เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17:20 น. ตามเวลาออมแสงยุโรปกลาง (UTC+2) มีผู้ขับรถตู้พุ่งชนผู้สัญจรบนทางเท้าในย่านท่องเที่ยวลารัมบลา เมืองบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 100 คน นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกันอีก 2 แห่งในเวลา 3 วัน ได้แก่ในเมืองท่ากัมบริลส์ มีผู้เสียชีวิต 1 คน และในเทศบาลอัลกานา[4][5][6][7]คืนก่อนหน้าเหตุการณ์ในเมืองบาร์เซโลนาได้เกิดระเบิดขึ้นที่อาคารแห่งหนึ่งในเทศบาลอัลกานาในแคว้นเดียวกัน ซึ่งทำให้อาคารพังราบและมีผู้เสียชีวิต 2 คน ต่อมาผู้บังคับการตำรวจแห่งแคว้นกาตาลุญญา (โมซุสดัสกวาดรา) กล่าวว่าเหตุระเบิดนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ลารัมบลา และคาดว่าผู้เสียชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีที่ลารัมบลาเช่นกัน หลังเหตุการณ์ที่บาร์เซโลนา 9 ชั่วโมง ตำรวจรายงานว่าได้ทำการวิสามัญฆาตกรรมผู้ที่คาดว่าจะลงมือก่อเหตุเพิ่มเติมในเมืองกัมบริลส์จำนวน 5 รายตำรวจรายงานว่าได้จับกุมชายสองคนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ลารัมบลา และยังมีรายงานว่าชายอีกคนถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม[8] ชายคนหนึ่งในเมืองริโปลย์ถูกกล่าวหาในตอนแรกว่าเป็นผู้เช่ารถตู้ที่ใช้ก่อเหตุ แต่ภายหลังได้แจ้งตำรวจว่าน้องชายของเขาเป็นผู้ขโมยบัตรประชาชนไป[9] มาเรียโน ราฆอย นายกรัฐมนตรีสเปน เรียกเหตุการณ์ในบาร์เซโลนาว่าเป็นการก่อการร้ายญิฮาด[10] สำนักข่าวอะมัก (Amaq News) กล่าวโดยอ้อมว่าผู้อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้คือกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและลิแวนต์[6]เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุก่อการร้ายที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประเทศสเปนนับตั้งแต่เหตุวางระเบิดในรถไฟใต้ดินในกรุงมาดริดเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยกลุ่มอัลกออิดะฮ์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 192 คน และมากที่สุดในเมืองบาร์เซโลนานับตั้งแต่เหตุระเบิดในศูนย์การค้าอิเปร์กอร์ (Hipercor) เมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยกบฏแบ่งแยกดินแดนบาสก์ (เอตา) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน