือกม้าซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของนิทรานคร เข้าเขตป่าหินใกล้เขาเกือกม้าและมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบมรณะ ต้องเดินขึ้นเหนือเยื้องไปทางทิศตะวันตก 20 องศา รพินทร์พบร่องรอยของพรานชดคือกิ่งกระบองเพชรที่ถูกรอยมีดตัดไว้[21] พบเจอกับไทรันโนซอรัส เร็กซ์เกิดการต่อสู้ระหว่างไดโนเสาร์กินเนื้อและคณะเดินทาง

คณะเดินทางมุ่งหน้าใกล้เขตป่าหิน แต่พบเจอไทรันขวางทางจนเกิดการต่อสู้ ไทรันบาดเจ็บสาหัสและตายด้วยระเบิดติดไนโตรกลีเซอรีนในเวลาต่อมา คณะเดินทางมุ่งหน้าช่องเขาขาดเลาะตามขอบทะเลสาบมรณะ[22] โดยเลาะขอบทะเลสาบไปทางด้านทิศตะวันออก เพื่ออ้อมไปทิวเขาปีกครุฑ ถึงด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของขอบทะเลสาบในเวลาบ่ายโมง ก่อนหยุดพักที่เนินหินทางด้านทิศตะวันออกของทะเลสาบ คืนนั้นคณะเดินทางถูกลิงไร้หางปลดอาวุธพร้อมกับควบคุมไว้เป็นเชลยในกระท่อมและถูกควบคุมตัวไปยังหุบเขานิลกาญจน์ในตอนบ่ายแก่ของวันรุ่งขึ้น[23] ดารินช่วยรักษาวายา มนุษย์วานรเจ้าแห่งลิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสพร้อมกับได้นมัสการฤๅษีโกฑัญญะ[24] รพินทร์ แงซายช่วยวายาและสมุนลิงปราบตัวสามเขาจนสำเร็จ ก่อนกราบลาฤๅษีโกฑัญญะโดยถือฤกษ์เดินทางคือเวลาเก้านาฬิกา[25]

ภายหลังจากกราบลาฤๅษีโกฑัญญะและออกเดินทางโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง คณะเดินทางก็พบแอ่งการเวก[26] พบเจอกับพายุลูกเห็บในทุ่งลมกรดและหลบพักในโพรงหมาป่า[27]และโอเอซีสที่เป็นป่าเกิดใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 300 ปี[28] แต่คณะเดินทางก็ยังค้นพบช่องประตูผาไม่เจอจนระยะเวลาเกือบเที่ยง[29] ซึ่งช่องประตูผานั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการไปหาหลุมอุกกาบาตที่หนึ่ง ซึ่งจะต้องมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 5 - 6 ชั่วโมง และคณะเดินทางมาถึงอุกกาบาตที่หนึ่ง ในเวลาบ่ายโมงครึ่ง[30] และหลุมอุกกาบาตที่สองในเวลาก่อนพลบค่ำ[31]

คณะเดินทางออกเดินทางต่อจนถึงป่าหินและภูเขาเตี้ย ๆ อันเป็นบริเวณเชิงทิวป่า[32]ก่อนจะพบหลุมอุกกาบาตที่สามในวันศุกร์ที่ 30 เดือนตุลาคม ขึ้นหนึ่งค่ำ วันขึ้น 5 ค่ำ เดือนพฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 3 นับจากนี้เป็นต้นไป คณะเดินทางจะเหลือระยะเวลาในการเดินทางอีก 4 วันครึ่ง[33]พบกับหิมะในเทือกเขาพระศิวะในคืนแรก[34]ก่อนออกเดินทงในตอนสายของวันรุ่งขึ้น[35]มุ่งหน้าเนินพระจันทร์และถึงในตอนบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน แงซายพบหลักฐานการเดินทางจนถึงเนินพระจันทร์ของพรานชด และเมื่อพระจันทร์เสี้ยวของคืน 5 ค่ำ ส่องแสงสว่างเขาพระศิวะก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาด ถันพระอุมาปรากฏขึ้นเป็นระยะเวลาเที่ยงคืนสามสิบห้านาที

