เอียน วิคเตอร์ อันโตเนสคู (
โรมาเนีย: Ion Victor Antonescu) หรือมีสมญาว่า
หมาแดง (Câinele Roșu) เป็นนายทหาร, นักการเมือง และ ผู้นำเผด็จการชาวโรมาเนียและ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้นำแห่งรัฐ (Conducător) ในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้ปกครองแบบระบอบเผด็จการเป็นเวลาสองสมัยใน
สมัยระหว่างสงคราม ภายหลังสงคราม เขาได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรมสงครามและลงโทษด้วยการประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ทหารแห่งกองทัพโรมาเนียได้ทำการบันทึกชื่อของเขาในช่วงการก่อกบฏชาวนาโรมาเนียในปี ค.ศ. 1907 และ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งในการทัพโรมาเนีย จากการต่อต้านชาวยิวนั้น อันโตเนสคูได้เห็นด้วยกับการเมือง
ฝ่ายขวาและลัทธิฟาสซิสต์แห่งชาติคริสเตียนและกลุ่ม
ผู้พิทักษ์เหล็กอย่างมากในช่วงสมัยระหว่างสงคราม เขาได้เป็นผู้แทนทางทหาร (military attaché) ไปยังฝรั่งเศสและต่อมาได้เป็นเสนาธิการ ในช่วงเวลาสั้นๆก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในคณะรัฐมนตรีคริสเตียนแห่งชาติของ Octavian Goga ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1930 ด้วยจุดยืนทางการเมืองของเขาได้ทำให้เขาเกิดขัดแย้งกับ
สมเด็จพระเจ้าคาโรลที่ 2 และถูกคุมขังเอาไว้ อันโตเนสคูยังคงได้รับความนิยมทางการเมืองมากขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมืองในปี ค.ศ. 1940 และได้จัดตั้ง
รัฐเผด็จการทหารแห่งชาติ (National Legionary State) ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างไม่สบายใจกับผู้นำพิทักษ์เหล็กอย่าง โฮเรีย ซีมา ภายหลังจากโรมาเนียได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ
นาซีเยอรมนีและ
ฝ่ายอักษะ และมีความเชื่อมั่นต่อความมั่นใจอย่างแรงกล้าของ
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เขาได้กำจัดเหล่าผู้พิทักษ์ในช่วงการก่อกบฏทหาร (Legionary Rebellion) ในปี ค.ศ. 1941 นอกเหนือจากนั้นเขาได้เป็นผู้นำในการบริหาร เขาได้คั่วตำแหน่งเป็นสำนักงานการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่นานหลังจากโรมาเนียได้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะในปฏิบัติการบาร์บารอสซาคือการรุกราน
สหภาพโซเวียต ได้ชิงเอาแผ่นดินเบสซาราเบียและ Bukovina ทางตอนเหนือกลับคืนมา อันโตเนสคูได้กลายเป็นจอมพลแห่งโรมาเนียด้วยจำนวนที่ผิดปกติในหมู่ผู้กระทำผิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือ
ฮอโลคอสต์ อันโตเนสคูได้บังคับใช้นโยบายที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของผู้คนจำนวนมากถึง 400,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเบสซาราเบีย ยูเครน และโรมาเนียเชื้อสายยิว เช่นเดียวกับชาวโรมาเนีย โรมานี ด้วยการสมรู้ร่วมคิดของระบอบการปกครองในการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุรวมและการสังหารหมู่ เช่น การสังหารหมู่ที่โอเดสซ่าด้วยการขจัดชาติพันธุ์ การขับไล่เนรเทศอย่างเป็นระบบเพื่อยึดครอง
ทรานส์นีสเตรียและละเลยทางอาญาอย่างกว้างขวาง ด้วยระบบในสถานที่ยังคงมีความโดดเด่นด้วยความไม่สอดคล้องกัน การจัดลำดับในการปล้นสดมภ์ในการฆ่าทั้งหมด ได้แสดงความเมตตากับชาวยิวส่วนใหญ่ในราชอาณาจักรเก่า และในที่สุดก็ได้ปฏิเสธที่จะใช้มาตราการสุดท้ายตามที่ได้ถูกประกาศใช้โดยนาซีที่ได้ยึดครองยุโรปด้วยความสูญเสียอย่างหนักบนแนวรบด้านตะวันออกทำให้อันโตเนสคูเริ่มดำเนินการเจราสันติภาพที่ไม่สามารถหาข้อสรุปกับฝ่ายสัมพันธมิตร ภายหลังการเจรจา เขาได้ถูกขับออกจากตำแหน่งผู้นำในการก่อรัฐประหารโดย
พระราชาธิบดีไมเคิลที่ 1ซึ่งยังทรงพระเยาว์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่รู้จักในนามของการก่อกบฏพระราชาธิบดีไมเคิล ภายหลังจากถูกคุมขังในสหภาพโซเวียต ในช่วงเวลาระยะสั้น อันโตเนสคูได้ถูกส่งตัวกลับโรมาเนียซึ่งเขาได้ถูกไต่สวนโดยศาลของประชาชนพิเศษและถูกตัดสินโทษให้ประหารชีวิต นี่เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคดีที่ได้ผ่านการพิพากษาต่างๆของเขา กระบวนการความยุติธรรมได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากสำหรับการตอบสนองต่อความสำคัญอุดมการณ์ของ
พรรคคอมมิวนิสต์โรมาเนีย เรื่องที่เป็นแรงผลักดันของเหล่าชาตินิยมและความพยายามของกลุ่มฝ่ายขวาจัดเพื่อให้อันโตเนสคูได้พ้นข้อกล่าวหา ในขณะที่กลุ่มเหล่านี้ได้ยกย่องให้อันโตเนสคูกลายเป็นวีรบุรุษจากการที่เขาได้มีส่วนร่วมในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้รับกล่าวยืนยันอย่างเป็นทางการและถูกประณามกลับในภายหลังจากรายงานกรรมมาธิการวีเซิล ปี ค.ศ. 2003