เมนูนำทาง
เอกซ์เจแปน ประวัติในปี พ.ศ. 2520 โยะชิกิ ฮะยะชิ และโทะชิมิสึ เดะยะมะ ได้ก่อตั้งวงดนตรีชื่อว่า ไดนาไมต์ (Dynamite) ที่บ้านเกิดของพวกเขา ทะเตะยะมะ เมื่อพวกเขาอายุได้แค่ 11 ปีเท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2521 วงไดนาไมต์ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น นอยส์ (Noise) ขณะที่พวกเขายังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยม ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 วงนอยส์ได้ถูกยกเลิก และได้ก่อตั้งวงใหม่โดยตั้งชื่อไว้ก่อนว่า เอกซ์ ขณะที่พวกเขากำลังคิดชื่อวงชื่ออื่น[4] ต่อมาวงเอกซ์ได้เริ่มดำเนินงานอย่างจริงจังในกรุงโตเกียวในปี พ.ศ. 2528 โดยมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาได้ออกซิงเกิลแรกของวงชื่อ "ไอล์คิลยู" เมื่อเดือนมิถุนายน ภายใต้สังกัดดาดาเรเคิดส์ซึ่งเป็นของวงเอง โดยจำหน่ายได้ 1,000 แผ่น และได้มีส่วนร่วมในแซมเพลอร์ Heavy Metal Force III ด้วยผลงานเพลง "Break the Darkness" ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีผลงานเพลงของวง Saver Tiger (ซึ่งมีฮิเดะเป็นสมาชิก) อยู่ในแซมเพลอร์ชุดนี้ด้วย[5][6] และในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2528 มือกีตาร์เบสวง Dementia ไทจิ ได้เข้ามาร่วมวงเอกซ์ แต่ได้ขอออกจากวงชั่วคราวหลังจากนั้นไม่นาน[7]
เพื่อความมั่นคงของวง โยะชิกิได้ก่อตั้งค่ายเพลงอิสระชื่อว่า เอกซ์ทาซีเรเคิดส์ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2529 และออกซิงเกิลชุดที่สองของวง "ออแกซึม"[8] ต่อมาไทจิได้กลับเข้ามาร่วมวงอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน[7] เพลง "Stab Me in the Back" และ "No Connexion" ของวงเอกซ์ได้อยู่ในแซมเพลอร์ที่มีชื่อว่า Skull Thrash Zone Volume I ของวิกเตอร์เรเคิดส์ ซึ่งออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 โดยได้ทำการบันทึกด้วยกันกับพาตะ (จากวง Judy) ซึ่งเป็นมือกีตาร์สนับสนุนของวง[9] ต่อมาไม่นาน ฮิเดะจากวง Saver Tiger ได้เข้าร่วมมาเป็นมือกีตาร์[7] และหลังจากที่พาตะได้เข้ามาสนันสนุนวง เขาก็ได้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกวงอย่างเป็นทางการในที่สุด[7]
วงเอ็กซ์ราวปี ค.ศ. 2523ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2530 พวกเขาได้ทำการแสดงที่งานร็อกมอนสเตอร์อีเวนต์ (Rock Monster event) ที่เกียวโตสปอตส์วัลเลย์ (Kyoto Sports Valley) และปล่อยวิดีโอแรกของวง Xclamation[7] ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2530 วงได้มีส่วนร่วมในการออดิชัน ที่จัดขึ้นโดยโซนี่ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เจแปน ทำให้วงได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงนี้ในเดือนสิงหาคมของปีต่อไป[5][7] และในขณะเดียวกันวงก็ได้ออกอัลบั้มแรกมีชื่อว่า แวนิชชิงวิชัน (Vanishing Vision) ผ่านเอกซ์ทาซีเรเคิดส์ (Extasy Records) เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2531 และออกทัวร์เพื่อสนันสนุนผลงาน[8] อัลบั้มนี้มียอดจำหน่ายอัลบั้ม 10,000 ชุดและจำหน่ายหมดภายในหนึ่งสัปดาห์ ติดอันดับหนึ่งบอนชาร์ตอินดีส์ของออริคอน และอยู่ในดับ 19 ในชาร์ตหลัก[7] ในเดือนพฤศจิกายน วงเอกซ์ได้มีส่วนร่วมในงานคอนเสิร์ตสตรีตไฟติงเมน (Street Fighting Men) ของนิตยสารดนตรี Rockin'f จัดขึ้นที่ Differ Ariake Arena[7]