การเดินทางในช่วงที่ 4

คณะเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการไต่เขาจนพบกับเทือกเขาพระศิวะ และทันทีที่ทั้งหมดย่างก้าวเข้าสู่บริเวณหัวถนนของเมืองมรกตนคร วันและเวลาก็หยุดอยู่ที่วันที่ 4 พฤศจิกายน เวลาบ่ายสามโมงครึ่ง และเดินตัดตามถนนที่ลาดชันลงมาเป็นระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และหยุดพักบริเวณใต้ร่มต้นไม้ข้างลำธารจนรุ่งเช้า และพบว่าแงซายและอาวุธปืนหายไปรวมทั้งถูกจับตัวเป็นเชลยจากกองทัพทหารของชาวเมืองมรกตนครที่นำกองทัพโดยรหัสยะ คณะเดินทางถูกควบคุมตัวผ่านสองข้างทางของมรกตนคร ซึ่งระยะทางจากสามแยกไปเมืองมรกตใช้เวลาเดินครึ่งวัน ตกดึกได้มีการปล้นชิงตัวเชลยที่ร่วมเดินทางกับคณะเดินทางจากต่างถิ่นโดยเมยานี ลูกสาวของอรชุน

คณะเดินทางถูกนำตัวมาถึงเมืองมรกตนครในช่วงเวลาพลบค่ำ แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในตัวเมืองได้ และถูกนำตัวมารอที่สนามชัยจนเที่ยงก่อนเข้าเฝ้ากษัตริย์สิงหราในช่วงบ่าย ในเวลาประมาณเที่ยงคืน สุกรีกับพวกอีก5คนและเมยานีมุดทางลับใต้ดินมาขึ้นที่คุกที่คุมขังคณะเดินทาง และนำตัวเชลยต่างแดนทั้งหมดไปที่ถ้ำเหมราชและพบกับแงซายหรือจักราชที่รออยู่[36]

รุ่งเช้าคณะเดินทางทั้งหมดช่วยเหลือแงซายในการเปิดศึกกับสิงหราในการชิงราชบัลลังก์คืน ปราบแม่มดวาชิกาที่อยู่บนยอดปราสาท[37] แงซายได้ขึ้นครองราชสมบัติในพระนาม "สมเด็จพระเจ้าจักราธิราช"[38] คณะเดินทางพร้อมด้วยแงซายและทหารเมืองมรกตนคร ออกเดินทางด้วยม้าจากเมืองมรกตในเวลาประมาณตอนบ่าย พักระหว่างทางหนึ่งคืน และเดินทางถึงบริเวณปลายถนนในเวลาประมาณสามโมงเช้าตามเวลาของเมืองมรกตนคร แงซายมอบตราของราชวงศ์เทพให้แก่รพินทร์[39] และเมื่อคณะเดินทางเลาะบริเวณขอบถนนถึงป่าสน นาฬิกาก็เริ่มเดินอีกครั้ง[40] รพินทร์นำคณะเดินทางตัดตรงไปยังหุบเขานิลกาญจน์ โดยหลีกเลี่ยงไม่ผ่านหลุมอุกกาบาตก่อนมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านหล่มช้าง

ใกล้เคียง

เส้นทางการค้า เส้นทางสายไหม เส้นทางธารน้ำตา เส้นทางฝันของสาวน้อยขนมหวาน เส้นทางแชมเปียนส์ภายในประเทศยูฟ่ายูธลีก ฤดูกาล 2017–18 เส้นทางทะเลเหนือ เส้นทางซานเตียโกเดกอมโปสเตลาในประเทศฝรั่งเศส เส้นทางการเดินทางในเพชรพระอุมา เส้นทางจิงโจ้ เส้นทางดาว