บลูบลัดทัวร์ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม สองคอนเสิร์ตที่จำหน่ายหมดก่อนเวลา ได้แก่ การแสดงเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ชิบุยะพับลิกฮอลล์ (Shibuya Public Hall) ซึ่งในเวลาต่อมาได้ปล่อยโฮมวิดีโอออกมาชื่อ Blue Blood Tour Bakuhatsu Sunzen Gig[7] อัลบั้ม บลูบลัด ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 และเปิดตัวมาอยู่อันดับ 6 ในชาร์ตออริคอน ซิงเกิล "คุเระนะอิ" เข้ามาเป็นอันดับ 5 และวงได้ออกแสดงโรสแอนด์บลัดทัวร์ ซึ่งได้ถูกระงับไว้ชั่วคราวเมื่อโยชิกิทรุดตัวลงหลังจากคอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน[5] ความสำเร็จนี้ทำให้วงได้รับรางวัล "กรังปรีซ์ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี" (Grand Prix New Artist of the Year) ที่งานรับรางวัลแผ่นเสียงทองคำญี่ปุ่นครั้งที่ 4 ประจำปี พ.ศ. 2533[10] ในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 เอกซ์ได้เดินทางไปยังลอสแอนเจลิสเพื่อที่จะเริ่มบันทึกเสียงอัลบั้มชุดต่อมาชื่อว่า เจลลัสซี[5][11] เมื่อกลับมาประเทศญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน สมาชิก 500 คนจากกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นได้มาที่ท่าอากาศยานเพื่อมาควบคุมฝูงชนที่แน่นขนัด[5] อัลบั้มนี้ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 และเปิดตัวมาอยู่ในอันดับ 1 ด้วยยอดจำหน่าย 600,000 แผ่น[12] ต่อมาได้รับการรับรองด้วยยอดจำหน่ายหนึ่งล้านแผ่นโดยสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของญี่ปุ่น (RIAJ)[13] ในเดือนสิงหาคม วงได้แสดงคอนเสิร์ตในร่มที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ที่โตเกียวโดม และได้มีรวมภาพจากการแสดงของวงในคอนเสิร์ตออกมาเป็นแผ่นซีดีและโฮมวิดีโอ การแสดงนี้เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ไวโอเลนซ์อินเจลลัสซี (Violence in Jealousy) ซึ่งกินเวลาไปจนถึงสิ้นปี และจัดขึ้นอีกครั้ง หลังจากงานแสดงดนตรีที่โยะโกะฮะมะอาเรนา (Yokohama Arena) เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม[5] ต่อมาในวันที่ 8 ธันวาคม เอกซ์ได้แสดงคอนเสิร์ตกับวงออเคสตรา ที่เอ็นเอชเคฮอลล์ (NHK Hall)[5]
พ.ศ. 2535 X เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น และพวกเขาเริ่มมีความคิดเข้าสู่ตลาดโลก ซึ่งขณะนั้นในสหรัฐอเมริกานั้นได้มีวงที่ชื่อ X อยู่แล้ว พวกเขาจังตัดสินใจเปลี่ยนชื่อวงจาก X เป็น X Japan และช่วงนี้เองเป็นช่วงที่พวกเขาขาดมือเบส เนื่องจาก ไทจิ มือเบสคนเก่า ได้ออกจากวงไปแล้ว ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2535 และก็ได้ ฮีธ (ฮิโรชิ โมริเอะ) เข้ามาเป็นมือเบสคนใหม่ ส่วนไทจินั้น หลังจากออกจากวง X ก็ได้ออกไปอยู่กับวง Loudness ซึ่งเป็นวงอาจารย์ของเขาเอง
4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 อัลบั้ม DAHLIA ออกวางจำหน่าย อัลบั้มนี้ออกวางจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้สังกัด East West Japan
22 กันยายน พ.ศ. 2540 X Japan ประกาศยุบวงที่ตั้งมายาวนานถึง 15 ปี โดยประกาศการยุบวงที่โรงแรมมิยาโกะ ในการแถลงข่าวครั้งนี้มีสมาชิกที่มา 4 คน คือ โยชิกิ, ฮิเดะ, พาตะ และ ฮีธ ส่วน โทชิ นั้นได้ลาออกจากวงไปตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยให้เหตุผลว่า มีความแตกต่างทางด้านแนวความคิดทางด้านดนตรี X Japan ไม่สามารถเปลี่ยนนักร้องนำใหม่ได้เพราะส่วนใหญ่เพลงของ X Japan แต่งโดยใช้พื้นฐานเสียงของโทชิเป็นหลัก จากการพิจารณาของสมาชิกทุกคนที่เหลือในวงหลายครั้งจึงตัดสินใจประกาศยุบวง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ต้นปี พ.ศ. 2550 โทชิ นักร้องนำ ได้ออกมายืนยันการกลับมารวมตัวกันใหม่ของ X Japan ผ่านทางหน้าเว็บของเขาและบนนิตยสารเล่มหนึ่ง[ต้องการอ้างอิง] ส่วนการยืนยันจาก โยชิกิ หัวหน้าวงนั้น ยังไม่มีความแน่นอน เพราะทางโยชิกิยังคงเสียใจกับการตายของฮิเดะ และการแยกวงเมื่อสิบปีก่อน เขาเขียนในมายสเปซของเขาไว้เพียงว่า "ขอเวลาสักพัก" [14]
ในวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2550 โยชิกิได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า กำลังทำโปรเจตท์เพลง "Without You" ซึ่งร้องให้ฮิเดะ ร่วมกับโทชิ และกำลังทาบทาม พาตะ และ ฮีธ เพื่อกลับมารวมตัวเป็น X Japan อีกครั้งนึง ซึ่งทางวงจะหานักกีตาร์ชื่อดังมาผลัดเปลี่ยนเล่นแทนตำแหน่งของฮิเดะ
ในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2550 X Japan ได้กลับมารวมตัวกันแสดงสดที่ Aqua City เมืองโอไดบะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ เพลง I.V. เพลงประกอบของภาพยนตร์ Saw IV ที่กำลังจะออกฉายในประเทศญี่ปุ่น[15]
ล่าสุด วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551 X Japan ได้ออกแถลงข่าวเรื่องคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ในชื่อคอนเสิร์ตว่า X JAPAN ATTACKS AGAIN 2008
และในวันที่02/05/09 ได้เล่นเพลงใหม่ชื่อว่า"Jade"ในการแสดงที่โตเกียวโดม และยัง ได้รับ สึกิโซะ มือกีต้าร์ ของวง Luna Sea เข้าเป็น สมาชิกคนที่ 6 อีกด้วย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 โยะชิกิประกาศว่าสตูโออัลบั้มชุดที่ 6 ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกในรอบ 20 ปี จะออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559[16] ในวันต่อมาเอกซ์เจแปนได้ไปแสดงที่เวมบิอารีนา (Wembley Arena) ในลอนดอน ซึ่งจะมีการฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับทางวงชื่อว่า วีอาร์เอกซ์[16] ซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม "บอร์นทูบีฟรี" ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558[17]
การแสดงทัวร์ทั่วญี่ปุ่นครั้งแรกของเอกซ์เจแปนในรอบ 20 ปี เริ่มขึ้นด้วยการแสดง 3 วันติดกัน ที่โยะโกะฮะมะอารีนาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ต่อด้วยที่โอะซะกะโจฮอลล์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่มารีนเมสเซอฟุกุโอะกะ (福岡国際会議場) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ฮิโระชิมะกรีนอารีนา (広島県立総合体育館) เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม และสิ้นสุดในวันที่ 14 ธันวาคม ที่นิปปอนไกชิฮอลล์ (名古屋市総合体育館)[18] และยังแสดงที่ โคฮะคุอุตะกัสเซ็น (Kōhaku Uta Gassen) เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีอีกด้วย
ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559 พาตะได้รับการรักษาที่ไอซียูของโรงพยาบาลโตเกียว เขาได้รับการวินิจฉัยว่าถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งได้แก่ การเกิดธรอมบัสหรือลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือด (Blood clot) ขั้นรุนแรง แต่อาการป่วยยังคงที่ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เอกซ์เจแปนจึงได้ประกาศว่าจะมีการเลื่อนการออกจำหน่ายอัลบั้ม และเลื่อนคอนเสิร์ตของปี พ.ศ. 2559 ที่เวมบลิอารีนาออกไป โดยได้เลื่อนออกไปแสดงในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560[19]
เมนูนำทาง
เอกซ์เจแปน ประวัติใกล้เคียง
เอกซ์เจแปนแหล่งที่มา
WikiPedia: เอกซ์เจแปน http://exclaim.ca/News/finally_100_greatest_japane... http://japan-discoveries.com/index.php?main_page=p... http://jrockrevolution.com/2007/08/webzine/the-jro... http://jrockrevolution.com/2007/10/webzine/indies-... http://loudwire.com/x-japan-new-album-documentary-... http://myspace.com/index.cfm?fuseaction=blog.view&... http://www.rollingstone.com/music/features/x-japan... http://blogs.sfweekly.com/shookdown/2010/10/x_japa... http://blogs.suntimes.com/music/2010/08/x_japan_th... http://metalhammer.teamrock.com/news/2015-10-13/x-...